15 มิ.ย. 2020 เวลา 14:59 • ท่องเที่ยว
Ep.10 “🔔Climbing Tour of Ghent Belfry”🔔
Walking tour หลายepisode แล้ว เราไปClimbing tour กันบ้างดีไหมคะ ..ไม่ใช่ปีนเขา..แต่..ปีนหอระฆัง หรือที่เรียกกันว่า Belfry ที่เมืองGhent ประเทศเบลเยี่ยม ค่ะ
เราเดินมาถึงตึก Cloth Hall ทางเข้าหอระฆัง แล้วค่ะ เวลา 11นาฬิกา โอ้โห! แหงนมองยอดหอจนคอตั้งบ่าเลย เขาจะมีลิฟต์ไหม ? หรือจะต้องไต่บันไดเวียนวนขึ้นไปตลอด 91 เมตร !
กว่าจะเก็บภาพถึงยอดหอระฆังได้ ต้องย่อตัวลงไป เสยภาพมุมเงยค่ะ ก็จะได้หอระฆังแบบเอียงๆ 😀😀😀 ไม่ใช่หอเอนปิซ่านะคะ 55555
Ghent Belfry ตึกติดกันด้านซ้าย คือ Cloth Hall มี ตึกMamelokker ตรงกลาง
หอระฆังนี้สร้างมานานเท่าไรแล้ว
นานมากแล้วค่ะ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เริ่มสร้างปี 1313 แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเป็นพักๆเมื่อเกิดสงคราม จนถึงปี 1380 จึงสร้างเสร็จ
ถ้าไปดูภาพเขียน landscape เมืองGhent เก่าๆ เราจะสังเกตเอกลักษณ์ของเมืองได้ชัดเจน จากยอดแหลมสูงของโบสถ์ และหอคอย 3 ยอดเรียงรายทาบกับขอบฟ้า
โดยมี Belfry หรือหอระฆังอยู่ตรงกลาง (ดูตามภาพข้างล่าง)ขนาบด้วย โบสถ์ St Nicholas อยู่ด้านหน้าและ St Bavo Cathedral อยู่ด้านหลัง
The 3 Towers of Ghent, oil on panel,Alphonse de Cuyper (1887) (Janmullerantiques.com)
หอระฆังก็ต้องมีระฆัง แต่ที่นี่จะแปลกกว่าที่อื่นคือ ระฆังจะมีชื่อเฉพาะตัว เหมือนกับเขา นับว่าระฆังเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวชาวเมืองGhent เลยล่ะค่ะ😀
โดยระฆังใบแรกมาถึงหอระฆังในปี 1325 แต่กว่าจะถูกยกขึ้นสู่ยอดหอคอย ก็ปี1377 (ทำไมถึงรอนานก็ไม่ทราบ อาจมีสงคราม)เขามีชื่อว่า Roland
“Till the bell of Ghent responded
O’er lagoon and dike of sand,
‘I’m Roland! I’m Roland!
There is victory in the land!”
เสียงระฆังดังก้องเหนือทะเลสาบ และเขื่อนทราย
ฉันคือ โรแลนด์ ฉันคือ โรแลนด์ ชัยชนะมาถึงแล้ว!
Carillon ที่ชั้นบนสุดของ Ghent Belfry (ภาพจาก eric@clerckx.be)
เสียงระฆังหง่างเหง่ง ปลุกชีวิตผู้คนในอดีตให้ลุกขึ้นมาโลดแล่น นักรบ อัศวินบนหลังม้า กองทัพที่เพิ่งได้ชัยชนะเดินแห่เข้ามาในเมือง ชาวเมืองมากมายยืนโห่ร้องรอต้อนรับอยู่สองข้างทาง ทั้งพ่อค้า หญิงชาวบ้านและลูกเล็กเด็กแดง
เสียงระฆังก้องกังวาน สดใส ทั่วทั้งเมืองโอบล้อมด้วยเสียงแสดงความยินดี แล้วอย่างนี้จะไม่นับ Roland เป็นสมาชิกคนหนึ่งของเมืองก็แปลกแล้วล่ะค่ะ😀
ระฆังมีกี่ใบ?
จากในรูปจะเห็นหลายใบ มีเส้นสายระโยงระยางเต็มไปหมด
ตอนแรกก็มีแค่ใบเดียวค่ะ ตีบอกเวลาทุกชั่วโมง ชาวเมืองฟังเสียงระฆัง บอกพระอาทิตย์ขึ้นและตก จะได้ทำภารกิจประจำวันได้ตามเวลา
แต่บางครั้งแต่ละชั่วโมง มีเสียงระฆังดังๆทีเดียวอาจทำให้ตกใจ ก็เลยมีการใช้ระฆังใบย่อมลงหน่อย มาตีให้มีเสียงสูงเบาๆนำหน้ามาก่อน. จึงมีการสร้างระฆังใบเล็กๆเชื่อมต่อไม้เคาระฆังกับคีย์บอร์ด เป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องดนตรีที่เรียกว่า carillon ค่ะ
Roland ระฆังพี่ใหญ่ ก็มีน้องเล็กๆตามมาเป็นพรวน ตอนนี้มีรวมทั้งสิ้น 54ใบ ใบน้องเล็กสุดท้องติดตั้งเมื่อปี 1993 ชื่อว่า Robert ทั้งหมดนี้อาศัยอยู่ในห้องบนสุดของ Belfry นี้ค่ะ
ขึ้นไปเยี่ยมพวกเขากันได้หรือยังคะ...ตามมาเลยค่ะ..
เข้าประตู Cloth hall ซึ่งสร้างปี 1425 เสร็จ 1441 เพื่อตรวจคุณภาพผ้า และซื้อขายผ้า ซึ่งเป็นการค้าขายที่รุ่งเรืองในยุคนั้น ชั้นล่างของหอนี้ เป็นทางเข้า หอระฆัง Belfry
โถงกว้างขวาง สวยงามด้วยช่องแสงจากหน้าต่าง และ พื้นลวดลายเรขาคณิต
โถงใหญ่ที่ชั้น 1 Cloth hall ทางเข้า belfry (ภาพจากFlickr.com)
ที่กำแพงเหนือทางเข้า Belfry มีภาพเขียนโบราณ เป็นภาพเมือง Ghent เห็นยอดโบสถ์ และหอคอย 3 แห่ง
ภาพวาดเหนือประตูทางเข้า Belfry ที่เข้าจาก Cloth hall
Ghent เมืองแห่งคนหัวดื้อ
ชาวGhent เป็นพวก “หัวแข็ง” มีการรวมตัวกันต่อต้าน การเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรม ของ Charles ที่5 ในปี 1500 และในศตวรรษที่ 19 เมือGhent เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม ก็มีการรวมตัวกันเป็น “trade union” แห่งแรกที่นี่ เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ของลูกจ้าง
ในปี 1816 Ghentมีมหาวิทยาลัยของตนเอง สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน ก็ยังมีนักศึกษาจำนวนมากมาศึกษาต่อที่นี่ เช่นวิทยาลัยดนตรีที่มีชื่อเสียง
หอระฆังนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ความยุติธรรมทางสังคมของชาวเมือง Ghent
ดังนั้น ในปี 1999 องค์การ UNESCOได้ยกให้ Belfry of Ghent เป็น World Heritage Site เนื่องจาก เป็นแหล่งสถาปัตยกรรมผสมผสานกับดนตรี การวางผังเมือง และเป็นสัญลักษณ์ แห่งเสรีภาพของประชาชน
เดินขึ้นหอระฆังกันค่ะ
เข้าไปขั้นล่างสุด เป็น”ห้องลับ” เก็บเอกสารสำคัญทีมีค่าควรเมือง
ชั้นต่อมาเป็นที่พักผ่อนของผู้อยู่เวรยามเฝ้าระวัง 4คน 4 มุมตึก
ชั้นที่ 3 เป็น museumเก็บระฆัง ใบที่ไม่ได้ใช้แล้ว
ทางเดินขึ้นเป็นบันไดหินก้อนใหญ่ๆ หมุนวนอย่างกับก้นหอยค่ะ 😀(ดูการเดินขึ้นลงบันไดได้จาก วิดิโอ ของ slow tv เขาถ่ายทำไว้ลงไว้ใน youtube ตามลิงค์ที่แปะไว้ข้างบนค่ะ)เดินไปแวะดูข้างนอกผ่านหน้าต่างเล็กๆไป ....คือแอบพักเหนื่อยน่ะค่ะ😀😀😀
ส่วนชั้น 4 และ 5 เป็นระฆังใบใหญ่ และกลไกการตีระฆัง โดยใช้ระบบกลอง มีช่องๆ หมุนแล้วจะตีระฆังเป็นเพลง เหมือนพวก music box อันใหญ่ๆ
ระบบ drum กลไกที่ทำให้เกิดเสียงเพลง
ชั้น 6 เป็นที่แขวนระฆัง carillon เป็นพรวน 54 ใบ
ชั้น 4-6 ไม่ได้ขึ้นไปดูค่ะ เพราะให้ขึ้นเฉพาะ guided tour ซึ่งวันที่เราไปไม่มีการนำชม
ก็เลยได้แต่ออกไปที่ระเบียงแคบๆ แทบจะไม่มีที่ยืน เพื่อถ่ายภาพมุมสูง ของโบสถ์ St Nicholas ที่อยู่ข้างๆ ส่วนอีกด้านหนึ่ง เห็นแต่ปั้นจั่น ถ่ายรูปออกมาไม่สวย จึงไม่ได้ถ่ายมาค่ะ😀
st Nicholas Church มองจาก belfry
อีกตึกหนึ่งที่น่าสนใจที่อยู่ระหว่าง belfry กับมCloth hall คือ
Mamelokker ค่ะ
Mamelokker : ปูนปั้นเหนือทางเข้าคุกเก่า
Mamelokker สร้างเพิ่มในปี 1741 ในแบบ rococo
เป็นที่อยู่ของผู้คุมขัง และเป็นทางเข้าสู่คุกที่คุมขัง
Mamelokker เป็นภาษา พื้นเมืองของ Ghent แปลว่า Breast sucker “ เป็นชื่อรูปปูนปั้นที่อยู่เหนือทางเข้าตึกเล็กๆนี้ เป็นรูปหญิงสาวให้ชายแก่ดื่มน้ำนมจากอกของตน
เรื่องราวมาจากนิยายปรัมปราสมัยโรม เรื่อง Roman Charity เล่าว่า ชายแก่คนหนึ่งชื่อ Cimon ถูกกักขังให้อดอาหารตายในคุก ลูกสาวของเขาชื่อ Pero ทำงานเป็นแม่นม ได้ไปเยี่ยมพ่อทุกวันด้วยความรัก และผูกพันกับบิดา เธอสงสารพ่อไม่ที่ไม่ได้กินอาหาร และซูบผอม จึงแอบให้พ่อดื่มน้ำนมจากอกของเธอในช่วงที่มาเยี่ยมทุกวัน ในที่สุดผู้คุมขังก็ปล่อย Cimon ออกมา เนื่องจากเห็นความหวังดีของลูกที่รักพ่อ และทำเพื่อพ่อโดยไม่คิดถึงตนเอง
เดินขึ้นแล้ว ก็ถึงเวลาเดินลง ...อ้อ! ลูกทัวร์คนหนึ่งขออาสาเฝ้าทางขึ้นไว้ค่ะ ไม่ได้ไปด้วย ก็เลยต้องทำหน้าที่หาร้านกินอาหารกลางวันในวันนี้ โดย....เปิด TripAdvisor ค่ะ
แล้วเราก็ได้กิน noodle บะหมี่น้ำแบบจีน ที่เมืองGhent กันค่ะ
สุดสัปดาห์ค่อยพาเที่ยวต่อนะคะ ยังไม่ถึงภาพเขียน Adoration of the Mystic Lamb เลย ... เหนื่อยแล้วขอพักก่อนค่ะ
อ้อ! ลืมกล่าวถึง Mascot ของGhent ไปได้อย่างไร
ครั้งหน้าเล่าต่อนะคะ😀
อีกมุมหนึ่งของ Ghent มองจาก Belfry

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา