25 เม.ย. 2020 เวลา 03:23 • กีฬา
เกือบไม่ได้ลง
หากใครจำพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2004/2005 ได้ ฌิบริล ซิสเซ่ ถือว่าเป็นนักเตะที่มีสปีดความเร็วจัดจ้านมากที่สุดคนนึงในพรีเมียร์ลีก
ปีนั้น ราฟาเบนิเตช มักจะเล่นในระบบ 4-4-2 เป็นส่วนใหญ่ และคู่กองหน้าไม่มีใครที่เข้าขาไปกว่ามิลาน บารอส และ ฌิบริล ซิสเซ่ ในตอนนั้น
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะช่วงที่ฟอร์มกำลังเข้าที่เข้าทาง เจ้าตัวก็ดันมาขาหักแบบสยดสยองในเกมที่ลงเล่นกับแบล๊คเบิร์น ทำให้บางนัดลิเวอร์พูลต้องขยับหลุยส์ การ์เซีย ขึ้นไปเล่นเป็นตัวรุก บ้างก็ขยับแฮรี คีลล์ ขึ้นไปเล่นเป็นหน้าต่ำ
แต่ตอนแรกที่คาดว่าน่าจะเจ็บยาวหลายเดือน สุดท้ายเจ้าตัวก็กลับมาลงสนามได้ก่อนจบฤดูกาล ทำให้เขาได้เบียดเข้าเป็นตัวสำรองในแมตช์ปาฏิหาริย์ที่อิสตันบูล
ราฟา เบนิเตช เลือกมิลาน บารอส ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า และแฮรี่ คีลล์ ยืนเป็นหน้าต่ำ หลุยส์ การ์เซียร์ ยืนปีกขวา และรีเซ่ ยืนปีกซ้าย
เริ่มต้นเกมไปได้ 23 นาที เหมือนโชคจะเข้าข้างซิสเซ่ เพราะแฮรี่ คีลล์ ได้รับบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออก ถ้าดูจากรายชื่อตัวสำรอง
มีแค่เขาเท่านั้นที่เหมาะกับตำแหน่งนี้ และความเร็วก็ไม่เป็นสองรองใครทุกคนในสนาม
แต่ราฟาเลือกสมิสเซอร์ลงเล่นแทน
เรื่องนี้ซิสเซ่ไม่เห็นด้วยก็คงไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วสมิสเซอร์ คือหนึ่งในคนที่ทำประตูสุดสวยให้ลิเวอร์พูลไล่มิลานมาเป็น 2-3
พักครึ่งราฟาถอดฟินแนนที่มีอาการบาดเจ็บออก แล้วส่งดีทมาร์ ฮามันน์ ลงมาแพ็คเกมตรงกลาง
เหลือแค่โควตาเดียวเท่านั้นใน 45 นาทีที่เหลือกับผู้เล่นอย่าง สก๊อต คาร์สัน,นูเนซ,โฆเซมี,บิสคานและซิสเซ่
.
.
.
.
.
.
.
สุดท้ายซิสเซ่กลายมาเป็นคนหนึ่งในคนยิงจุดโทษให้ลิเวอร์พูลเฉือนชนะมิลาน 3-2 และเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนร่วมทีมกับท่าเต้นสุดฮาในตอนขึ้นไปรับถ้วย
โควตาสุดท้าย...ราฟาเลือกขา
#ปลายสตั๊ดสีแดง
โฆษณา