22 พ.ค. 2020 เวลา 10:49 • ท่องเที่ยว
Egypt : Arbu Simel The Temple of Hathor and Nefertari วิหารแห่งเทพฮาร์ธอ และเนเฟอจารี
ทางซ้ายห่างจาก วิหารอาบูซิมเบล ราว 100 เมตร เป็นที่ตั้งของ วิหารที่สลักเสลาหินจากภูเขาลูกหนึ่งติดกับวิหารหลัก เป็นวิหารที่ฟาร์โรห์ Ramses II สร้างเอาไว้เป็นอนุสรณ์แด่พระนาง Nefertari พระราชินีที่พระองค์รักและโปรดมากที่สุด … วิหารนี้ เป็นวิหารที่เกี่ยวข้องกับเทพธิดา ฮาธอร์
การสร้างวิหารให้กับพระมเหสีโดยองค์ฟาโรห์ พบไม่บ่อยในประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณ แต่ก็ยังมีอยู่บ้าง เช่นในสมัยของ Amenhotep III (150 ปีก่อนรามเสสที่ 2) ก็มีการสร้างวิหารให้กับพระมเหสี Tiye เช่นกัน
ฟาโรห์รามเสส ยกพระนาง Nefertari ไว้เหนือสตรีอื่นใด และสูงส่งเทียบเท่าองค์ฟาโรห์เลยทีเดียว พระองค์ทรงสร้างวิหารให้พระนางโดยเฉพาะ รูปจำหลักของพระนางเนเฟอร์ตารีที่หน้าวิหารนั้น ก็สูงใหญ่ยืนเทียบเทียมเท่ากับองค์ฟาโรห์ อย่างที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน
พระนางเนเฟอร์ตารีได้เสด็จไปร่วมพิธีเปิดวิหารหินตัดแห่งอาบูซิมเบลในปีที่ 24 แห่งรัชสมัยของฟาโรห์รามเสสที่ 2 แต่หลังจากนั้นพระองค์ก็หายไปจากประวัติศาสตร์ .. จึงมีการคาดการณ์และเชื่อว่าพระองค์น่าจะสิ้นพระชนม์ราวปีที่ 25 แห่งรัชสมัยของฟาโรห์รามเสสที่ 2 เมื่อมีพระชนมายุได้ราว 40-50 พรรษา
ด้วยความรักมากมายที่มีต่อพระมเหสี ฟาร์โรห์รามเสสที่ 2 จึงสร้างสุสานที่พำนักชั่วนิรันดรของมเหสีอันเป็นที่รักยิ่งของพระองค์อย่างงดงาม หรูหรา และอลังการ ราวปี 1264 BC โดยใช้เวลาก่อสร้างราว 20 ปี
1
***ขณะที่เขียนก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงตำนานความรักอมตะของกษัตริย์ ชาร์ จาฮาล แห่งราชวงศ์โมกุล ของอินเดีย ที่โปรดให้สร้าง ทัชมาฮาล เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของพระองค์ที่มีต่อ พระนางมุมตัสมาฮาล มเหสีอันเป็นที่รักยิ่งของพระองค์
วิหารศิลาแห่งนี้สูง 24 เมตร มีลักษณะคล้ายกับวิหารอาบูซิมเบลทั้งการใช้งาน และลักษณะโครงสร้าง เพียงแต่วิหารนี้มี Pillar Hall แค่ห้องเดียว
วิหารแห่งนี้ถูกทิ้งร้างมานานนับพันปี เช่นเดียวกับวิหารของรามเสสที่ 2 จนเกือบจะพังทลายและสูญหายไปกับการกลืนกินของทรายสายน้ำ … หลังจากถูกค้นพบ จึงมีการย้ายและประกอบขึ้นมาใหม่ จนตั้งตระหง่าน สวยงาม เป็นมรดกแก่ชาวโลกจนถึงทุกวันนี้
*** ภาพประกอบจากการถ่ายภาพมาจากพิพิธภัณฑ์อาบู ซิมเบล
The Facade
ด้านหน้าของวิหาร … มีรูปสลักของฟาโรห์รามเสสที่สอง ในท่ายืนสี่รูป สลับ กับรูปสลักของราชินีเนเฟอร์ตารี่ ในท่ายืนอีกสองรูป โดยความสูงของรูปสลักของทั้งสองพระองค์มีขนาดใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะแสดงถึงพระเกียรติ์ และความยกย่องที่พระนางได้รับจากองค์ฟาโรห์
ตรงตำแหน่งเท้า … มีรูปสลักของโอรส 4 พระองค์ และพระธิดา 2 พระองค์ .. เพื่อทำการบวงสรวงเทพีฮาธอร์ อันเป็นเทพีแห่งดนตรีและความรัก เปรียบเสมือนความรักระหว่างทั้ง 2 พระองค์
พระนาง Nefertari สวมศิราภรณ์เขาวัวในแบบของเทพีฮาธอร์ .. ฟาโรห์ รามเสสที่ 2 สวมมงกุฎหลายแบบ และมีอักษรเขียนบนบ่าเช่นเดียวกับที่เห็นที่ The Great Temple
The Pillared Hall
เมื่อผ่านประตูทางเข้า เข้ามาด้านใน จะเป็น The Pillared Hall of Small Temple
เราจะเห็นทันทีว่าวิหารนี้อุทิศแด่เทพีแห่งดนตรีและความรัก คือ เทพฮาธอร์ เพราะมีรูปสลักขององค์เทพอยู่บนหัวเสา (Hathor Pillar)
มองไปที่ด้านซ้ายของเสาที่ 2 จะเห็นเทพ Thoth เสาฝั่งตรงข้ามมีรูปของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ถวายสักการะด้วยธูป
ด้านหลังสุดด้านซ้าย จะเห็นรูปของเทพีฮาธอร์นั่งรับดอกไม้เป็นเครื่องสักการะ และด้านหลังขวา เป็นรูปของเทพี Mut นั่งรับเครื่องสักการะเช่นเดียวกัน
บนผนังด้านหลังเสาต้นหนึ่ง มีภาพของรามเสสที่ 2 รับการสวมมงกุฎโดย Horus of Maha (ขวา) และ Seth of Nubet (Seth เป็นเทพเจ้าที่ปกป้องฟาโรห์ และเป็นผู้ให้พลังอำนาจเมื่อฟาโรห์อยู่ต่างแดน)
Nefertari ในศิราภรณ์แบบเทพี ฮาธอร์ ถวายดอกไม้แด่เทพี Anukis เทพีแห่งแม่น้ำไนล์
ภาพในมีภาพของรามเสสที่ 2 กำลังจะฆ่าศัตรูชาวนูเบี้ยน เพื่อรักษาความมั่นคงและความสงบของบ้านเมือง โดยมีพระนางเนฟอตารียืนอยู่เบื้องหลัง
ฟาโรห์และพระราชินี ถวายสักการะแก่ เทพี Taweret
ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ถวายสักการะแก่ เทพีฮาธอร์ ที่อยู่ในรูปของวัวที่ยืนอยู่บนเรือ
Nefertari ได้รับการสวมมงกุฎจากเทพี อาธอร์ และเทพีไอซิส
เทพีฮาธอร์ ในรูปของวัว โผล่หน้าออกมาจากหิน ในขณะที่รามเสสที่ 2 ถวายสักการะด้วยดอกไม้
รามเสสที่ 2 ถวายสักการะเทพเจ้า Re ด้วยไวน์
Nefertari ในเบื้องหน้าของเทพี Hathor of Dendara
มุมภาพที่มองเห็นมหาวิหาร Abu Simbel และวิหารของพระนางเนเฟอตารี
Note: เมื่อเขียนถึงพระนางเนเฟอตารี ก็น่าจะอยากเห็นสุสานของพระนางในหุบผาราชินี ซึ่งสวยงามอลังการมากๆ และปกติจะไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านในสุสาน .. แต่ช่วงที่เราไปเยือน เขาให้ถ่ายรูปได้
*.. หากเขียนทันก็จะเล่าเรื่องให้ฟัง และนำภาพสวยๆมาให้ชมนะคะ
โฆษณา