18 มิ.ย. 2020 เวลา 14:02 • การศึกษา
เด็กออทิสติกเทียม....เด็กที่คุณควรรู้จัก
ในวันนี้ลูกของเราเป็นเช่นนี้หรือไม่?
- มีอายุ 2 -3 ขวบ แล้วแต่ยังไม่พูด ไม่สื่อสาร
- ไม่สบตา (จ้องตา)กับคนที่คุยด้วย
- เมื่อเรียกชื่อไม่หันหน้ามาหา
ขอบคุณภาพจาก : Hatice EROL-Pixabay
เอาล่ะค่ะ ....เมื่ออ่านแล้ว หันกลับมาดูเด็กๆของเราค่ะว่า มีลักษณะเช่นนี้
หรือไม่????
ออทิสติกมี 2 แบบ นะคะ คือ ออทิสติก และ ออทิสติกเทียม
เราจะพูดถึงเด็กออทิสติกชนิดเทียมก่อนนะคะ
พฤติกรรมคล้ายออทิสติกหรือในสังคมเราเรียกว่า " ออทิสติกเทียม"
เป็นภาวะที่เด็กขาด "การกระตุ้น" ในการสื่อสารสองทาง ขยายความคือ
เราพูดกับเด็กแล้วเด็กไม่หันกลับมาพูดกับเรา เราถามไม่ตอบ แต่พูด
งุ้งงิ้งคนเดียว
เมื่อขาดการกระตุ้นในการสื่อสารจึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางการ
สื่อสารกับผู้อื่น
สาเหตุโดยหลักแล้วเนื่องจากพ่อแม่หรือผู้ดูแลเด็กขาดการมีปฏิสัมพันธ์
กับเด็ก หรือเรียกง่ายๆ ว่า พูดคุยกับเด็กน้อย ไม่ค่อยเล่นกับเด็ก นั่นเอง
***หลายบ้านมักใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต เพื่อช่วยให้เด็กอยู่นิ่ง
กับที่ แต่หากเด็กอยู่กับอุปกรณ์เหล่านี้นานเกินไป โดยเด็กไม่ได้พูดคุย
จึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติด้านการพัฒนา
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาผู้เขียนเองมีโอกาสได้พัฒนาเด็กทั้งสองแบบ คือ
เด็กออทิสติกแท้ และเด็กที่เป็นออทิสติกเทียม ทั้งสองอย่างนี้มี
ลักษณะที่ใกล้เคียงกันมาก คือ ไม่พูด ไม่สบตา ไม่หันมาหาเวลาเรียก
ชื่อ
แต่เมื่อพัฒนาแล้ว ได้รับการกระตุ้นที่ถูกวิธีแล้ว เด็กออทิสติกเทียมจะ
สามารถกลับมาเป็นปกติได้ด้วยระยะเวลาอันสั้น
ซึ่งต่างจากออทิสติกที่เป็นโดยลักษณะทางพันธุกรรม หากเมื่อพัฒนา
แล้วก็สามารถมีพัฒนาการด้านต่างๆได้ดีขึ้นแต่ต้องใช้เวลานานพอควร
ดังนั้นขอสรุปเบื้องต้นนะคะ
ออทิสติกโดยกำเนิด สาเหตุอาจมาจากพันธุกรรมซึ่งส่งต่อมาจากครอบครัวทางพ่อหรือทางแม่
แต่!!! คุณแม่อาจทราบได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ได้ประมาณ4เดือน เพราะเราสามารถขอให้คุณหมอตรวจหาโดยการเจาะน้ำคร่ำได้ค่ะ(มีอีกหลายวิธีนะคะ)
***ลักษณะพันธุกรรมนี้ผู้ต้องการมีบุตรควรปรึกษาคุณหมอโดยตรงเพื่อรับคำแนะนะที่ถูกต้องค่ะ
ออทิสติกเทียม สาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการจ้องดู
โทรทัศน์นานๆ หรือหลักๆในปัจจุบันคือ การเล่นมือถืิอและอุปกรณ์
สื่อสารต่างๆมากเกินไป
***ใช้อุปกรณ์สื่อสารมากเกินไป ไม่มีการพูดคุยและโต้กลับของเด็ก***
.
.
.
.
.
สุดท้ายเมื่อท่านอ่านบทความถึงตรงนี้ หากพิจารณาแล้วในขณะนี้
เด็กของท่านเข้าข่ายดังที่กล่าวมา ผู้เขียนอยากขอให้ท่านพาเด็กเข้าพบ
นักพัฒนาการเด็ก เพื่อฝึกพูดและฝึกพัฒนาการด้านอื่นๆ
สำหรับท่านที่กำลังตั้งครรภ์ หรือยังไม่มีบุตร ผู้เขียนเองก็อยากขอท่าน
ว่า เด็กในวัยแรกเกิด - 3 ขวบ นี้เป็นช่วงวัยที่ไม่เหมาะกับเครื่องมือหรือ
เทคโนโลยีต่างๆ หากเลี่ยงไม่ได้ ก็อย่าให้มากเกินไป
เพราะหากเกิดขึ้นแล้วท่านจะต้องใช้เวลา และทุนทรัพย์ในการกระตุ้น
ลูกของท่านเพื่อให้เด็กกลับสู่ภาวะปกติ ทุนทรัพย์ที่ใช้อาจมากเพราะ
หากเราต้องการให้เด็กได้รับการกระตุ้นเร็วขึ้น ก็จะต้องเข้าพบนัก
พัฒนาการเด็กที่อยู่ตามคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชน
ขอบคุณภาพจาก : Anemone 123 - Pixabay
ขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านมีแรงกายและแรงใจจูงมือเด็กๆเดินไปพร้อมกันค่ะ
แม่น้องเจตน์
โฆษณา