16 เม.ย. 2020 เวลา 08:19 • ความคิดเห็น
ขายเสียง! อีกอาชีพที่น่าสนใจ
วันนี้ตะลุยตลาดโลกไม่ได้พาเพื่อนๆ ไปไหนไกลนะคะ แต่เรามามองหาแนวทางการหาเงินใกล้ๆ ตัวกันว่า มีอาชีพอะไรบ้างที่พอทำได้ในช่วงนี้ค่ะ
2
ในช่วงเศรษฐกิจตกสะเก็ดอย่างนี้ เพื่อนๆ หลายคนต้องการทำอาชีพเสริมหรืออาชีพอิสระที่สามารถทำงานที่บ้าน ซึ่งอาชีพผู้ประกาศ ผู้บรรยาย หรือนักพากย์เสียง เป็นหนึ่งในอาชีพที่สามารถจากที่บ้านได้ค่ะ
เราขอแชร์ประสบการณ์การเรียนคอร์ส IVOICE รุ่น 12 เมื่อวันที่ 20/ 21/ 27 และ 28 เมษายน 2562 (ปีที่แล้ว) ที่ DBS Studio แยกเหม่งจ๋าย เผื่อเพื่อนๆ จะได้ไอเดียเอาไปต่อยอดได้ในอนาคต
เราเข้าเรียนใน VIP Class ซึ่งเน้นการเรียนทั้งทฤษฎีและฝึกปฏิบัติไปด้วย และเมื่อเรียนเสร็จในแต่ละสัปดาห์ ทุกคนจะได้บันทึกเสียงเป็นเดโม (Demo) เสียงของตัวเองเพื่อนำไปเสนองานต่อได้เลย
Announcer คือผู้ประกาศ ส่วน Voice Over Artist คือผู้ใช้เสียงเป็นอาชีพ ซึ่ง คอร์ส How to be Announcer & Voice Over Artist หรือเรียกสั้นๆ ว่า IVOICE ของครูพี่หน่อย เป็นคอร์สที่สอนเทคนิคการใช้เสียงให้เหมาะกับงานต่างๆ
IVR หรือ Interactive Voice Response นั่นก็คือ ระบบตอบรับอัตโนมัติ เสียงนี้จะเน้นความเป็นมิตร เพราะเสียงที่สื่อออกมาเป็นหน้าตาและภาพลักษณ์ขององค์กร เป็นด่านหน้าที่คนจะติดต่อประสานงาน ความประทับใจแรกคือเสียงตอบรับที่ตอบกลับมา
อินโฟกราฟิค (Infographic) เป็นเสียงประกอบซึ่งเน้นความชัดของคำ ความกระตือรือร้น เป็นเสียงประกอบภาพหรือวิดิทัศน์ที่สามารถสร้างความสนใจให้สื่อนั้นๆ
สปอตโฆษณา (Spot Announcement) ประเภทนี้เพื่อนๆ คงคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นเสียงพากย์ประกอบในโฆษณาทั้งในวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งในแต่ละสปอตจะใช้เสียงแตกต่างกันไปตามอารมณ์และบุคลิกของสินค้าหรือ Mood & Tone ที่ลูกค้าต้องการสื่อภาพลักษณ์สินค้าออกมาตามแบบที่ต้องการ บางสินค้าต้องการสื่อให้สดใสร่าเริง บางสินค้าต้องการสื่อให้ดูเป็นทางการน่าเชื่อถือ เป็นต้น
งานนำเสนอ (Presentation) เสียงประกอบงานนำเสนอส่วนใหญ่จะเน้นความเป็นทางการ การออกเสียงอักขระต้องชัดเจน เน้นคำหรือข้อความที่ต้องการทำให้เรื่องนั้นๆ เด่นขึ้นมา ต้องบรรยายให้ผู้ฟังเข้าใจง่าย
และการพากย์เสียงในหนังสือเสียง การ์ตูน ละครและภาพยนตร์ต่างประเทศ รวมทั้งพากย์เสียงประกอบสติ๊กเกอร์ไลน์ ซึ่งเสียงประกอบจะเป็นไปตามบุคลิก ลักษณะของตัวละครนั้นๆ เช่น เด็กก็จะต้องใช้เสียงสูงเล็กๆ ใสๆ ส่วนวัยกลางคนหรือคนแก่ก็ต้องใช้เสียงทุ้มต่ำ บางครั้งต้องทำเสียงให้แหบพร่า เป็นต้น
สำหรับเราเอง การพากย์เสียงแบบนี้ยากที่สุดในบรรดาการใช้เสียงประกอบงาน โดยเฉพาะการพากย์การ์ตูน ละครและภาพยนตร์ต่างประเทศที่นอกจากจะต้องพากย์ให้เสียงตรงกับปากตัวละครแล้ว ยังต้องให้เข้ากับเพื่อนที่ร่วมพากย์อีกด้วย ทำให้เราเข้าใจอาชีพนักพากย์ว่าเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะ การฝึกฝน ไหวพริบ และประสบการณ์อย่างมาก กว่าจะชำนาญและสร้างชื่อจนเป็นนักพากย์ที่โด่งดังได้
เราใช้เวลาฝึกทั้งหมด 4 สัปดาห์ ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงช่วงค่ำ โดยครูพี่หน่อยจะให้ทุกคนนั่งประจำที่โดยมีไมค์และหูฟังประจำแต่ละคน ขั้นแรก ครูพี่หน่อยจะให้ทุกคนวอร์มเสียงเพื่อให้เสียงพร้อมต่อการฝึก
จากนั้นก็จะฝึกบรรยายและฝึกพากย์ตามบทเรียน ฝึกเทคนิคการใช้เสียง ดีไซน์เสียง ฝึกการสร้างเสียงให้เข้ากับอารมณ์และบุคลิกของสินค้า (Mood & Tone) โดยฝึกไล่ไปตั้งแต่ IVR อินโฟกราฟิค สปอตโฆษณา พรีเซนเทชั่น หนังสือเสียง พากย์เสียงประกอบการ์ตูน ละครและภาพยนตร์ต่างประเทศ รวมทั้งพากย์เสียงประกอบสติ๊กเกอร์ไลน์
อย่างที่ได้เรียนไปในตอนต้นว่า ในแต่ละสัปดาห์เมื่อเรียนเสร็จแล้ว ผู้เรียนจะต้องบันทึกเสียงของตัวเองหลังจากฝึกมาทั้งวัน ให้เป็นเดโม (Demo) เสียงเพื่อนำไปเสนองานต่อ
1
เดโม หรือ Demo คือสาธิตหรือของตัวอย่าง มาจากคำว่า Demonstration ซึ่ง Voice Demo ก็คือเสียงตัวอย่าง นั่นเอง
เวลาที่เราขายเสียงหรือต้องอัดเสียงงานประเภทต่างๆ เราต้องมีเดโมให้ลูกค้าฟังว่าเสียงเราประมาณไหน ถ้าไม่มีเดโมหรือเสียงตัวอย่างให้ลูกค้าฟัง ลูกค้าจะนึกไม่ออกว่าเสียงของเราเหมาะกับงานนั้นๆ หรือเปล่า เพราะเวลาที่ลูกค้าได้เสียงของเราไป เขาก็จะเอาไปเข้าที่ประชุมเพื่อตัดสินใจอีกทีหนึ่ง
ครูพี่หน่อยจะย้ำเสมอว่า เมื่อเรียนจบแล้วเราต้องพร้อมรับงาน ต้องพร้อมทำเงินได้ทันที และครูพี่หน่อยไม่ทิ้งลูกศิษย์ เพราะครูพี่หน่อยจะโพสต์ส่งงาน แนะนำงานให้ลูกศิษย์ได้ไปแคสต์หรือเสนองานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งลูกศิษย์ทุกรุ่นก็มีโอกาสนำผลงานของตัวเองไปเสนอให้ลูกค้าอยู่เป็นประจำ
ปัจจุบัน อาชีพผู้ประกาศ ผู้บรรยาย หรือนักพากย์เสียง สามารถทำงานจากที่บ้านได้ หากเพื่อนๆ มีโทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์ หากมีไมค์และตัวกรองเสียงด้วย ก็สามารถบันทึกเสียงจากที่บ้านได้เลย และถ้าเพื่อนๆ มีทักษะการตัดต่อเสียงด้วยก็จะส่งเสริมให้ทำงานจากที่บ้านได้อย่างสมบูรณ์โดยที่ไม่ต้องออกไปห้องอัดเสียงเลย (ยกเว้นบางงานที่ลูกค้าต้องการให้อัดเสียงที่ห้องบันทึกเสียงเท่านั้น)
เรทราคาของการลงเสียงบรรยายหรือพากย์เสียงก็แล้วแต่ชื่อเสียงและประสบการณ์ของผู้ประกาศหรือนักพากย์ ซึ่งอาจได้เป็นรายชั่วโมงหรือเป็นรายชิ้น ก็แล้วแต่ตกลงกับลูกค้า
ทราบว่าก่อนช่วงวิกฤติโควิด-19 ผู้ประกาศหรือนักพากย์หลายท่านต้องวิ่งรอกจนทำงานไม่ทัน เพราะสื่อออนไลน์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากบนแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊ค ทั้งยูทูป ทั้งพอดแคสต์ช่องทางทำเงินของนักขายเสียงยิ่งเปิดกว้าง ทำให้สร้างรายได้ตั้งแต่ 5 หลักปลายๆ ถึง 6 หลักก็มี
ผู้ประกาศหรือนักพากย์หน้าใหม่อาจจะเริ่มที่การส่งตัวอย่างเสียง (Demo) ของตัวเองไปฝากไว้ที่ Fastwork.co ซึ่งเป็นเว็บแหล่งรวมฟรีแลนซ์ที่หลากหลาย หรือส่งเดโมไปแคสต์ที่แอพหนังสือเสียง เช่น Meb E-Book หรือ Storytel เพื่อทำงานเก็บประสบการณ์ไปก่อน และเมื่อมีประสบการณ์มากๆ แล้ว รายได้ก็จะเพิ่มตามความชำนาญของเรา
ผู้ประกาศ ผู้บรรยาย หรือนักพากย์เสียงคืออีกหนึ่งช่องทางการหารายได้ในช่วงที่ทุกคนกำลังมองหาอาชีพเสริมค่ะ.
โฆษณา