12 มิ.ย. 2020 เวลา 08:56 • ท่องเที่ยว
วัดพระธาตุดอยพระฌาน ลำปาง .. ศรัทธาในม่านหมอก
วัดพระธาตุดอยพระฌาน ตั้งอยู่ ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบภูเขาที่เรียกว่าดอยพระฌาน
ประวัติพระธาตุดอยพระฌาน
พระธาตุดอยพระฌาน เป็นศาสนสถานที่สำคัญของอำเภอแม่ทะ จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ท่านกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นองค์พระธาตุนี้แล้ว
อาจจะเป็นการบอกว่าพระธาตุองค์นี้มีมาก่อนที่จะได้รับการบูรณะเป็นองค์พระธาตุสีขาวซึ่งเราเห็นในปัจจุบัน .. ในอดีตท หลวงพ่อปัญญา วัดนาคตหลวง เป็นผู้นำพระ เณร และพุทธศาสนิกชนในตำบลมาช่วยกันบูรณะซ่อมแซมบูรณะองค์พระธาตุและบริเวณโดยรอบ … แต่สิ่งปลูกสร้างเดิมได้รกร้างมานานหลายปี หลังจากนั้น
พระพรชัย อัคควังโส เจ้าอาวาสวัด เล่าว่า… เมื่อหลายปีก่อนท่านได้นิมิตว่ามีคนบอกให้ท่านจำพรรษาที่มีพระธาตุสีขาวที่จังหวัดลำปาง ท่านก็ได้เดินทางมาจากนครราชสีมามาที่ลำปาง จนมาพบพระธาตุแห่งนี้และในปี พ.ศ.2555 ท่านก็ได้เริ่มบูรณะพื้นที่และสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาใหม่ จนกลายเป็นวัดที่งดงามดั่งเช่นในปัจจุบัน
ประเพณีขึ้นดอยพระฌาน
เมื่อถึงวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 7 (เดือน 9 ของทางเหนือ) ประมาณเดือนพฤษภาคม ของทุกปี พุทธศาสนิกชนชาวตำบลป่าตันและตำบลใกล้เคียง จะพากันเดินขึ้นดอยไปสักการะพระธาตุบนดอยพระฌาน เป็นประเพณีประจำทุกปี มีการจุดบั้งไฟบูชาพระธาตุและการแข่งขันบั้งไฟด้วย และได้รับการสืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน
เราจะเริ่มเดินชมวัดและองค์พระธาตุกันนะคะ …
บันใดนาคอยู่ด้านหน้าวัด ทอดตัวยาวขึ้นมาจากด้านล่าง มองจากสายตา คะเนว่าคงหลายร้อยขั้นบันได
หากเดินขึ้นมาตามบันไดนาคจากด้านล่างมาเรื่อยๆ … สุดทางจะมีประตูทางเข้าวัด และถัดจากประตูเข้ามาด้สนในจะมองเห็นบันไดนาค 2 ชั้นนำสายตาขึ้นไปที่ส่วนของพระอุโบสถ
… เราไม่ได้เดินขึ้น แต่จอดรถเอาไว้ที่เชิงเขา แล้วใช้บริการรถสองแถวที่มีให้บริการ โดยค่าโดยสารก็แล้วแต่จะให้ตามสมควร
ถัดจากลานจอดรถเป็นด้านหลังของวัด เราจะเริ่มเดินชมและถ่ายรูปกันจากด้านนี้เรื่อยๆ ไปจนถึงด้านหน้าวัด
รูปปั้นนายทวารที่อยู่ด้านหน้า เหมือนจะเป็นสิ่งที่คอยต้อนรับผู้มาเยือน
ด้านบนมีศาลารูปทรงเรียบง่ายอยู่ทั้งสองข้างของทางเดิน มีพระพุทธรูปสีทอง 5 องค์ทั้งสองศาลาที่ … ด้านข้างจะมีรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม
ถัดออกไป จะเป็นที่ประดิษฐานองค์พระธาตุสีขาว ตรงบนยอดฉัตรเป็นสีทองอายุกว่า 100 ปี … ด้านหน้ามีรูปหล่อของหลวงพ่อพระครูปัญญาวุฒิคุณ
ริมทางเดินเข้าสู่ด้านในของพระอุโบสถด้านขวามือ … มีรูปปั้นผู้หญิงยืนภายใต้ร่ม ดูสวยทีเดียวค่ะ และถัดไปเป็นหอระฆัง
บรรยากาศโดยรอบของวัด เน้นตกแต่งแบบไทยล้านนา อนุรักษ์ของเก่าแก่ในอดีต … ด้านหลังของโบสถ์ศิลปะล้านนาเช่นกัน วาดลวดลายของต้นโพธิ์ที่ผนังด้านหลังของโบสถ์ .. ลายกนกแบบไทยๆ เป็นสิ่งที่ใช้ประดับตามส่วนต่างๆของโบสถ์ มองดูงดงามและอ่อนช้อย
เราเข้าไปไหว้พระในโบสถ์ … ขนาดของโบสถ์ไม่ใหญ่โต แต่สวยงาม ตรงกลางเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ประทับนั่งบนฐานชุกชี หันพระพักตร์ออกด้านประตู
ทั้งสองข้างของโบสถ์มีเสาเรียงราย บางส่วนปิดทอง .. เราไม่ค่อยจะมีความรู้เรื่องพุทธศิลป์และลวดลายการตกแต่งแบบไทยเท่าใดนัก ได้แต่ใช้เวลานั่งเงียบๆมองพุทธศิลป์ที่เกิดมาจากความศรัทธาของผู้คน .. ความสงบและงดงาม ทำให้อิ่มเอมในใจ
ภาพที่มองออกมาจากด้านในของโบสถ์ … สร้างเป็นพื้นบันไดต่างระดับ 2 ชั้น แต้ละด้านของบันไดมีรูปปั้นพญานาคสีทองอร่ามด้านละ 2 ตัวทอดตัวเหมือนเลื้อยลงมาจากด้านบนสู่ระดับพื้น
นี่อาจจะมาจากคติความเชื่อเกี่ยวกับนาคในพระพุทธศาสนาของคนแถบอุษาคเนย์ ที่เชื่อกันว่า พญานาคเปรียบเสมือนสะพาน (สายรุ้ง) ที่เชื่อมโลกมนุษย์กับสวรรค์
รูปปั้นพญานาคของวัดพระธาตุบนดอยพระฌานงามสง่ามาก แต่อ่อนช้อยอยู่ในที … ทำให้นึกถึงศิลปะรูปแบบใกล้เคียงกันของวัดสีน้ำเงินแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย … แต่ชัยภูมิของวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาเงียบสงบ จึงสามารถที่จะมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอแม่ทะ เห็นทิวเขาต้นไม้ที่เขียวขจีได้รอบทิศ
เหล่านี้ … ได้เสริมความงดงามให้รูปปั้น และอาคารสิ่งก่อสร้างทั้งหมดในบริเวณด้านหน้าของวัดให้โดดเด่น เพราะอยู่บนดอยสูง มองออกไปด้านไหนก็จะเห็นทิวทัศน์ที่กว้างไกล และก่อให้เกิดมิติตื้นลึก ใกล้ไกล ที่งดงามยากที่จะมีวัดไหนเทียบได้
ความงดงามโดยรวม … นอกจากจะเกิดจากภูมิประเทศเองแล้ว ต้องยกย่องการใส่ใจในรายละเอียดของออกแบบ การเลือกและการจัดวางสิงประกอบต่างๆ ที่ (ฉันว่า) ดูกลมกลืน ไม่มากเกินไปจนรกรุงรัง
ส่วนหน้าของวัดเป็นระเบียงที่ไม่กว้างมาก หากมาเที่ยวในช่วงฤดูทำนาจะได้เห็นวิวของนาข้าวเขียวขจี สลับกับต้นไม้เป็นกลุ่มๆ ที่มีแม่น้ำเป็นเส้นโค้งคดเคี้ยว และภูเขาไกลๆเป็นฉากหลังที่สวยงาม
โดยรอบวัดจะมีจุดชมวิวทิวทัศน์กับธรรมชาติรอบๆ ตัวอำเภอแม่ทะและอำเภอใกล้เคียงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และงดงามบนยอดดอยสูง
… ว่ากันว่า ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวเวลาเช้า สามารถเห็นทะเลหมอกสีขาว ที่พาดผ่านสีเขียวของต้นไม้และโอบกอดบางส่วนของยอดเขา เกิดเป็นภาพงดงามที่น่าประทับใจได้มากมาย
โฆษณา