21 มิ.ย. 2020 เวลา 09:19 • ปรัชญา
"แม่ฉันจะคิดยังไง
กับสิ่งที่ฉันทำ"
วันนี้ได้อ่านเรื่องราวที่ส่งต่อมาจากพี่ท่านหนึ่งพร้อมคลิปวิดีโอ
หลังจากอ่านจบ ดูคลิป แล้วรู้สึกดี
รู้สึกประทับใจ รู้สึกว่าโลกของเรามันน่าอยู่เพราะยังมีคนแบบนี้
อยากเอามาเล่าต่อ เลยคิดว่านำมาเขียนลงเป็นบทความสักเรื่อง..จะดีกว่า
คลิปเรื่องราวนี้ หลายคนอาจจะเคยดูแล้ว ก็ไม่เป็นไรนะครับ ถือว่าผมนำมาแบ่งปันให้ท่านอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยดูหรือไม่ทราบเรื่องราวก็แล้วกันครับ
อีวาน เฟอร์นันเดช กับ Abel Mutai
เรื่องราวในคลิปเป็นภาพการแข่งขันวิ่งระยะไกลนานาชาติรายการหนึ่งซึ่งในคลิปภาพมีนักวิ่งสองคนกำลังจะเข้าเส้นชัย โดยนักวิ่งคนที่วิ่งนำอยู่เป็นนักวิ่งตัวแทนจากเคนยา ชื่อ Abel Mutai
ส่วนคนที่ตามหลังมาติด ๆ เป็นนักวิ่งชาวสเปนชื่อ อีวาน เฟอร์นานเดช
ในขณะที่ Abel Mutai กำลังจะถึงเส้นชัยอีกไม่กี่ฟุตเท่านั้น Mutai ดันหันไปเห็นป้ายสัญลักษณ์ ตัว & ซึ่งทำให้เขาเกิดความสับสนว่า เขาแข่งขันจบหรือยัง ช่วงนั้นเองที่เขาเกิดอาการลังเลและเริ่มลดความเร็วลง
1
ถ้าคุณเป็นคู่แข่งที่กำลังแย่งชิงอันดับที่ 1 แล้วคุณมองเห็นคู่แข่งที่กำลังวิ่งนำคุณอยู่นิดเดียวเกิดเสียสมาธิ หากเป็นคุณหรือคนอื่น ๆ ทั่วไป คุณคิดว่าจะทำยังไงในช่วงเวลาสำคัญแบบนั้น
คุณหรือใครคนอื่นก็คงใช้โอกาสทองรีบวิ่งแซงเพื่อเข้าเส้นชัย
แล้วหอบรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง ไปนอนกอดที่บ้าน ใช่ไหมครับ
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ อีวาน เฟอร์นานเดช ทำ
เมื่อเฟอร์นานเดช มองเห็นว่า ผู้นำชาวเคนยา ทำท่าทางไม่เข้าใจ สัญลักษณ์ดังกล่าว ซึ่งความจริงมันไม่เกี่ยวกับการเข้าเส้นชัยครั้งนี้เลย สิ่งที่เฟอร์นานเดชทำก็คือ เขารีบตะโกนเป็นภาษาสเปนว่า"เคนยา วิ่งไป วิ่งต่อไป"
แต่ Abel Mutai ก็ฟังภาษาสเปนไม่เข้าใจอีก ทำให้เฟอร์นันเดช ตัดสินใจใช้มือดันให้คู่แข่งที่วิ่งนำหน้าเขาอยู่นิดเดียว ให้วิ่งต่อไปจนเข้าเส้นชัยในที่สุด
ภาพที่เกิดขึ้น สร้างความประทับใจระคนความงุนงงสงสัยให้กับผู้ชมการแข่งขันจนนักข่าวต้องเข้ามาสอบถามเฟอร์นันเดช ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
cr.unsplash
นักข่าวถามว่า "ทำไมคุณทำแบบนั้น คุณสามารถเอาชนะเคนยาได้ ทำไมคุณถึงทำให้เคนยาชนะ?"
เฟอร์นันเดชตอบว่า "ผมไม่ได้ทำให้เขาชนะ เขากำลังจะชนะต่างหาก"
นักข่าวถามต่ออีกว่า "ในความเป็นจริงคุณก็เอาชนะเคนยาได้นี่?"
เฟอร์นันเดช ตอบว่า "ผมจะได้อะไรจากการเอาชนะ ผมจะได้เหรียญใช่ไหม? แล้วแม่ผมจะคิดยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
สิ่งที่เฟอร์นันเดชทำ เกิดจากการที่เขาถูกอบรมเลี้ยงดูมาให้เป็นนักกีฬาจริง ๆ นักกีฬาที่มีสิ่งที่เรียกว่า...
"น้ำใจนักกีฬา"
ความหมายของคำว่า น้ำใจนักกีฬา
ก็คือ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
เฟอร์นันเดช รู้แพ้ เขารู้ว่า ถ้าไม่มีป้ายตัว & มารบกวนสมาธิของ Abel Mutai
ยังไงเขาก็วิ่งแซง Mutai ไม่ทัน หากเขาจะใช้โอกาสนั้นวิ่งแซง Mutai เพื่อเอาชนะ เขาคงรู้สึกว่าเป็นการชนะที่ไม่ยุติธรรม
cr.unsplash
เรื่องนี้ สะท้อน เรื่องราวในสังคมไทยและสังคมโลกได้เป็นอย่างดี
ความขัดแย้งต่าง ๆ มากมายที่เราต้องพานพบเจอตั้งแต่บนถนนในซอย จนถึงวิกฤติความขัดแย้งระดับโลก หลายเหตุการณ์เกิดมาจาก ความไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬาของคนเรา การชนะแล้วเย้ยหยัน การแพ้แล้วชวนตี และการไม่รู้จักให้อภัยกัน
สองข้อคิดที่ได้มาจากเรื่องราวของ
อีวาน เฟอร์นันเดช และ Abel Mutai
ก็คือ..
การอบรมเลี้ยงดูและการทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี มีส่วนสำคัญในการสร้างคนคุณภาพให้กับสังคมเป็นอย่างมาก
1
ชัยชนะที่แท้จริง คือ การเคารพความมีน้ำใจเป็นนักกีฬาต่างหาก
คนชนะไม่ใช่มีเฉพาะคนที่ได้ที่ 1 เท่านั้น แต่คือคนที่รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และรู้จักการให้อภัยก็ถือว่าเป็นผู้ชนะได้เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะทำให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ขอบคุณภาพจาก Youtube
แรงบันดาลใจดี ๆ จาก
อีวาน เฟอร์นานเดช
และ Abel Mutai
ชมคลิปภาพได้ที่..
ขอบคุณนักอ่านที่รักทุกท่าน
ติดตามอ่านบทความดี ๆ ได้ที่
โฆษณา