24 มิ.ย. 2020 เวลา 05:30 • ความคิดเห็น
โลกจำ นีล อาร์มสตรอง โลกจำ บัซ อัลดริน
แต่โลกลืม ไมเคิล คอลล์ลิน
หนึ่งในประวัติศาสตร์โลกที่ผมเรียนตอนเด็กนั่นก็คือเรื่องมนุษย์คนแรกที่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์ในภารกิจของ Apollo 11 ที่เรารู้จักกันดีนามว่า นีล อาร์มสตรอง และยังมีอีก 1 คน ที่เราจดจำเป็นลำดับรองลงมานั่นก็คือ บัซ อัลดริน (เขาคือตัวละครต้นแบบ บัซ ไลท์เยีย ใน Toy story)
แต่..........จะมีใครจำได้ไหมครับว่าภารกิจนี้แท้จริงแล้ว คนที่ถูกส่งไปมีทั้งหมด 3 คน!!!
และ 1 คน ที่ไม่ได้ถูกจารึกชื่อในประวัติศาสตร์การได้เหยียบดวงจันทร์นั้น เพราะต้องมีหน้าที่ขับยาน เพื่อรับ-ส่ง ให้กับเพื่อน อีกทั้ง 2 คน เขาคนนั้นมีนามว่า ไมเคิล คอลล์ลิน
ความใฝ่ฝัน........มิสำคัญเท่าภารกิจ
เมื่อคุณเป็นกัปตันยาน หน้าที่ของคุณคือพาลูกเรือที่มี เดินทางสู่ดวงจันทร์ และ นำเขากลับมายังโลกให้สำเร็จ
ถึงแม้ความฝันที่เคยมีจะอยากทำสักแค่ไหน แต่เทียบกับภารกิจที่มีนั้นยิ่งใหญ่กว่า
สิ่งที่ ไมเคิล คอลล์ลิน ทำได้ คือ มองผ่านกระจกยาน และฟังเสียงจากวิทยุสื่อสารในยาน ว่า ดวงจันทร์เป็นอย่างไร ความรู้สึกของการได้เหยียบเป็นแบบไหน เขาทำได้เพียงแค่นั้น...... ถึงแม้ในใจ อยากที่จะเป็นคนลงไปเหยียบ ดวงจันทร์เองมากสักเท่าไหร่ก็ตาม
ถ้าคุณเป็น ไมเคิล คอลล์ลิน จะรู้สึกยังไงกัน???
ในช่วงระยะเวลาหนึ่งของภารกิจ คอลล์ลิน จะต้องบังคับยาน เข้าสู่ มุมอับสัญญาณ เป็นช่วงเวลาที่เขาจะขาดการติดต่อกับเพื่อน ๆ อย่างสิ้นเชิง
มีคนออกมาบอกว่า เขาต้องมีความรู้สึกน้อยใจแน่ ๆ เลย และก็คงอาจจะถึงขั้นร้องไห้คนเดียวอยู่ภายในยานตอนนั้น
แต่ภายหลังก็มีการนำบันทึกของเขา ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเองเองในตอนนั้น รู้สึกยินดี และตื่นเต้นมากกว่า ที่จะมาคิดน้อยใจอะไรแบบนั้น เพราะเขาเป็นคนที่แบกรับชีวิตของเพื่อนร่วมทีม อีก 2 ชีวิต
**เกร็ดเล็กความรู้ คอลลินท์ เคยทำภารกิจที่ดวงจันทร์มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่สำเร็จ ผลปรากฎว่า เพื่อนร่วมทีมของเขาต้องเสียชีวิตอยู่ในจักรวาลอันเวิ้งว้างนั้น และมีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่รอดชีวิตกลับมาได้
เรื่องราวเหล่านี้ คุณ ได้เห็นอะไรบ้างกัน?? ในหนึ่งเรื่องราว มักมีมุมมองที่แตกต่างเสมอ
สำหรับผม ผมเห็นถึง ความเสียสละ อันยิ่งใหญ่ ของ ไมเคิล คอลล์ลิน เขาไม่ได้เป็นชายที่ถูกลืม แต่เขาเป็นคนที่ถูกจดจำต่างหาก!!
ถูกจดจำในแบบของเขา ถูกจดจำโดย นีล อาร์มสตรอง และ บัซ อัลดริน ในฐานะ กัปตันผู้พา พวกเขาทั้งคู่ รอดชีวิตกลับมา และกลายเป็นประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
นั่นแหละ คือความสำเร็จของเขา ความสำเร็จในแบบของคนที่ เป็นผู้สนับสุนคนอื่น
คนบางคน เกิดมาเพื่อสนับสนุนคนอื่น ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคนที่โดดเด่น
ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความสามารถ แต่สิ่งที่เขาได้ดีกว่า นั่นคือการทำให้คนอื่น เป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้ เพราะมีเขา
เราเห็น คนที่ประสบความสำเร็จ หลายต่อหลายคน ล้วนแล้วแต่มีคนที่เป็นผู้สนับสนุนอยู่ข้างกาย
โค้ช ผู้พัฒนานักกีฬาต่าง ๆ เหมือน เซอร์ เอล็ก เฟอร์กูสัน ที่ทำให้ โรนัลโด้แจ้งเกิด ขึ้นมาในวงการฟุตบอล
เหมือนดั่ง ขงเบ้ง กุนซือ ที่ ทำให้เล่าปี่ ที่เป็นเพียง แม่ทัพ ที่ไม่มีแม้แต่กองทัพ และเมืองอยู่อาศัย กลายมาเป็น ฮ่องเต้ แห่งจ๊กก๊ก
เหมือนดั่ง คนแต่งเพลง อย่าง ครูสลา คุณวุฒิ ที่ทำให้ ศิลปินที่ร้องเพลง โด่งดัง เป็นพลุแตก
พวกเขาเหล่านี้ อาจจะไม่เป็นที่จดจำเท่า คนที่โดดเด่นอยู่ด้านหน้า แต่พวกเขามีความสามารถ ในสิ่งที่คนอื่นไม่มี นั่นคือ ความสามารถในการสนับสนุนให้คนอื่นไปสู่ความสำเร็จ
ความสุขของเขา คือการที่ได้เห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ ภายใต้ร่มเงาที่เขาได้สร้างขึ้น
เบื้องหน้าของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จะมีเบื้องหลังที่ใหญ่ยิ่งอยู่เสมอ
แม้ว่าโลกจะไม่จดจำ ไมเคิล คอลล์ลิน ก็ไม่เป็นไร แต่ผมมั่นใจว่า ความทรงจำของ นีลล์ อาร์มสตรอง และ บัซ อัลดริน นั้นแตกต่างกับคนทั้งโลกแน่นอน
โลกเรานี้มีคนที่คอยสนับสนุนคนอื่นอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนเบื้องหลังในการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่างานจะเป็นชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ ล้วนแล้วแต่ เกิดมาจากการร่วมมือกันทั้งสิ้น แม้ว่าจะเป็นเพียง จิ๊กซอว์ ชิ้นเล็กๆ แต่หากว่า มันไม่ถูกประกอบขึ้น ภาพ ๆ ใหญ่ มันก็จะไม่มีวันสมบูรณ์
ขอมอบบทความนี้ แก่ผู้คนที่เป็นกำลังสนับสนุนคนอื่น ทุก ๆ ท่าน
พวกคุณคือคนที่น่ายกย่องมากครับ
เพราะหากไม่มีพวกคุณ ก็จะไม่มีพวกเราในวันนี้
แรงบันดาลใจในการเขียน จากเพลงนี้ครับ
โฆษณา