30 พ.ค. 2020 เวลา 09:33 • ท่องเที่ยว
Road Trip Norway 2019 (16) … Stavanger เมืองหลวงแห่งน้ำมันของยุโรป
Stavanger เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 4 ของนอร์เวย์ และได้รับการขนานนามให้เป็น เมืองหลวงแห่งน้ำมันของยุโรป .. เขตเมืองตั้งอยู่บนคาบสมุทรบริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ อากาศจึงอบอุ่นกว่าทางตอนเหนือ และมีฤดูใบไม้ผลิที่ยาวนานกว่าของประเทศ แต่มีฝนตกชุกและลมที่ค่อนข้างแรง
ในอดีต .. ดินแดนในบริเวณนี้เติบโตขึ้นจากการเป็นศูนย์กลางของศาสนจักรและเมืองท่าทางการค้าที่สำคัญของยุโรปเหนือ รวมถึงเป็นศูนย์กลางของการเดินทางไปยังเกาะอังกฤษของชาวไวกิ้ง
ต่อมา .. ในศตวรรษที่ 15 เมืองนี้ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก ทำให้สถานะของการเป็นศูนย์กลางของศาสนจักรเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงยุคกลางได้เกิดไฟไหม้ใหญ่และมีโรคระบาดอีกหลายครั้ง ทำให้เมือง Stavanger ตกต่ำอย่างที่สุด
เศรษฐกิจของเมืองได้ขยายตัวอีกครั้งราวปี 1870 เมื่อธุรกิจการประมงและการขนส่งทางเรือได้รับความนิยมลดลง และชาวเมืองได้หันมาผลิตปลาแฮริ่งดองและบรรจุกระป๋องขายส่งออกเป็นปลาซาร์ดีนนอร์เวย์ ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก .. ต่อมามีการแข่งขันจากประเทศต่างๆมากขึ้น อุตสาหกรรมปลากระป๋องก็เกิดปัญหาอีกครั้ง
เมื่อมาถึงทศวรรษ 1960 มีการขุดพบแหล่งทรัพยากรปิโตรเลี่ยมนอกชายฝั่งของเมือง จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีการพัฒนาให้เมืองนี้เป็นจุดศูนย์กลางการขุดเจาะสำรวจน้ำมันในแถบทะเลเหนือ ซึ่งนำมาซึ่งความมั่งคั่ง และการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนเป็นเมืองที่มีการส่งออกน้ำมันหลักของโลกมาจนถึงปัจจุบัน
เราเดินทางมาถึงเมือง Stavanger ในช่วงค่ำแล้ว แต่แสงสว่างยังคงมีอยู่ ฉันอยากจะเก็บภาพของเมืองและท่าเรือในช่วงแสงทไวน์ไลท์ จึงออกเดินจากที่พักมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือซึ่งอยู่ไม่ไกล
Breiavatnet .. ทะเลสาบขนาดเล็กกลางเมือง ในสวน Byparken park ตั้งอยู่ใกล้ๆกับโรงแรมที่เราพัก และเป็นทางผ่านก่อนจะถึงท่าเรือ
ทะเลสาบแห่งนี้รับน้ำมาจาก ลำธาร Kannikbekken stream ซึ่งไหลมาที่ทะเลสาบ Mosvatnet ก่อนที่จะไหลผ่านเข้ามาที่เมือง
Stavenger .. น้ำจากลำธารช่วงที่ไหลผ่านเข้ามาในเมืองถูกผันไปอยู่ใต้ดินทางท่อที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1899
น้ำพุกลางทะเลสาบ .. สร้างเพิ่มเติมในปี 1924
ในช่วงเวลาค่ำโพล้เพล้ที่กำลังมีแสงมลังเมลืองจากแสงไฟจากอาคารในฝั่งตรงข้ามกับจุดที่ฉันยืนเก็บภาพ ทะเลสาบแห่งนี้ดูสวยมาก
ด้านหนึ่งของสวนสาธารณะและทะเลสาบ มีอาคารหลังหนึ่ง ซึ่งฉันไม่รู้ประวัติ .. ด้านหน้าอาคารมีรูปปั้นเด็กชาย และจระเข้ .. สวยดี
ทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่ของสรรพสัตว์อีกหลายชนิด เช่นนกหลายสายพันธุ์ ที่เห็นมากก็มี นกนางนวลหงส์ และนกนางแอ่น
รอบๆทะเลสาบ มีการประดับด้วยรูปปั้นหลายรูปแบบ มีม้านั่งสำหรับให้ผู้คนนั่งพักผ่อน
พื้นที่ติดถนน ริมทะเลสาบมีอาคารที่พัก
Vagen Stavenger ท่าเรือที่มีชีวิตชีวา
ท่าเรือเก่าเมือง Stavenger ในช่วงทไวน์ไลท์ … มองเห็นรูปปั้นบุคคลสำคัญตั้งอยู่ริมถนน และทางที่จะเดินลงไปยังท่าเรือ และตั้งอยู่ใกล้ๆกับ Cathedral
ในบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของร้านอาหารแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี รวมถึงมี Mobile Food Trucks ที่มีผู้คนแวะเวียนเข้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย
ช่วงค่ำวันนี้มี Concert มีผู้คนที่ชื่นชอบและมีดนตรีในหัวใจไปร่วมงานมากมาย บรรยากาศสนุกสนาน คนที่มาร่วมงานปล่อยกายและใจให้ลื่นไหลไปตามครรลองของเสียงเพลง ส่วนคนที่มานั่งดื่มกินอาหาร ก็ฉลองวันแห่งความสุขนี้ไปพร้อมๆกัน
ท่าเรือแห่งนี้ใช้เป็นที่จอดเรือขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ รวมไปถึงอาคารเก่าแก่สีสันสดใสมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11
Skagenkaien .. เป็นถนนทางทิศตะวันออกของท่าเรือ Vagen เป็นถนนคนเดินที่มีชีวิตชีวามาก มีที่นั่งกลางแจ้งอยู่โดยรอบให้เลือกนั่งได้ชิล ชิล .. มีพื้นที่สำหรับจัดงานเทศกาลต่างๆ
ถนนสายนี้มีชื่อเสียงว่าเป็น vibrant nightlife street ของเมือง .. มีร้านอาหาร ภัตตาคาร บาร์ มากมายทตั้งเรียงรายอยู่ริมถนนในอาคารไม้เก่าสวยๆจากศตวรรษที่ 19
มีโรงแรมสวยมากๆ ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ด้วย และเท่าที่สังเกตุเห็น อาคารต่างๆมักจะสร้างจากไม้ และทาสีต่างๆ ดูเท่ห์ และมีคลาสดีมาก
ในช่วงกลางคืน .. มีเรือแบบ Leisure Boats ขนาดไม่ใหญ่มากลอยลำอยู่ในท่าเรือ ส่วนเรือที่จะพานักท่องเที่ยวออกไปชม Lysefjord จะจอดอยู่ด้านนอกออกไป
ฝั่งตะวันตก .. มองเห็นอาคารสวยๆเรียงรายเป็นแถว แต่คืนนี้คงจะดึกเกินไปสำหรับการไปเดิน ฉันหมายตาไว้ว่าพรุ่งนี้เช้าไปเดินชมค่ะ
เราตื่นแต่เช้า .. ตั้งหมุดหมายจะเดินไปชมบรรยากาศรอบๆท่าเรือ แล้วแวะไปเที่ยวในเขตเมืองเก่า
ชอบอาหารเช้าของโรงแรมนี้ที่มีเมนูหลากหลายให้เลือกทาน รวมถึงการตกแต่งภายในห้องอาหาร ก็ดูมีรสนิยมที่ดีมากมาย
เราเจอคนไทยที่ทำงานในห้องอาหารแห่งนี้หลายคน เมื่อพูดคุยกัน เลยรู้ว่า คนไทยนิยมมาทำงานในนอร์เวย์ มีรายได้ดี มีชีวิตครอบครัวที่ดี และคนที่นี่ก็ชอบคนไทยด้วย
หลังอาหารเช้า เราเดินไปตามทางเดิน มีศิลปะแบบ Street Arts สวยๆให้ชื่นชม และเก็บภาพอยู่ไม่น้อย
เราเดินมาตามเส้นทางถนนที่ฉันผ่านมาเมื่อคืนที่ผ่านมา .. เช้านี้ทะเลสาบดูสงบเสงี่ยม อากาศดีมาก
บรรยากาศท่าเรือยามเช้า… ดูสงบเงียบกว่าคืนที่ผ่านมา ลานหน้าท่าเรือมีแผงขายสินค้าของชาวบ้าน นำสินค้าหัตถกรรม เสื้อผ้า เครื่องประดับ และของที่ระลึก มาวางขายให้กับนักท่องเที่ยว
ที่หน้าอ่าว … มีเรือเร็วจอดอยู่หลายลำ และมองเห็นว่ามีเรือสำราญขนาดใหญ่มาจอดทอดสมออยู่ด้วย
Vagen Stavenger เป็นท่าเรือที่มีเรือสำราญขนาดใหญ่แวะพานักท่องเที่ยวมาแวะพักเสมอ ด้วยเสน่ห์ของเมืองเก่า ที่มีประวัติศาสตร์ความรุ่งเรืองมายาวนานในอดีต ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และยังมีชีวิต มีผู้คนสืบสานการอยู่อาศัยมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเป็นท่าเรือที่สามารถแวะไปเที่ยวชม ฟยอร์ด ที่มีชื่อเสียงได้
เช้านี้เรามาเดินชมท่าเรือทางด้านทิศตะวันตก ..
Stavanger Maritime Museum .. พืพืธภัณฑ์การเดินเรือ ตั้งอยู่ในอาคารไม้สีขาวในเขตเมืองเก่า จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของการเดินเรือ การขนส่งทางน้ำ การประมง และการสร้างเรือในเขตตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์
เราไม่ได้เข้าไปชมด้านในพิพิธภัณฑ์ .. แต่รู้ว่าภายในมีการจำลองร้านค้าเหมือนเมื่อครั้งมีอยู่ในช่วงปี 1910 นอกจากนั้นยังมีสำนักงานของ Monsen Shipping Company ซึ่งประกอบธุรกิจใน Stavanger มาถึง 165 ปี
ชั้นบนของพิพิธภัณฑ์ เป็นการจำลองโรงงานสร้างเรือ มีอุปกรณ์ในการทำงานชนิดต่างๆจัดแสดงเอาไว้ .. นอกจากนี้ยังมีบ้านของชาวประมง มีเรือเก่าที่เคยใช้งานในทะเล 2 ลำได้รับการอนุรักษ์ไว้ที่นี่ด้วย
ด้านนี้ของท่าเรือมีร้านค้าเรียงรายกันเป็นแถว ส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้สีขาว สินค้าส่วนใหญ่เป็นประเภทของที่ระลึกจากท้องถิ่น และมีตรา มีสัญลักษณ์ของนอร์เวย์ รวมถึงเสื้อผ้าชนิดต่างๆ หลากสีสันให้เลือกซื้อ ในราคาที่ไม่แพงมาก
หากไม่มีลิสต์รายการสิ่งของที่ต้องซื้อ ก็มาโพสท่าถ่ายรูปกับ Troll ที่น่ารัก
Viking House .. ดูเหมือนว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ จัดแสดงแบบจำลองของดาบไวกิ้ง และโล่ที่พวกเขาใช้ในสมัยนั้น มีเสื้อยืด ของที่ระลึกราคาถูก และหนังสือ
โฆษณา