11 มิ.ย. 2020 เวลา 23:13 • ท่องเที่ยว
Road Trip Norway 2019 (21) … Burgen : Bryggen อาคารประวัติศาสตร์ของเมือง มรดกโลกที่คุ้นตาคนทั้งโลก
เราเดินชมท่าเรือ และตลาดปลาด้วยความเพลิดเพลิน .. แต่ใครบางคนบอกว่า หากไม่ได้ไปเยือนเมืองเก่าของ Bergen และฟังอาคารเก่าแก่เหล่านั้นกระซิบเล่าเรื่องราวอดีตที่เคยรุ่งเรืองของพื้นที่นี้ ก็ดูเหมือนจะมายังไม่ถึงเมืองเก่าแก่แสนสวยนี้
Bryggen เป็นท่าเทียบเรือ และศูนย์กลางการซื้อขายของ Hanseatic หรือ Hansa สมาพันธ์การค้าที่เกิดขึ้นในประเทศเยอรมนี ดำเนินธุรกิจตามแนวชายฝั่งทางตอนเหนือของทวีปยุโรป ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13-17
โดยพ่อค้าชาวเยอรมันได้ล่องเรือเข้ามาเปิดสำนักงานนำเข้าและส่งออกสินค้า ที่บริเวณท่าเรือ Bryggen ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 และค้าขายต่อเนื่องมาถึง 400 ปี
ในปี คศ. 1702 กลุ่มอาคารของพ่อค้า Hanseatic ถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ แต่มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ให้เหมือนเดิม ทำให้คนยุคปัจจุบันได้เห็นสถาปัตยกรรมที่ยังคงรูปแบบแรกเริ่ม
พื้นที่นี้ มีกลุ่มบ้านเรือนที่โดดเด่นสุดคลาสสิกริมอ่าว เอกลักษณ์โดดเด่นมาก ๆ ด้วยอาคารหลังคาจั่วสามเหลี่ยม สร้างติดกัน หันหน้าออกทะเล บางหลังทาด้วยสีขาว ถัดไปเป็นสีเหลือง อีกหลังทาสีครีม ส่วนถัดไปทางโน้นทาสีแดง … สีสันสดใสราวกับลูกกวาด เป็นอาคารที่เปี่ยมเอกลักษณ์ที่สร้างขึ้นจากไม้ มีทั้งหมดเหลืออยู่ 58 หลัง โดยรอบท่าเรือที่น่าท่องเที่ยว
อาคารเหล่านี้ในอดีตเป็นโกดังสินค้าเก่า หน้าบ้านมักจะตกแต่งด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปหัวกวาง หรือยูนิคอร์น และรูปตุ๊กตาต่างๆ ซึ่งปัจจุบันนอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัย บางส่วนยังได้รับการดัดแปลงมาเป็นร้านอาหาร โรงแรม อาร์ตแกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก และร้านค้าต่างๆมากมาย
กลางย่านเก่าแก่แห่งนี้มีการดัดแปลงอาคารให้เป็นแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะ คาเฟ่กลางแจ้ง
… ด้านในของย่านนี้ เป็นตรอก ซอกซอย .. เมื่อเดินเข้ามาอาจจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาในโลกของอดีต ดึงจินตนาการให้เห็นลักษณะของเมืองในยุคกลาง ที่คึกคักด้วยพ่อค้า นายวานิชที่เข้ามาค้าขาย แลกเปลี่ยนสินค้าได้ไม่ยากเย็น
พิพิธภัณฑ์เธียตะ (Theta Museum) .. ห้องเล็ก ห้องลับของขบวนการกู้ชาติ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นาซีบุกเข้ายึดเมืองเบอร์เก้น ชาวนอร์เวย์วัย 19-22 ปี ได้ลุกขึ้นมาจัดตั้งขบวนการใต้ดินเพื่อต่อต้านนาซี ส่งข้อมูลให้แก่ผู้รักชาติและฝ่ายสัมพันธมิตร ทำให้อังกฤษจมเรือรบเทียร์ปืคย์ของเยอรมันลงได้
ขบวนการใต้ดินนี้มีชื่อว่า “กลุ่มเธียตะ” (Theta) .. โดยซ่อนตัวอยู่ในห้องลับของอาคารบริกเกน แต่ในวันที่ 17 ตุลาคม คศ. 1942 นาซีได้เจอห้องลับนี้ด้วยความบังเอิญ แต่โชคดีที่เวลานั้นไม่มีสมาชิกของกลุ่มเธียตะอยู่ที่นั่น
เมื่อเยอรมันโจมตีเบอรฺเก้น ห้องลับนี้ได้รับความเสียหาย ก่อนที่จะได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาในเวลาต่อมาให้เป็นพิพิธภัณฑ์เธียตะ และติดอันดับที่สุดของประเทศ .. คือ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล็กที่สุดในนอร์เวย์
พิพิธภัณฑ์ฮองเซียวติก (Hanseatic Museum) .. เรื่องราวของพ่อค้า
พิพิธภัณฑ์ฮองเซียวติก (Hanseatic Museum) เล่าเรื่องราวชีวิตของพ่อค้าชายเยอรฒันที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองเบอร์เก้นระหว่างปี คศ. 1350-1750 ทั้งปลาและธัญพืช
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในอาคารที่สร้างขึ้นในปี คศ. 1704 เปิดตั้งแต่ปี คศ. 1872 ดูชีวิต ที่หลับที่นอน การทำมาค้าขาย รวมทั้งของเก่า และภาพโบราณ
ฉันชอบถ่ายภาพ และชอบมองลึกเข้าไปในสังคม วิถีชีวิตของผู้คน จึงสนุกมากในการถือกล้องไปเก็บเกี่ยวทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในสายตา … สิ่งสวยงามมากมายที่รออยู่ในเส้นทางที่ฉันได้ก้าวเดินในเมืองสวย
แห่งนี้ กลายมาเป็นประสบการณ์ของชีวิต ที่ยามใดที่หยิบภาพมาดู และอ่านเรื่องราวอีกครั้ง ก็นำรอยยิ้มมาประดับใบหน้าได้ทุกเมื่อ
หากทิวทัศน์สวยงามช่วยให้จิตใจของคนเราเบาสบายขึ้นจริง ฉันก็อยากให้เวลาหยุดนิ่งไว้เนิ่นนาน ณ ตอนนี้ เพระใจฉันกำลังสบายกับการชื่นชมเมืองสวย ที่มีร้านรวงน่ารัก แต่แอบแฝงไปด้วยความทันสมัย
ฉันเดินทอดน่องอย่างไม่กลัวรถเฉี่ยว หยุดชื่นชมความสวยบรรเจิดของทิวทัศน์ ประหนึ่งได้มองความสุขที่ไหลผ่านอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ฉันลืมภาพวันธรรมดาๆที่แสนวุ่นวายในเมืองใหญ่ มาเดินแบบสบายๆในสไตล์นักท่องเที่ยวเต็มขั้น .. เมื่อรู้สึกเหนื่อย ก็มีมุมให้พักผ่อนอิริยาบถไปกับบรรยากาศสวยๆ ในบริเวณท่าเรือเก่าแก่มากมาย
ภาพของอาคาร Bryggen ที่ฉากหน้าเป็นผืนน้ำ ฉากหลังคือขุนเขาสูงตระหง่าน ภาพที่งดงามเปลี่ยนสีไปตามแสง ที่ผู้คนทั่วโลกต่างหลงใหล .. ด้วยลักษณะเฉพาะและความเก่าแก่ของย่านคลังสินค้านี้เอง ที่ทำให้เราได้คำตอบว่า เหตุใด UNESCO จึงได้ประกาศให้เขต Bryggen เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี 1979
รถรางขึ้นเขา Floibanen
การมาเยือน Bergen จะสมบูรณ์ไม่ได้ หากไม่ได้ขึ้นรถรางไฟฟ้า Floibanen Funicular ขึ้นสู่ยอดเขา Floyen บนความสูง 320 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อันเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของเมือง … เพื่อชมทิวทัศน์ในมุมสูงของเมืองแบบพาโนรามา อันเป็นภาพบรรยากาศที่งดงามประทับใจ
จากตลาดปลา เดินตรงเข้าถนน Fv 264 ก็จะถึง Floibanen สถานีรถรางไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขา Floyen อันเป็นจุดชมวิวที่สูงสุดของเมือง ซึ่งสูง 320 เมตรจากระดับน้ำทะเล … รถรางสายนี้สร้างและให้บริการมาตั้งแต่ปี 1918 และมี 2 ขขบวนเดินรถสวนทางกัน
เราไม่พลาดค่ะ .. จากจุดชมวิว สามารถมองเห็นตัวเมืองเบอร์เก้นได้รอบทิศ ธรรมชาติที่ปรากฏในสายตานั้นงดงามดุจภาพวาด
จากด้านบน … ฉันมองเห็นทะเลสาบขนาดย่อมอยู่กลางเมือง เลยตั้งหมุดหมายว่า จะไปเดินเล่นแถวนั้น หลังจากลงเขาไปแล้ว
บนเขามีภัตตาคาร ที่มีโต๊ะอยู่กลางแจ้ง หากจะนั่งพักจิบชา กาแฟ รับลมเย็นบนยอดเขา ก็ชิล ดีค่ะ
นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกที่จะนั่งรอพระอาทิตย์อัสดง แต่เราเลือกที่จะลงมาชมเมืองด้านล่างต่อ เพราะกว่าพระอาทิตย์จะจูบลาโลก ก็คงราวสี่ทุ่มไปแล้ว
โฆษณา