13 มิ.ย. 2020 เวลา 05:44 • สุขภาพ
เมี่ยงคำ .. ของว่างแบบไทยๆ ปรับสมดุลย์ธาตุ รสชาติดี
เมี่ยงคำน้ำลายสอ เมี่ยงสมอเมี่ยงปลาทู
ข้าวคลุกคลุกไก่หมู น้ำพริกกลั้วทั่วโอชา
เมี่ยงคำ เป็นอาหารว่างที่มีมานาน พบในบทพระราชนิพนธ์ กาพย์เห่ชมเครื่องว่าง ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
เมี่ยงคำ เป็นเมนูอาหารกินเล่นของไทยแบบคลาสสิคๆ เป็นตำรับเมนูสมุนไพรของคนไทยโบราณที่มีมานาน ... เป็นของว่างรสชาติดี ที่คนภาคกลางนิยมรับประทานเป็นของว่างตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูฝนที่ต้นชะพลูผลิใบแตกยอดอ่อนมากที่สุด จะเป็นช่วงที่ทานอร่อย เพราะต้นชะพลูจะหวาน ไม่มีรสขื่น
เชื่อกันว่า เมี่ยงคำเมื่อรับประทานแล้ว จะเป็นการปรับสมดุลธาตุในร่างกาย ด้วยเหตุที่เมี่ยงคำต้องทานกับพืชผักสมุนไพรหลายชนิดนั่นเอง มีคุณสมบัติในการบำรุงรักษาธาตุทั้ง 4 เพื่อให้สมดุลกัน
… น้ำเชื่อม มะพร้าว ถั่วลิสง หรือมะม่วงหิมพานต์ และกุ้งแห้งใช้บำรุงรักษาธาตุดิน
… มะนาวและใบชะพลูใช้บำรุงรักษาธาตุน้ำ
… หอมและพริกใช้บำรุงรักษาธาตุลม
… ส่วนเปลือกของมะนาวและขิงสด บำรุงรักษาธาตุไฟ
มาดูกันนะคะว่า เมี่ยงคำอร่อยๆ 1 คำ นั้น ประกอบด้วยอะไรบ้าง
1.ใบชะพลูสรรพคุณบำรุงธาตุน้ำ ช่วยขับลม ป้องกันกรดไหลย้อน
2.หัวหอมแดง สรรพคุณบำรุงธาตุลมแก้ไข้หวัด
3.ขิง สรรพคุณบำรุงธาตุไฟแก้อาเจียน
4.มะนาว สรรพคุณบำรุงธาตุน้ำขับเสมหะ
5.เปลือกมะนาว สรรพคุณบำรุงธาตุไฟช่วยขับลม
6.พริก สรรพคุณบำรุงธาตุลมช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
7.มะพร้าว สรรพคุณบำรุงธาตุดินบำรุงกระดูก
8.ถั่วลิสง สรรพคุณบำรุงธาตุดินบำรุงเอ็น
9.กุ้งแห้ง สรรพคุณบำรุงธาตุดินบำรุงผิวหนัง
10.น้ำตาล สรรพคุณบำรุงธาตุดินบำรุงกำลัง
เมื่อรู้ส่วนประกอบกันไปแล้ว ทีนี้ก็เลือกปรุงได้ตามสัดส่วนที่เหมาะสมกับธาตุเจ้าเรือนของตัวเองได้เลย
... เช่น ถ้าเป็นหวัด ภูมิแพ้ หรือคัดจมูก ก็เพิ่มสัดส่วนของมะนาว หัวหอมเเดง ใบชะพลูเป็นสัก 2 เท่า ก็น่าจะช่วยรักษาอาการได้บ้าง และหากใครเป็นกรดไหลย้อนก็ให้เพิ่มสัดส่วนของใบชะพลู ขิง และหัวหอมเเดง มากขึ้นอีกสักหน่อย
ส่วนประกอบน้ำเมี่ยงคำ (ปริมาณ ก็กะๆเอา เพราะเรามันทำแบบบ้านๆอ่ะค่ะ)
การทำเมี่ยงคำ จะดูยุ่งๆก็ตอนที่เตรียมน้ำเมี่ยงค่ะ เพราะมีส่วนประสมมากมายหลายอย่าง
• น้ำตาลปีบ น้ำตาลทราย
• กะปิอย่างดี น้ำสะอาด 1/2 ถ้วยตวง
• ข่าแก่
• มะพร้าวคั่วบดละเอียด และถั่วลิสงคั่วบดละเอียด
วิธีทำน้ำเมี่ยงคำ
• นำทุกอย่างใส่ในกะทะ น้ำตาลปีบ - น้ำตาลทราย - น้ำเปล่า – กะปิ
• เคี่ยวน้ำตาลให้เดือดพล่านจนเกือบล้นปากหม้อ แล้วหรี่ไฟลงให้น้ำตาลลดระดับลง แล้วหมั่นคนๆๆๆ ระวังอย่าให้ไหม้ … ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนได้น้ำตาลเชื่อมแบบเข้มข้น ค่อนข้างเหนียว ดับไฟ แล้วทิ้งไว้ให้เย็นตัว
• ใส่ ข่าคั่วโขลก ถั่วลิสงคั่วโขลก มะพร้าวคั่วโขลก คนเข้ากัน แล้วคนๆๆๆๆ ผสมให้เข้ากัน แล้วเราก็ได้น้ำจิ้มเมี่ยงคำ
เครื่องเคียงต่าง ๆ
• มะพร้าวแก่ หั่นๆๆๆ แล้วซอยๆๆๆ เอาไปคั่วไฟอ่อนไปเรื่อยๆ จนเหลืองกรอบ กลิ่นหอมฉุยไปทั้งบาง
• เครื่องเคียงที่เป็นใบผัก บางคนชอบใบชะพลู อีกหลายคนบอกว่าทานกับใบคะน้าอร่อย เพราะกลิ่นไม้ฉุน หากทานกับผักคะน้าแนะนำให้เลือกตรงส่วนยอดคะน้า โดยมีใบอ่อนและแก่ปะปนกันไป กินแล้วมัน ๆ อร่อยดี … ส่วนวันนี้พี่สุใช้กลีบดอกบัวแดง อร่อย และถ่ายรูปสวยดี อิอิ
• เครื่องเคียงอื่นๆ มี ถั่วลิสงคั่ว ขิง พริกขี้หนู หอมแดง มะนาว … ทั้งหมดนี้ หั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆให้สวยงาม
เวลาทานก็นำมะพร้าวคั่ว และเครื่องเคียงทั้งหมดใส่ลงไปในใบชะพลู หรือกลีบดอกบัว แล้วราดด้วยน้ำเมี่ยง อย่าลืมใส่ลูกโดดเข้าไปด้วย หากต้องการรสชาติจัดจ้านมากๆ
… นึกถึงสมัยก่อน ที่ไปนั่งทานบนเสื่อในสนามใกล้ๆพระรูป สั่งมาทานกับเพื่อนๆทีละหลายๆถาด นั่งล้อมวงสนทนาสังสรรค์ คุยกันไปห่อเมี่ยงคำแกล้มไป อร่อยเชียวค่ะ
จากความความประณีตในการหั่น ซอย เครื่อง และวิธีการกินเมี่ยง ทำให้ใน ปี พ.ศ. 2557 กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศขึ้นทะเบียน เมี่ยงคำ ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ในสาขาความรู้และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล เพื่อปกป้องมรดกของชาติที่เสี่ยงสูญหาย
โฆษณา