24 มิ.ย. 2020 เวลา 15:10
Dr.Anemone สตรีผู้ถือครองปริญญาบัตร 3 ใบจากการข่มขู่และทำร้ายคณาจารย์
ย้อนกลับไปปี พ.ศ.2555 ช่วงที่นางสาว J (นามสมมุติ) ใกล้จะจบการศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยแต่ด้วยรายงานชิ้นสุดท้ายซึ่งถือเป็นคะแนนช่วยสำคัญมีการตรวจเจอพบว่ามีการคัดลอกบทความมาจากที่อื่นจึงทำให้อาจารย์ภาคประจำวิชามีมติปรับตกแก่นางสาว J
ทว่าหนึ่งวันก่อนที่เรื่องราวการไม่ผ่านเกณฑ์จะถูกเผยแพร่ออกเป็นลายลักษณ์อักษร
นางสาว J ผู้เต็มไปด้วยไฟแค้นใช้เวลาทั้งวันมองหาโอกาสในการคุยกับอาจารย์คนดังกล่าวเป็นการส่วนตัว
ในที่สุดเมื่อฟ้าเป็นใจการดักรอที่กินเวลาตั้งแต่เช้ายันเย็นก็สัมฤทธิ์ผล
ภายใต้พื้นที่ปิดของห้องอาจารย์ นางสาว J อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานาว่ารายงานที่ตนเองเขียนไม่ได้คัดลอกมาจากที่ใด และย้ำว่าต้องเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดเป็นแน่แท้
แต่ด้วยหลักฐานที่อาจารย์นำเสนอบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ส่วนตัวชี้ให้เห็นว่าเรื่องที่นางสาว J พูดนั้นเป็นเรื่องหลอกลวงแทบทั้งสิ้น
เมื่อจนตรอกกับพยานวัตถุที่อาจารย์แสดงให้ดู แทนที่นางสาว J จะตระหนักรับรู้ถึงความผิดของตัวเอง เธอกลับเลือกใช้วิธีข่มขู่โต้ตอบอาจารย์แทน
เธอคว้ากระบองเพชรที่อยู่บนโต๊ะก่อนจะขู่ด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวว่า
“มึงให้เอฟกู มึงเจอกระบองเพชรแน่”
แม้ขนาดรูปร่างของนางสาว J จะมีสัดส่วนเล็กกว่าอาจารย์อยู่ค่อนข้างมาก แต่เพราะคำขู่ที่มีพลังกับกระบองเพชรที่อยู่ในมือ อาจารย์จึงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการรีบแก้ไขผลการเรียน
ซึ่งจุดนั้นเองที่ถือเป็นการก่อเหตุครั้งแรกของนางสาว J
เมื่อถึงปี พ.ศ. 2559 ขณะนางสาว J กำลังเรียนต่อในชั้นปริญญาโท เธอพบว่าอาจารย์ที่ปรึกษามีความเห็นไม่สอดคล้องกับหัวข้องานวิจัยอิสระที่เธอนำเสนอ
ไม่ว่าจะนำเสนอเรื่องอะไรเป็นต้องโดนปัดตกเสมอไป
ครั้นนางสาว J คิดว่าหรือควรจะเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษาดีแต่เมื่อพิจารณาถึงเวลากระชั้นชิดในการจบการศึกษา มันคงสายเกินไปหากเลือกจะเปลี่ยนตอนนี้ เธอจึงได้แต่ทำใจและนำเสนอหัวข้อต่อไปเรื่อย ๆ
ทว่าหลังจากจมอยู่กับความเครียดและปี พ.ศ.ที่เปลี่ยนไป งานวิจัยที่เพื่อนร่วมรุ่นแต่ละคนทำไปกว่าครึ่งแล้วยิ่งสร้างความกดดันให้กับนางสาว J เป็นอย่างมาก จนในที่สุดเธอก็หันหลังกลับไปใช้วิธีการเดิมเหมือนตอนเรียนปริญญาตรี
ครั้งนี้แทนที่จะดักรอคุยในห้องอาจารย์ เธอเลือกจะซุ่มเฝ้าอยู่หน้ารถอาจารย์ที่ปรึกษาแทน
เมื่อเป้าหมายปรากฎตัว นางสาว J ไม่รอช้าใช้กระบองเพชรสายพันธุ์ใหม่ครูดเนื้อบริเวณขาของอาจารย์เป็นแผลลึกยากจะรักษาหาย
เสียงร้องที่ดังแผ่นซ่านทำเอานางสาว J ต้องรีบเอามือปิดปากอาจารย์
ความทรมานยังมีต่อ นางสาว J ลากกระบองเพชรไปเรื่อย ๆ จากขาลามไปแขน และจากแขนลามไปหน้า
บัดนี้สติของอาจารย์ที่ปรึกษาแทบดับลง แต่เรื่องยังไม่จบหากนางสาว J ยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ
หลังแจ้งความประสงค์เป็นที่เรียบร้อย ปีการศึกษาต่อมานางสาว J ก็ได้ปริญญาบัตรมาครองอีกใบ
ในปี พ.ศ.2562 นางสาว J ก็เจอบททดสอบศีลธรรมในใจอีกครั้งกับวิทยานิพนธ์เรื่องปลาการ์ตูน เธอพบว่าการผสมพันธุ์สัตว์ชนิดนี้ไม่เป็นไปตามที่เธอต้องการ และการที่อาจารย์อยากให้ผลงานชิ้นนี้เต็มไปด้วยการบอกเล่าซึ่งข้อเท็จจริง จึงทำให้นางสาว J ที่อยากมีชื่อเสียงจากหัวข้อปลาการ์ตูนยอมรับการตัดสินใจนี้ไม่ได้
ตราบใดที่อาจารย์ยังอยู่ วิทยานิพนธ์ของเธอคงเป็นได้แค่สิ่งอ้างอิง
เมื่อความโลภและความเย่อหยิ่งบดบังตา นางสาว J มุ่งหน้าปลิดชีวิตอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างไม่รอช้า
เธอเปลี่ยนอาวุธในมือจากกระบองเพชรมาเป็นปืนลูกซอง ก่อนดับลมหายใจทั้งครอบครัวของอาจารย์ด้วยการสาดกระสุนไม่ยั้ง
รายงานข่าว ณ เวลานั้นนำเสนอข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริงแต่อย่างใดก่อนที่อีกหนึ่งปีให้หลังจะมีคนรู้ความจริงว่าเหตุฆาตกรรมยกครัวเกิดจากฝีมือลูกศิษย์สาว
ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้โลกรู้จักนางสาว J ในนาม Dr.Anemone ดอกเตอร์สาวผู้คลั่งไคล้ปลาการ์ตูนถึงขั้นต้องข่มขู่และทำร้ายอาจารย์จนถึงแก่ความตาย
ป.ล.เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากบุคคลจริงแต่เป็นเพียงเรื่องสมมุติเท่านั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์จริงแต่อย่างใด
โฆษณา