14 มิ.ย. 2020 เวลา 00:01 • ท่องเที่ยว
Road Trip Norway 2019 (22) … Burgen : ทะเลสาบสวนสวย พิพิธภัณฑ์ศิลปะ โรงละคร และโบสถ์ประจำเมือง
หลังจากลงมาจากการนั่งรถรางขึ้นไปชมวิวบนเขา และมองเห็นทะเลสาบกลางเมือง ฉันก็ตั้งหมุดหมายในใจว่าจะมาเดินเล่นรอบๆทะเลสาบ และสำรวจว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ใกล้ๆกับที่พักของเรา เมื่อเดินลงไปทางทะเลสาบ .. จะพบกับบ่อน้ำเล็กๆ น้ำตื้น และมีทางเดินหินที่เรียงเอาไว้เป็นระเบียบ แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเรา ก็รู้สึกอยากจะเอามือไปวักน้ำเล่น ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่า เด็กหลายคน ก็ย่อมไม่พลาดที่จะลงไปเดินเล่นด้วย
บนเนินหินที่ตั้งเรียงสูงขึ้นไป มีรูปปั้นบรอนซ์ของ Edward Hagerup Grieg คีตกวีและนักเปียโนที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของนอร์เวย์และของโลก
Edward Hagerup Grieg เป็นผู้อำนวยเพลงของวง Bergen Feel Harmonic Orchestra ระหว่างปี คศ. 1880-1882 .. เขาเกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน คศ. 1843 ในเมืองเบอร์เก้น แม่เป็นครูสอนเปียโน เธอสอนเปียโนให้เขาตั้งแต่เขาอายุ 5 ขวบ เมื่ออายุได้ 15 ปี นักไวโอลินผู้มีชื่อเสียงกระหึ่มโลก คือ Ole Bull ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ ได้แนะนำให้พ่อแม่ส่งเอ็ดเวอร์ดไปเรียนที่สถาบันดนตรี Leipzig Conservatory ประเทศเยอรมัน
Edward Hagerup Grieg มีชีวิตอยู่ในสมัยโรแมนติก แต่สร้างสรรค์ผลงานในลัทธิชาตินิยม เป็นลักษณะประจำชาติที่ได้รับอิทธิพลจากเพลงพื้นเมือง และความประทับใจจากธรรมชาติของนอร์เวย์
ผลงานที่สำคัญของ Edward Hagerup Grieg ได้แก่ Peer Gynt ที่ประพันธ์ขึ้นมาจากบทละครความยาว 5 องค์ของ เฮนริก อินเซน .. เพลง Morning Mood ไพเราะมาก .. เพลง In the Hall of the Mountain King ก็มีท่วงทำนองอันเป็นเอกลักษณ์
ศาลาดนตรีกลางสวนสวย ย่านกลางเมืองBergen นอร์เวย์...
ด้านข้างศาลา เป็นอาคาร West Norway Museum of Decorative Art ..
อาคารแห่งนี้ดูขรึมขลังด้วยวัสดุที่ใช้สร้าง และสีของอาคารโดยรวม มีประติมากรรมรูปวงกลมเกือบครบวงหลายอันซ้อนกันอยู่ วางอยู่กลางสนามหญ้าด้านหน้าอาคาร .. เด็กๆคชอบมากที่จะไปปีนป่ายเล่น
The West Norway Museum of Decorative Art (Norwegian:
Vestlandske kunstindustrimuseum) .. สร้างในปี 1887 ด้วยการดำริของ Johan Bøgh
ในปี 1896 พิพิธภัณฑ์ย้ายมาจัดงานแสดงถาวรอยู่ในอาคารสไตล์ Renaissance Revival ซึ่งออกแบบโดย Henry Bucher (1864–1944) ต่อมาในปี 1916 อาคารถูกไฟไหม้ แต่ก็สามารถรอดมาได้
ชิ้นงานศิลปะที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องเงิน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องแก้ว พอร์ซเลน และผ้าต่างๆ
ในช่วงที่เปิดใหม่ๆ มี Bergen Art Gallery อยู่ชั้นบน และ The Fisheries Museum อยู่ที่ชั้นแรก … ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงงานประเภท temporary exhibitions รวมถึงเน้นงานศิลปหัตถกรรมที่มีในรอบระยะเวลา 500 ปีที่ผ่านมาของประเทศนี้
นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะของจีน ซึ่งส่วนได้รับมาจาก Johan Wilhelm Normann Munthe (1864–1935) ผู้ซึ่งไปใช้ชีวิตในเมืองจีนตั้งแต่เขาอายุ 22 ปี จนกระทั่งจากไปในปี 1935
ทะเลสาบ Lille Lungegårdsvannet
Lille Lungegårdsvannet or Smålungeren .. เป็นทะเลสาบธรรมชาติขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในสวนในใจกลางของเมืองเบอร์เก้น ใกล้กับอ่าว Store Lungegårdsvannet
เดิมทะเลสาบแห่งนี้กว้างใหญ่กว่าที่เห็นในปัจจุบันมาก แต่ขอบของทะเลสาบค่อยตื้นเขิน กลายเป็นแผ่นดิน จนมีขนาดที่เห็นทุกวันนี้ … ต่อมาถูกปรับขอบให้เป็นรูปแปดเหลี่ยม
ตรงกลางของทะเลสาบ มีน้ำพุขนาดใหญ่ ที่สวยงาม .. บริเวณขอบทะเลสาบมีแปลงดอกไม้สีสวย ที่ได้รับการตกแต่งดูแลอย่างดี มีม้านั่งวางไว้ให้ผู้คนมานั่งชมทิวทัศน์ที่งดงาม และรื่นรมย์
มองออกไปที่ถูเขา จะมองเห็นยอดเขาที่เราขึ้นไปดูวิว .. บรรยากาศฟินมากๆ
ประติมากรรม .. ชาวยุโรปนิยมนำเอารูปปั้นมาใช้ประดับ และเป็นส่วนหนึ่งของ การแสดงงานศิลป์ชิ้นสวย
มีผู้คนมานั่งจิบเครื่องดื่มสีสวยๆข้างทะเลสาบ ..
Kude Kunstmuseene
ฟากหนึ่งของถนนที่ติดกับพื้นที่ของทะเลสาบ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Kude 3
Kude … แปลว่า “ระหัส” และถูกใช้เป็นชื่อของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเบอร์เก้น ซึ่งเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ใหญ่ที่สุดในประเทศกลุ่มนอร์ดิก ตั้งอยู่บนถนนสายศิลปะ ข้างทะเลสาบแปดเหลี่ยม Lille Lungegårdsvannet
แยกออกเป็นอาคารแสดงผลงานต่างยุคสมัย ทั้งหมด 4 อาคาร มีชื่อเรียกไล่เรียงกันไป ตั้งแต่ Kude 1 .. Kude 2 .. Kude 3 .. Kude 4
เราไม่ได้เข้าไปชมงานแสดงด้านใน ด้วยเหตุที่มีเวลาที่จำกัด .. แต่อยากเล่าให้ฟังค่ะ
Kude 1 .. อาคารจัดแสดงออกแบบโดย Henry Bucher สถาปนิกชาวนอร์เวย์ เปิดแสดงมาตั้งแต่ปี 1897 ผลงานศิลปะสร้างสรรค์ขึ้นในระหว่างปี 1400-1900 ตั้งแต่ยุคทองของศิลปะ นอร์เวย์ รัสเซีย กรีก (Chinese Collection ไม่เปิดให้เข้าชม หลังจากการโจรกรรมในปี 2013)
ชิ้นงาน มีเครื่องเงิน เครื่องทองที่ล้ำค่ากว่า 600 รายการ .. ประกอบด้วย มงกุฎ แหวน สร้อย ช้อน ประติมากรรม สมกับที่เบอร์เก้นเป็นศูนย์กลางของการผลิตเครื่องเงินและเครื่องทองมาหลายร้อยปี
เฟอร์นิเจอร์ .. ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ หลากยุคจากอดีตจนถึงยุค Post Modern ที่คนทั่วโลกชื่นชม จนเกิดเป็น Design from Scandinavia ที่ทั่วโลกรู้จักกันดี
ไวโอลิน ล้ำค่าของ Ole Bull สุดยอดนักไวโอลินของโลก ก็จัดแสดงที่นี่
Kude 2 .. อาคารรูปทรงเรียบง่ายออกแบบโดย Sverre Lied สถาปนิกที่ออกแบบพิพิธภัณฑ์ Stenersernmuseum ในกรุงออสโล เปิดให้เข้าชมมาตั้งแต่ปี 1978 .. จัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปิน นอร์เวย์
ชิ้นงานที่จัดแสดง มีทั้ง งานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ศิลปะจัดวาง ในรูปแบบนิทรรศการและหมุนเวียน เพื่อให้เห็นความเคลื่อนไหว ฝีมือ และความคิดของศิลปินในยุคปัจจุบัน
Kude 3 .. อาคารสีขาวที่เห็นในรูปด้านบน ออกแบบโดย Ole Landmark สถาปนิกชาวนอร์เวย์ เปิดมาตั้งแต่ปี 1924 .. จัดแสดงคอลเล็คชั่นล้ำค่า ยุคทองของศิลปะนอร์เวย์ จากการสะสมของ Rasmus Meyers ทั้งเครื่องเรือนเก่าแก จิตรกรรมสวยงาม เครื่องเคลืบดินเผาที่วิจิตร
ชิ้นงานที่ต้องไปชม คือ ผลงานของ เอ็ดเวิร์ด มุงค์ สุดยอดศิลปินนอร์เวย์ .. ทั้งงานจิตรกรรม และภาพพิมพ์
Kude 4 .. อาคารวิศวกรรมโรงงานไฟฟ้า ได้รับการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ศิลปินที่เป็นไอคอนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 จนถึงศิลปะสมัยใหม่ … จาก Picasso จนถึงศิลปินที่ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 20
Victor Vasarely บิดาแห่งศิลปะลวงตา (Op Art) .. งานของ Joan Mirc เจ้าของศิลปะลัทธิเหนือจริง (Surralism) .. Paul Klee ศิลปินคนสำคัญที่ทำงานศิลปะหลายแนว .. ที่นี่เราจะได้เห็นสุดยอดคอลเล็คชั่นของ Nicolai As trup จิตรกรนีโฮโรแมนติก ที่คนนอร์เวย์รัก
ชั้นล่างของอาคารพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงศิลปะเด็ก (Kunst Lab) .. ออกแบบสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เป็นแห่งแรกในประเทศนอร์เวย์
Den Nationale Scene (English: National Theater)
Den Nationale Scene หรือโรงละครแห่งชาติ ณ เมืองเบอร์เก้น นับเป็นโรงละครถาวรที่เก่าแก่ และใหญ่ที่สุดในประเทศนอร์เวย์
เดิมมีชื่อเรียกตั้งแต่ปี 1850 ว่า Det Norske Theater ก่อตั้งโดยนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของนอร์เวย์และของโลก คือ Ole Bull
โรงละครก่อตั้งโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาการแสดงของนอร์เวย์ โดยมี Henrik Ibsen เป็นผู้เขียนบทและผู้กำกับการแสดงคนแรก … The Pillars of Society (Samfundets støtter) เป็นละครเรื่องแรกที่จัดแสดงในวันที่ 30 พฤศจิกายน 1877
โรงละครเดิมอยู่ที่ Komediehuset på Engen.. โรงละครปัจจุบันออกแบบโดย Einar Oscar Schou และเปิดการแสดงเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1909 กษัตริย์ Haakon VII of Norway และ Queen Maud เสด็จมาชมการแสดงด้วย
เนื่องจากอาคารค่อนข้างเล็ก ดังนั้นในปี 1913 อาคารนี้จึงถูกบริษัท Ekserserhuset Jonsvoll ใช้เป็นที่เก็บของ .. ในปี 1920 ได้มีการขยายอาคารทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ และมีการต่อเติมขยาย ซ่อมแซซม รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยอีกหลายครั้งในช่วงเวลาต่อมา
โรงละครแห่งนี้รุ่งเรืองที่สุดในช่วงก่อนสงครามโลก ในช่วงปี 1934-39 ภายใต้การดำเนินงานของ Hans Jacob Nilsen… โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 1935 ที่มีการแสดง Vår ære og vår makt ("Our Honor and our Power") โดย Nordahl Grieg
ในปี 2001 อาคารได้รับการปรับจนเกือบเหมือนรูปลักษณะดั้งเดิม .. ในปัจจุบัน โรงละครแห่งนีจัดการแสดงในหลากหลายรูปแบบ ราวๆปีละ 20 ผลงาน ทั้งการแสดงละครเพลง การแสดงรูปแบบสมัยใหม่ จากนานาชาติ และการแสดงคลาสสิกของนอร์เวย์เอง รวมถึงการแสดงของเด็ก
จากปี 1993 เป็นต้นมา โรงละครแห่งนี้ได้ตกเป็นสมบัติของเมือง
Bergen Cathedral (Johanneskirken)
โบสถ์ใหญ่ประจำเมือง Bergen...St.John’s Church... สร้างมาตั้งแต่1894 ในสไตล์นีโอกอธิก จากภาพร่างของ Herman Major Backer สถาปนิกชาวนอร์เวย์
เดิม Adolf Fischer เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง ต่อมา Hans Heinrich Jess ได้เข้ามารับช่วงแทน จนสำเร็จออกมาเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์เก้น … ด้วยสีของิฐที่ใช้ก่อสร้าง จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “โบสถ์แดง”
ออร์แกนสร้างขึ้นมาในปี คศ. 1967
โฆษณา