8 พ.ค. 2020 เวลา 23:47 • ท่องเที่ยว
Road Trip Norway 2019 (3) …Lofoten Islands : หมู่บ้าน Nusfjord
หมู่เกาะ Lofoten … ว่ากันว่าเป็นต้นแบบของเมือง Arendelle ของการ์ตูนดิสนีย์ Frozen .. มีความสวยงามเกินคำบรรยาย ด้วยความอัศจรรย์ของภูมิประเทศที่เปี่ยมเอกลักษณ์ของผืนฟ้า แผ่นน้ำ และภูเขาสูงที่สลับซับซ้อนเรียงตัวอย่างสวยงาม
.. ดินแดนสวรรค์ที่สัมผัสได้จริง ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ เหนือเส้น Arctic Circle เป็นถิ่นเก่าของเหล่าไวกิ้ง ที่ซ่อนเมืองเล็กๆที่เงียบสงบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
Lofoten เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ที่เมือง Nordland ทางเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นหมู่บ้านของชาวประมงที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการหาปลาในช่วงฤดูหนาว และทำปลาตากปลาแห้งส่งออกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
เอกลักษณ์ที่สำคัญของหมู่เกาะแห่งนี้ คือ กระท่อมสีแดงแบบดั้งเดิม ที่เรียกกันว่า Rorbuer ของชาวประมง ที่เปี่ยมเอกลักษณ์และโดดเด่นด้วยสีสันจัดจ้านตามริมฝั่ง ..
.. เป็นหมุดหมายให้ทุกคนที่มาเยือนต้องไปถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก … และว่ากันว่า ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับการดูแสงเหนือที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์
กระแสน้ำอุ่นไหลที่ไหลผ่าน ทำให้ในช่วงฤดูร้อน มีอากาศเย็นสบายที่อุณหภูมิราว 12-17 องศาเซลเซียส และมีทัศนียภาพที่งดงาม ที่ได้รับการโหวตให้เป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในนอร์เวย์
และเป็นหมู่เกาะที่สวยที่สุดในโลก และเหมาะสมอย่างยิ่งกับการถ่ายภาพ Landscape
วันนี้เราจะเริ่มออกไปเที่ยวชมและถ่ายภาพ Landscape ของเกาะในฝันกัน โดยขับรถบนถนนสายธรรมชาติ เส้น E10 ซึ่งเป็น Scenic Route แล้วแวะเมืองยอดฮิตของ Lofoten ไปเรื่อยๆ เพื่อเก็บภาพประทับใจให้ไหลช้าๆผ่านเลนส์กล้อง
ภาพภูมิประเทศใกล้ที่พัก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางวันนี้กันค่ะ .. ณ จุดนี้มีที่ให้นั่งพักชิล ชิล ส่งสายตาไปชมทะเลสีเทอร์คอยว์ที่มีภูเขาสีเข้มเป็นฉากหลัง
ฝั่งตรงข้ามของอีกฟากถนนเป็นภูเขาอีกเช่นเคย มีภาพสลักบนผาหินคล้ายๆเรือ แต่ไม่รู่แน่ชัดว่าเป็นภาพอะไร
เราเดินทางต่อ วิวที่ผ่านเข้ามาในสายตานั้นงดงาม ด้วยภาพของบ้านเรือนและบางช่วงมองเห็นทะเลสาบเล็กๆ ที่มี wave breaker กันคลื่น และมีเรือเล็กหลายลำจอดอยู่
“จอดๆๆๆๆๆๆ … ขอเก็บภาพตรงนี้หน่อยค่ะ” ฉันบอกรุตน์ สมาชิกชายคนเดียวของทริปนี้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นไกด็และช่วยขับรถให้พวกเรา
ทิวทัศน์ตรงนี้สวยมาก … เป็นทะเลสาบที่อยู่ตรงกลางระหว่างภูเขาสูงๆสีฟ้าเทาหลายลูกที่ซ้อนๆกันจนเกิดมิติที่สวยงามน่ามอง กับพื้นที่อีกด้านที่ติดถนน ที่โดดเด่นด้วยภาพของบ้านแบบ Turf House ที่หลังคามีหญ้าขึ้นคลุม
… สวยมหัศจรรย์ ด้วยองค์ประกอบของภูเขา สายน้ำ ท้องฟ้า และ Turf House ที่ตั้งอยู่ในมุมและองศาที่สมบูรณ์แบบ
เราขับรถมาเรื่อยๆ เลาะเลียบมาตามทางน้ำที่เกิดจากการหลอมละลายของธารน้ำแข็ง … ไม่นานเราก็ผ่านมาถึงจุดที่เห็นในภาพด้านบน
Lofoten ในฤดูร้อนเหมือนกำลังมีปาร์ตี้ดอกไม้ .. ดอกไม้ป่าสีนุ่มละมุนดอกเล็กๆ แข่งกันชูช่อเอนไหวไปมาตามแรงลม ราวกับจะโบกมือทักทายพวกเราที่มาเยือน และกำลังเพ่งมองของขวัญที่ธรรมชาติมอบให้ด้วยความชื่นชม เป็นเช้าที่รื่นรมย์มากมาย
เราเดินลงไปที่หาดกึ่งหินริมน้ำ .. เรือลำน้อย และกระท่อมสีสดที่ใช้เก็บเรือ หลังคามีหญ้าสีเขียวจัดจ้านคลุมอยู่เต็ม เป็นพร๊อพที่เปี่ยมเอกลักษณ์ของวิถีชีวิตของผู้คนแถบนี้ที่มีความผูกพันกับสายน้ำ
ภาพถ่ายสมบูรณ์แบบ เมื่อมีนางแบบไปนั่งบนหลังคา ... สวยด้วยฉากหลังที่เป็นภูเขาและสายน้ำ
ถนนสาย E10 นำทางเรามาเรื่อยๆ …
“ด้านหน้าคือ ภูเขาที่ผมเรียกว่า Batman mountain ครับ” .. รุตน์บอกกับพวกเรา
“ถนนสายนี้แคบ แต่ยาว มีช่วงที่ขับลงเนิน .. หากถ่ายรูปในช่วงนั้นจะสวยมากครับ” ..
เราถ่ายภาพตามที่ได้รับคำแนะนำ ซึ่งภาพออกมาสวยมากๆ …
… สวยจนอยากจ้องมองเอาไว้เนิ่นนานอยู่อย่างนั้น …
.. Batman, I am here .. Give me a hug! ..
ถนนสาย E10 นำทางเรามาเรื่อยๆ …
หลังจากให้ภาพภูเขาแสนสวยไหลช้าๆผ่านเลนส์กล้องมากมายแล้ว เราเดินทางต่อ .. ผ่านแนวเขาสูง ดูซับซ้อน .. แต่งดงามมาก
สิ่งที่ทำให้เราร้องกรี๊สสสสสส อยู่หลายครั้ง… Reflection ของภาพภูเขาที่สะท้อนเป็นเงาในน้ำ .. ผิวน้ำที่สงบนิ่งในยามที่ไม่มีคลื่น เหมือนกับแปลงร่างเป็นกระจกใส ภาพที่เห็นสะท้อนบนผืนน้ำจึงเหมือนภาพล้อเลียนภูเขาที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้าไม่ผิดเพี้ยน
ฉันเห็นภาพสะท้อนของภูเขาบนผืนน้ำมาหลายที่ ทั้ง นิวซีแลนด์ แคนาดา และที่อื่น .. ต้องขอโหวตให้ภาพที่เห็นในสายตาวันนี้ เป็นภาพสะท้อนที่สวยที่สุดค่ะ
การขับรถเที่ยว ทำให้เราสามารถใช้เวลาเท่าที่ต้องการ เพื่อชื่นทิวทัศน์ที่ผ่านเข้ามาเป็นระยะๆ และเก็บภาพได้มากเท่าที่ต้องการ .. บ่อยครั้งจึงเกิดอาการเสพติด (Addicted) การเดินทางแบบ Road Trip โดยไม่รู้ตัว
อยู่บนถนนอีกไม่นาน เรามองเห็นภาพกระท่อมหลังเล็กๆสีแดงเรียงรายอยู่บนผืนน้ำ ฉากหลังเป็นภูเขาสีเข้มอีกเช่นเคย .. เสียดายที่ไม่สามารถเก็บภาพสวยๆในระยะไกลได้ ด้วยเหตุที่ไม่มีไหล่ทางให้จอดรถ
บริเวณที่จอดรถในฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่ส่วนที่เป็นหมู่บ้านชาวประมง
Nusfjord .. เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆทางตอนใต้ของหมู่เกาะโลโฟเทน ในเขต Flakstad บนเกาะ Flakstadøya ซึ่งตั้งอยู่ในเขตฟยอร์ดที่มีชื่อว่า Vestfjorden
บริเวณชายฝั่งทะเลแห่งนี้ ถูกน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่งมีลักษณะแคบและยาว เว้าลึกเข้าไปในฝั่งระหว่างแผ่นดินสูงชันหรือระหว่างหน้าผาสูงชันตามเชิงเขา … มีบ้านพักชาวประมงที่เรียกว่า rorbu (rorbuer) น่ารักๆอยู่ใบหุบเขา
ในช่วงปี 1905 ชาวประมงซึ่งมีจำนวนราว 1,500 คน ใช้ถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย แลกเปลี่ยนปลากัน .. ชาวประมงส่วนใหญ่เป็นคนมาจากพื้นที่อื่นนอกหมู่เกาะ Lofoten
ครอบครัว Dahl ครอบครองอาคารและกระท่อมเหล่านี้จากปี 1847 จนถึงปี 2005 ซึ่งในช่วงนั้นเป็นระยะเวลาที่หมู่เกาะแห่งนี้รุ่งเรืองมาก มาจนถึงเวลาปัจจุบัน
ที่นี่ยังคงสภาพเป็นหมู่บ้านชาวประมง ที่มีท่าเรือในโลเคชั่นที่ดี สามารถใช้เป็นที่หลบพายุฤดูหนาวและคลื่นลมที่บางครั้งสุดบ้าคลั่งของหมู่เกาะแห่งนี้
เกร็ดเล็กๆที่เกี่ยวกับเรื่องสีแดงของกระท่อมที่เราเห็น ใครบางคนบอกว่า เพราะสีแดงเป็นสีที่ถูกที่สุดในเวลานั้น … อย่างไรก็ตามกลับทำให้ภาพสะท้อนน้ำของกระท่อมเหล่านี้งดงามมากกว่าปกติ
ปลาค๊อด เป็นปลาเศรษฐกิจของที่นี่ในช่วงปี 1910-1990 … ตับปลาค๊อดสามารถนำไปทำน้ำมันได้ 2 แบบ ชนิดคุณภาพสูงใช้เป็นยา ส่วนคุณภาพต่ำใช้เป็นส่วนประกอบของสีและน้ำมันหล่อลื่น .. กระท่อมสีแดงบนเนินเขา ใช้สำหรับรมควันแซลมอน
โบ้ทเฮ้าส์สีแดงสร้างมาตั้งแต่ปี 1877 ใช้เป็นที่เก็บอุปกรณ์สำหรับทำการประมง ซึ่งรวมถึงเน็ตที่ใช้ตกปลา .. โบ้ทเฮ้าส์ทางทิศเหนือใช้ในการประมงและเป็นเรือรับ-ส่งคนที่มาประกอบศาสนกิจที่โบสถ์
.. The Bakery สร้างขึ้นเมื่อปี 1877 เป็นที่ทำขนมปังให้กับชาวประมง และยังดำเนินการอยู่จนทุกวันนี้
.. บนเนินเขา เป็นสถานีไฟฟ้าในช่วงปี 1905 ซึ่งเก่าแก่ที่สุดเป็นอันอันดับสามของนอร์เวย์ ให้กระแสไฟฟ้าเพียงพอสำหรับอาคารบ้านเรือนและการเดินเครื่องจักร
Nusfjord .. แบ่งเป็น 2 พื้นที่ติดกัน มีบางส่วนที่ทำเป็นที่พักสำหรับคนที่ต้องการมาพักผ่อน
ที่นี่ มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เหมือนกับได้รับการเสกสรรมาอย่างประณีตบรรจง … ท้องฟ้าสีครามใส ผืนน้ำสีมรกต แทรกแซมด้วยบ้านชาวประมงสีสวยจัดจ้าน และมีภูเขาสูงตระหง่านเป็นฉากหลังที่งดงาม .. เมื่อแรกเห็นห็ต้องร้อง ว๊าวววว หลายๆครั้ง
ที่นี่ เหมือนเมืองในจินตนาการ มากกว่าจะเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงๆ
ด้วยเหตุที่เกาะ Lofoten อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ Norway สภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี ผู้คนที่อาศัยในเกาะแห่งนี้ประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก สิ่งที่ได้จากการประมงคือปลาค๊อด ซึ่งมีให้เห็นทุกหนทุกแห่งบนเกาะแห่งนี้ รวมถึงที่ Nusfjord ด้วย
ร้านค้า สร้างมาตั้งแต่ปี 1907 ได้รับการอนุรักษ์ในสไตล์ดั้งเดิมทุกอย่าง และยังเปิดให้บริการจนถึงทุกวันนี้ .. ชอบกรอบรูปปลาค๊อดที่มาอ้าปากเชิญชวนให้เข้าไป Kiss a fish!
ในปี 2005 อุตสาหกรรมประมงของโลโฟเทนประสบปัญหาหลายอย่างประเดประดังเข้ามา กิจกรรมการประมงต้องย้ายออกไปจากหมู่กาะ … Nusfjord กลายเป็นโลเคชั่นที่ไม่เหมาะสมในการทำประมงอีกต่อไป ต้องขายเปลี่ยนมือและ ถูกดัดแปลงให้กลายมาเป็น สถานที่พักผ่อน แต่ต่อมากลุ่มอาคารต่างๆได้รับการฟื้นฟูภายใต้การดูแลของ The Norwegian Directorate for Cultural Heritage
ปัจจุบันที่นี่ใช้เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์ และสถานที่พักผ่อน … ผู้คนมาที่นี่สามารถทำกิจกรรมหลายอย่าง เช่น เช่าเรืออกไปตกปลาในทะเลลึกเหมือนดังเช่นที่บรรพบุรุษเคยทำในอดีต หรือนำเรือของตนเองเข้ามาจอดที่ท่าเรือ แล้วออกไปเดินแทร๊กกิ้งตามเขา
… ส่วนในฤดูหนาวก็เป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาตามดูแสงเหนือกัน
ในปี European Architectural Heritage Year of 1975 … Nusfjord ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 สถานที่ในนอร์เวย์ในการส่งเสริมการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมโบราณที่ทรงคุณค่า
ผู้มาเยือนจากแดนไกลอย่างเรา … เลือกที่จะเดินเล่น ถ่ายภาพ และปล่อยตัวปล่อยใจให้ชื่นชมกับทัศนียภาพที่งดงามรอบๆตัว
ฉันชอบอาคารสีเหลืองด้านหน้าที่เป็นเหมือน Reception Area .. ด้านหน้ามีที่นั่งให้ดื่มชากาแฟ หรทิแม้แต่นั่งนิ่งๆ ปล่อยตัวให้รื่นรมย์ไปกับความสงบของบรรยากาศรอบตัว
… แนวไม้ที่เรียงตัวกันเหมือนลูกคลื่น .. เริ่ดมากๆ
ตามของหน้าต่างด้านหลังร้านค้าที่เป็นเรือนไม้ .. เป็นบ้านหลังน้อยของนกนางนวลอาร์กติกหลายครอบครัว ที่มาลงหลักปักฐานยึดเอาเป็นทำเลในการสร้างรัง วางไข่ และเลี้ยงดูลูกน้อย น่ารักมาก
... เป็นการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ สันติ และกลมกลืน ระหว่างมนุษย์กับสรรพชีวิตอื่น
กระท่อมไม้สีแดง .. เหมือนอัญมณีที่ซ่อนตัวเข้ารายล้อม โอบกอดท่าเรือกระจ้อยร่อยเอาไว้ในอ้อมแขน
... ภาพที่ปรากฏในสายตา ผสมผสาน กลมกลืน ดูงดงาม ...
ราวแขวนปลาค๊อดตากแห้ง .. นัยยะว่า ที่นี่เคยเป็นชุมชนของชาวประมง
ลองดึงเชือกเส้นใหญ่ดู … เชือกหนักมาก ชาตินี้คงทำอาชีพประมงไม่ได้แน่นอน
ในวันที่เราไปเยือนมีเรือขนาดต่างๆมาจอดเรียงรายที่ท่าเรือหลายลำ กิจกรรมทางน้ำของที่นี่คงเป็นที่นิยมไม่น้อยเลย
เราตั้งใจจะไปชมภาพพาโนรามาของ Nusford ในมุมสูง … ซึ่งต้องเดินขึ้นเนินไปด้านบนของท้ายหมู่บ้าน
… เดินขึ้นมาสักเดี๋ยว เราแวะเข้าไปดูอาคารที่กำลังสร้างและตกแต่งใหม่เอี่ยม สถาปัตยกรรมด้านนอกดูแปลกตาดี
ภาพ Nusford ในมุมสูง … สวยมากๆ
โฆษณา