28 พ.ค. 2020 เวลา 15:13 • ความคิดเห็น
ผู้นำ turnaround: เปลี่ยนแปลงได้ แค่ใจถึง(ใจ)
เมื่อบริษัทมาถึงจุดต่ำสุด ปล่อยไว้คงไม่ได้อีกแล้ว
แต่การจะผลิกฟื้นบริษัทที่ขาดทุนย่อยยับ มานานหลายปี
จะหามือดีที่ไหนมาจัดการดี??? มองไล่เรียงผู้บริหารที่มี
คนนี้น่าพึ่งพาได้ เอาว่ะลองดูสักตั้ง....
ณุ รองประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ในอาเซียน ซึ่งประกอบธุรกิจหลายอย่าง เพิ่งถูกแต่งตั้งให้ไปช่วยดูบริษัทเจ้าจำปีจำกัด ที่กำลังขาดทุนอย่างหนัก ใกล้ล้มละลาย
แน่นอนว่ามันเป็นเผือกร้อนของ ณุ ด้วยสถานะบริษัทก็โคม่า
สถานการณ์ของอุตสาหกรรมก็แดงเดือด
ระหว่างนั่งกินข้าวแกงสลับถอนหายใจ ธอน ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ดูดโอเลี้ยงผ่านมาพอดี
....
“พี่ณุ ดีใจด้วยพี่ได้โปรเจ็คใหญ่อีกแล้ว” ธอนกล่าวยิ้มๆ
“ดีใจทำไมว่ะไอ้ธอน พี่เบื่อว่ะ อยากทำงานสร้างสรรค์แบบเอ็งบ้าง วันก่อนที่เอ็งไปทำโฆษณาขายโปรเจ็คเตอร์ตามกำแพงได้ใจพี่มาก” พี่ณุพูดเสร็จก็ก้มหน้ากินเกาเหลาต่อ
“เอางี้พี่ แลกกันไหม 555” ธอนแหย่รุ่นพี่พร้อมเสียงหัวเราะ
“พี่ณุดูเครียดๆนะ เอางี้ผมแนะนำให้เรื่องนี้พี่ต้องรีบ วางเป้าหมาย หาเพื่อนเก่ง เร่งสื่อสาร” ธอนพูดไปเคี้ยวน้ำแข็งไป
“ฟังดูดีว่ะ แล้วไงต่อว่ะ” สายตาพี่ณุ เริ่มมีรอยยิ้มเเห่งความหวัง
....
ธอนได้ทีกอดอกร่ายยาว ตามสไตล์หนุ่มไฟแรง ผู้มั่นใจในตัวเองสุดๆ
1. เราก็ต้องวางเป้าหมาย
ขั้นแรก “พี่ต้องกระตุ้นให้พนักงานให้มีกำลังใจ และวางเป้าหมายของแต่ละแผนก ทั้งระยะสั้นและกลางก่อน”
“เป้าหมายที่ว่าสั้นกลางนี้กี่ปีว่ะ ธอน” พี่ณุ เริ่มหน้ามุ่ย
“แล้วแต่พี่เลย 555 แต่เป้าหมายที่ว่า พี่ต้องให้การสนับสนุนพวกพนักงานด้วยนะ พี่จะแค่ปักธงแล้วไปรอปลายทางเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว” ธอนยืนล้วงกระเป๋าพูดเสียงหนักแน่น
พี่ณุ ได้แต่ขยับแว่นหนาเตอะ แล้วพยักหน้าตาม พลางจดคำคมของธอน
“แล้วทำไมต้องมีเพื่อนเก่ง ละธอน??” พี่ณุถามอย่างสงสัย
2. เราต้องคบเพื่อนเก่ง
“โธ่พี่ พี่ดูผมสิ จะทำอะไร ผมต้องมีคนที่เก่งและชำนาญมากกว่าอยู่รายล้อม เพื่อเป็นทั้งที่ปรึกษา หรือเป็นคนลงมือทำงาน ผมจะไปรู้ทุกอย่างได้ไง ปวดหัวตาย”
“ดูอย่างปิยะ นั้นก็มือกฏหมาย ส่วนลิ้มก็ทำนามาก่อนรู้เรื่องเกษตร นี้ยังมีอีกหลายคนที่ผมชวนมาช่วยงาน” ธอนไล่นิ้วกล่าวถึงเพื่อนๆของเค้า
...
"พี่เข้าใจละ เอาคนที่รู้ในหลายๆด้าน มาช่วยกันต่อภาพ
ที่เราไม่รู้ ให้เห็นทางแก้ปัญหาชัดเจนขึ้น” พี่ณุเริ่มมีรอยยิ้ม ก้มหน้ากินข้าวต่อ
“แล้วเรื่องสื่อสารมันสำคัญยังไง” พี่ณุ เงยหน้าสบตาธอนอีกที
3. สื่อสารด้วย(ความเข้า)ใจ
"ช่วงนี้อะไรๆมันก็แย่นะพี่ ทุกคนอารมณ์ขุ่นมัว มันง่ายมากที่พนักงานจะกระทบขัดใจกัน” ธอนพูด เอื้อมมือมาตบบ่ารุ่นพี่
“นั้นนะสิ ยังไม่ทันไร ก็ต่างชี้นิ้วกันไปมาว่า คนโน้นผิด คนนี้พลาด” พี่ณุดูดโอเลี้ยง เฮือกใหญ่ พลางกัดหลอกแก้เครียด
“พี่ต้องใจกว้างนะ เข้าไปนั่งอยู่ในใจของพวกเข้าให้ได้ เห็นใจ และรู้ถึงความรู้สึกของทุกๆคน เข้าใจในมุมมองที่แตกต่าง” สายตาของ ธอนมองพี่ณุ อย่างมีความหวัง
“ถ้าพี่เปิดใจได้ แล้วทีมงานพี่ผ่อนคลายมากขึ้น พี่จะได้ยินข้อคิดเห็น คำแนะนำดีๆ จากคนที่อยู่หน้างาน ที่เรานำไปใช้ได้เยอะที่เดียว” ธอนทิ้งท้าย ก่อนจะบอกลา เพื่อไปประชุมต่อ
เรื่องนี้เป็นเพียงนิยาย ตัวละครและเหตุการณ์เป็นสิ่งสมมติ
ไม่มีเรื่องจริงทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต อย่าไปคิดมากนะครับ 🤣🤣
แต่เรื่องจริงเพียงอย่างเดียวคือผู้นำ ที่ทำงานได้สำเร็จ โดยเฉพาะงานยากๆอย่างการผลิกฟื้นบริษัท ควรมี
• เป้าหมาย (ชัดเจน)
• คบคนที่เก่งกว่าตน (และฟังเค้าแนะนำด้วย)
• สื่อสารกับทุกฝ่าย (ทั้งลูกน้องและลูกค้า) อย่างจริงใจ
ธอนได้เดินจากไปสักพักแล้ว
....
ขณะที่พี่ณุ เริ่มมีความหวัง
สิ่งแรกที่เค้าคิดออกคือ หาเพื่อนเก่งมาช่วย แน่นอนว่าคนแรกที่เค้านึกถึงและโทรหาคือเกลอเก่าที่รู้มือกันมา 10 ปี ...
....
เมื่อปลายสายกดรับ...
พี่ณุตะโกนใส่อาม่าโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด อย่างดีใจ
....
....
....
“เฮ้ย ไอ้สิน กลับจากลอนดอนยังว่ะ มาช่วยงานหน่อย”
โฆษณา