ทำเงินแสนล้านจากความช่างสังเกต
เมื่อ Viagra ไม่ได้ตั้งใจสร้างมาให้ ... แข็ง
ถ้าผมจะบอกทุกคนว่า ยาไวอากร้าที่เรารู้จักมักคุ้นกันนั้น เกิดขึ้นตากความบังเอิญ เป็นความบังเอิญที่ทำเงินเกือบปีละ 2,000 ล้านเหรียญ คุณจะอย่างมีสินค้าแบบนี้ในบริษัทสักตัวไหมครับ? ถ้าใช่เราตามไปดูความบังเอิญที่สร้างเงินพร้อมกันนะครับ
1) ไวอากร้า เป็นชื่อทางการค้าของยาช่วยรักษาอาการที่เรียกว่าหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (etectile dysfunction, ED) หรือน้องชายไม่ปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบนั้นเอง อาการซึ่งสามารถพบได้ในท่านชายทุกวัย แต่จะพบมากขึ้นเมื่อสูงอายุนะครับ
เมื่อเป็นปัญหาที่พบได้กลับท่านชายทุกๆวัย ทราบไหมครับว่า ไวอากร้าทำเงินให้ Pfizer เท่าไรตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา?
20,000 ล้านเหรียญหรือประมาณ 600,000 ล้านบาท
โอ้ว!!! ไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ แล้วถ้าบอกว่า ไวอากร้า
ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจ มันน่าสนใจไหมละครับ?
2) Sildenafil เป็นตัวยาที่ทาง Pfizer พัฒนาขึ้นมาเพื่อรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยนักเคมีดีไซน์การทำงานให้ไปขัดขวางโปรตีนที่ชื่อ PDE-5 เพื่อส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัว
แต่ชีวิตไม่ได้เรียบง่ายแบบนั้น
Sildenafil ถูกสังเคราะห์โดย Dr David Brown ในปี 1989 เป็นโปรเจ็คหางแถวของ Pfizer ที่เกือบจะถูกปิดโครงการในช่วงต้นทศวรรษ 1990
Dr David Brown (ขวามือ) กับภารกิจใหม่ที่บริษัท HealX ซึ่งพัฒนายาสำหรับโรคหายากโดยใช้ AI
คุณเดวิดเล่าว่า คุณจะสังเกตเห็นได้เมื่อผู้คนเริ่มที่จะไม่เข้ามาประชุมในโครงการของคุณ หรือปฏิเสธนัดที่เกี่ยวกับโครงการ มันแสดงว่าเวลาของคุณใกล้จะหมดเเล้ว คุณเดวิดจึงขอโอกาสสุดท้ายกลางปี 1993 ถ้าไม่มีผลการทดลองที่ดีขึ้นเค้ายินดีที่จะปิดโครงการ
ในการเก็บข้อมูลสัมภาษณ์ชาวเหมืองในแคว้นเวลล์ ที่เข้าร่วมการทดลอง ทุกสิ่งทุกอย่างยังดูแย่เหมือนเดิม จนคุณเดวิดหมดหวัง คุณเดวิดจึงเปลี่ยนคำถาม(จากปกติที่จะถามถึงอาการที่จะเกี่ยวข้องกับยาเท่านั้น) พวกคุณสังเกตเห็นอะไรอีกไหมเมื่อใช้ยา?
ชาวเหมืองจึงตอบอย่างอายๆว่า ผมรู้สึกว่ามันช่วยให้แข็งตัวมากกว่าปกติในช่วงกลางคืน!!
พวกผมก็คล้ายๆกัน!! (คุณเดวิดไม่ถึงกลับกรีดร้อง แต่เค้ารู้ได้ทันทีว่า มีบางสิ่งที่เค้าค้นพบขึ้นแล้ว)
3) เป้าหมายใหม่
ทีมวิจัยจึงเปลี่ยนเป้าหมายในการศึกษา เป็นความสามารถของยาในการข่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัว ด้วยงบประมาณ 150,000 ปอนด์
ซึ่งเดวิดต้องปิดห้องคุยกะหัวหน้า เนื่องจากตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดว่าผลลัพธ์ที่เดวิดนำเสนอนั้นจะสามารถนำไปผลิตยาได้จริงๆ
หลังจากเริ่มการทดลอง ปัญหาใหม่ที่ทำให้ทีมวิจัยปวดหัวก็คือ ผู้ที่เข้าร่วมการทดลอง ไม่ยอมคืนยาที่ใช้ไม่หมดในแต่ละชุดการทดลอง (จะเก็บไว้ทำไหมนะ 😂😂)
....
หลังจากสร้างชื่อในการเป็นยารักษา ED ในปี 2005 ทีมวิจัยของ Pfizer ได้นำเสนอผลวิจัยจากตัวยา Slidenafil เพิ่มเติม โดยศึกษาความเป็นไปได้ในการรักษาอาการความดันเลือดในปอดสูง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยได้ง่าย
ต่อมา Pfizer ก็ได้รับการรับรองจาก อย ของสหรัฐในเวลาต่อมาในการใช้ Slidenafil สำหรับการขยายหลอดเลือด (ตามที่ตั้งใจไว้ในทีแรก) เรียกว่าเป็นการยอมเสี่ยงที่คุ้มค่าของ Pfizer ที่ไม่ปิดโครงการนี้ไปซะก่อน
4) การแข่งขันที่ยังไม่จบสิ้น
แม้ตอนนี้ไวอากร้าได้ทำตลาดมาครบ 20 ปีซึ่งหมายถึงสิทธิบัตรในตัวยาได้หมดลงแล้ว (ทำให้ผู้ผลิตอื่นสามารถผลิตตัวยาเดียวกันออกมาขายแข่งได้)
สิ่ง Pfizer ทำก็คือผลิตของทำเหมือนออกมาขายแข่งด้วยซะเลย เรียกว่าตัวยาเดียวกันแต่มี 2 เกรดซะงั้น ซึ่งกลยุทธ์นี้ก็ได้ผล ทำให้โดยรวม Pfizer ยังเป็นเจ้าตลาดในยาช่วยรักษาการเสื่อมสมรรถภาพนั้นเอง
เรียกได้ว่าหนุ่มๆที่หัวใจยังแกร่งทั้งหลายเลยมีโอกาสใช้ของดีราคาถูกกันเลยทีเดียว 😀
ส่วนแบ่งการตลาดของ Viagra เทียบกับตัวยาที่รักษาโรค ED อื่นๆ Cr:CNBC
วันนี้ชายหนุ่มหลายคนคงห่อเหี่ยว ถ้าวันนั้นคุณเดวิดยอมแพ้
พวกเค้าต้องทนปวกเปียก ถ้าคุณเดวิดยังถามคำถามแบบเดิมๆ จนไม่อาจค้นพบสิ่งที่ซ่อนอยู่
การค้นพบที่เกิดจากความไม่ตั้งใจนั้นยังมีอีกหลายๆเหตุการณ์ ซึ่งเกิดจากการสังเกต และใส่ใจมองภาพที่ใหญ่ขึ้นตั้งคำถามที่แตกต่างไปจากจากเดิม แบบนี้เรียกได้ว่าพลิกมุมคิด พิชิตแสนล้านกันเลยทีเดียว
ถ้าเพื่อนๆอยากช่วยให้ Innowayถีบ แข็งแรงยิ่งขึ้น
ฝากกดไลก์ กดแชร์ กดติดตามด้วยนะครับ 😀😀
แหล่งข้อมูล
From Viagra to Valium, the drugs that were discovered by accident, www.theguardian.com
Viagra’s famously surprising origin story is actually a pretty common way to find new drugs, www.qz.cm
The Little Blue Pill: An Oral History of Viagra, www.Bloomberg.com
- 15
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
