20 เม.ย. 2020 เวลา 15:50 • ไลฟ์สไตล์
It’s me Challenge
กว่าจะค้นพบว่าตนเองเป็น ”ขนมปัง” 🍞😅
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณน้องหนึ่งจากเพจ “ยัยหนู ขอเล่า (Let me tell you) นะครับ ที่มอบภารกิจนี้มาให้ 😊
ขอทุกท่านโปรดเอนหลังให้สบาย บิดตัวไปมาเล็กน้อย แล้วมาเริ่มอดทนฟังเรื่องราวของผมกันเถอะครับ...
.
ผมชื่อ “วิน” เป็นบุตรชายของ วิxxx (ไม่บอกครับ เดี๋ยวโดนล้อ! แฮ่) กับ วีxxx (ปกปิดเพราะกลัวโดนล้ออีกเช่นกัน) เรื่องราวตลอดชีวิตที่ผ่านมาผมขอจับมันยัดลงไปใน 6 ภาพนี้ก็แล้วกันนะครับ
PART 1: หนังและความผูกพันวัยเยาว์
ตั้งแต่เล็กจำได้ว่าเด็กชายวิน มีเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นคนบ้าหนังสงครามมากครับ บ้านของเขาเปิดเป็นร้านเช่าวิดีโอ ผมและเขาจึงมีโอกาสได้ดูหนังสงครามต่างๆมากมาย ตั้งแต่ Midway, The Bridge on the River Kwai, แผนลอบสังหารฮิตเลอร์, Tora Tora Tora!!, The Great Escapes บลา บลาๆ
.
มันจึงส่งผลให้ผมเป็นคนชอบดูหนัง และซึมซับกับเรื่องราวชะตากรรมของผู้คนที่ต้องทนทุกข์ท่ามกลางไฟสงครามที่ไร้ปราณีมากๆ
PART 2: งานที่ร้าก
และมันก็ส่งผลจริงๆครับ มันทำให้ผมสนใจงานด้านการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอย่างมากมาย ผมรู้สึกอินกับความเศร้าของคน และดีใจทุกครั้งที่สามารถเช็ดน้ำตาให้เขา แม้เพียงสักหยดก็ยังดี
.
หลังจากไปเรียนที่อินเดียมา 6 เดือน และจบโท รัฐศาสตร์ IR ที่ไทย ผมจึงตัดสินใจเข้าทำงานกับองค์การระหว่างประเทศที่ทำงานเพื่อสังคมในด้านต่างๆ อาทิเช่น ด้านการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในแคมป์ตะเข็บชายแดน, ด้านการจัดการศึกษาที่เท่าเทียมให้กับเด็กทุกคน, ด้านสุขภาพของผู้แสวงหาที่พักพิง ฯลฯ
PART 3: กลิ่นคลอรีนในความทรงจำ
เอาจริงๆ ป.ตรี ผมจบ วิทยาศาสตร์การกีฬาครับ สาเหตุที่เรียน และเหตุผลที่รัก ก็คือผมชอบดูฟุตบอล และรักการว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจ เพราะมันเป็น “มรดกทางทักษะ” ที่สำคัญที่พ่อทิ้งสกิลการเอาชีวิตรอดในน้ำนี้ไว้ให้ผม
.
ผมเลยได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำของมหาวิทยาลัยครับ แต่ถ้าหากเขาเปลี่ยนกติกาใหม่ให้ผู้ถึงเส้นชัยอันดับสุดท้ายได้ที่หนึ่ง ผมคงจะไม่พลาดเหรียญทอง/เงิน/ทองแดง เป็นแน่แท้
.
สุดแท้แต่ ถึงผมจะพลาดทุกเหรียญที่ลงแข่งขัน แต่ ณ ปัจจุบัน มันก็สร้างอาชีพใหม่ให้ผม เพราะตอนนี้ผมเปิดโรงเรียนสอนว่ายน้ำกระตุ้นพัฒนาการเด็กพิเศษ อยู่ครับ แฮ่! 😅
PART 4: เติมเต็มความฝัน
โปสเตอร์ของบทหนังสั้นที่เขียน
ขอวกกลับมาเรื่องความบ้าหนังในวัยเด็กหน่อย เพราะมัน shape ตัวตนของผมอย่างมากมายเลย มันทำให้ผมรักการเขียน /มันทำให้ผมชอบการอ่าน และมันเป็นผู้สร้างความอยากจะเป็น นักเขียน ให้กับผม
.
เมื่อโตขึ้น ผมจึงได้มีโอกาสร่วมงานกับนักเขียนในดวงใจอย่างพี่คุ่น (ปราบดา หยุ่น) ในฐานะลูกค่ายวรรณกรรมสร้างสรรค์ และได้ออกผลงานเรื่องสั้น 1 เรื่องถ้วนในหนังสือ “สะกด4” (นี่ไม่ได้ไทน์อิน แต่อย่างใด 😅) อีกทั้งยังได้มีโอกาสขึ้นรับรางวัลชมเชยในการประกวดบทภาพยนต์สั้นแฟนตาซี ที่งานเทศกาลหนังนานาชาติมาเก๊าปี 2016 และในภาพคือลายเซ็นที่ผมทิ้งไว้ในงาน ซึ่งมันได้กลายเป็นรอยสลักในใจ ที่ผมมักใช้ยามรู้สึกท้อครับ (ณ ปัจจุบัน ผมยังคงรับงานเขียนบทภาพยนตร์อยู่นะครับ 😄)
PART 5: จุดกำเนิด “ขนมปัง”
หากถามว่า แล้ว “ขนมปังยามเช้า” เกิดขึ้นมาได้ยังไง จริงๆแล้วมันเกิดขึ้นมาหลังจากมรสุมของชีวิตผ่านพ้นไป และตะกอนในใจของมัน เปลี่ยนให้ผมมาเป็นคริสเตียนเมื่อราวสองปีก่อนครับ
.
ดั่งที่ในไบเบิลกล่าวว่า พระเยซูทรงเปลี่ยนขนมปัง 5 ก้อน กับปลา 2 ตัว ให้เพิ่มจำนวนทวีสำหรับเลี้ยงดูผู้คนหลายพันคนได้อิ่มเอม
.
“ขนมปังยามเช้า” จึงกลายเป็นพื้นที่สร้างกำลังใจ อันเกิดจากการที่ผมได้สังเคราะห์ตะกอนความคิดของตนเอง ภายหลังจากการ “เฝ้าเดี่ยว” ในทุกวัน เพื่อหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สักถ้อยคำที่พิมพ์ไว้ มันจะสร้างแรงกระเพือมของกำลังใจให้กับใครสักคนที่ได้อ่านมัน ขอรบกวนทุกท่านแวะเข้ามาชิมความรักจากมันได้เสมอนะครับ 😊
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพี่น้องชาว BD จากใจ ที่อดทนอ่านกันมาจนเกือบจบ ^^ และโอบกอดผมด้วยมิตรภาพดีๆจากตัวหนังสือตลอดมา
.
55 อาจดูเหมือนร่ำลา แต่ผมจะบอกว่า ไม่ได้ไปไหนครับ และขอส่งไม้ต่อไปให้กับเพจ
* ความลับจากไหล่ซ้าย
* รักนี้มีประกัน by พี่ดา
* และน้องใหม่ใน BD แบบผมทุกคนครับ
ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่าน 🙏
แล้วพบกันในบทความต่อไปนะครับ 😊
#aDailyBread
#ขนมปังยามเช้า 🍞😊 .... “It’s me”
โฆษณา