24 มิ.ย. 2020 เวลา 10:16 • ปรัชญา
“ ชนะได้โดยไม่ต้องเหนื่อย “ อะไรที่ทำให้ชายที่พิการ!! พลิกกลับมากลายเป็นขุนนางใหญ่ เขาใช้กลยุทธ์อะไร ตามไปดูกัน 🤔
ในสมัยก่อน เมืองไหนที่มีกำลังอ่อนแออย่อมต้องตกเป็นเมืองขึ้น ของเมืองต่างๆ และ สิ่งที่จะทำให้เมืองๆหนึ่งกลับมายิ่งใหญ่ได้ ก็หนีไม่พ้นการค้นหาคนดีมีฝีมือมาช่วยงาน
เมืองเอียนก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากกษัตริย์เอียนที่2 สิ้นพระชนม์ไป รัชทายาทเอียนก็ขึ้นมาตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์เอียนที่3
แต่ด้วยที่พระองค์ต้องการพัฒนาเมืองของตัวเองให้มีความเข็มแข็ง ก็ปิดประกาศรับคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน
แต่ผ่านมา สามเดือนกว่าแล้วกับมีคนมาสมัครคัดเลือกไม่เกิน สิบคน ถามว่าทำไมถึงไม่มีใครมา นั่นคงเพราะ คนหนุ่มที่มีความสามารถทั้งหลายไม่ไว้ใจ กษัตริย์เอียนนั้นเอง ในอดีตก่อนที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ รัชทายาทเอียนเป็นคนเกเร รังแกประชาชน จนคนที่มีความสามารถทั้งหลาย ไม่มีใครสนใจเดินทางมาร่วมการทดสอบคัดเลือกด้วย
ผู้สมัครทั้ง สิบคน กับมีอยู่ผู้หนึ่งที่ดูแปลกประหลาดมาก มือทั้งสองข้างบิดงอ แต่แววตาแฝงไปด้วยความเป็นผู้มีปัญญามาก
กษัตริย์เอียนเกิดความสงสัยเลยถามหนุ่มพิการไปว่า เจ้ามาสมัครตำแหน่งอะไร?
คำตอบที่ได้รับกับทำให้กษัตริย์เอียนแปลกใจอยู่ไม่น้อย “ตำแหน่งขุนนาง!”
ชายพิการกล่าว “ การปกครองประเทศนั้น คนสำคัญที่สุด ถ้าได้คนที่มีความรู้ ความสามารถมาช่วยงาน ในการพัฒนาประเทศ ประเทศนั้นๆย่อมพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว”
“เจ้ามีความสามารถหรือ?” กษัตริย์เอียนถามด้วยความสงสัย
“ไม่มี แต่ท่านสามารถใช้ตัวข้าได้”
“อย่างไร?”
ชายพิการยิ้มขึ้นที่มุมปาก แล้วกล่าวต่อว่า.. (อารมณ์ประมาณมึงเสร็จกูแน่55)
“ในสมัยโบราณมีกษัตริย์องค์หนึ่งทรงชื่นชอบม้ามาก ยิ่งเป็นม้าที่วิ่งได้เร็วและวิ่งได้ไกลหลายพันลี้จะชอบมาก”
“จนในที่สุด ก็มีคนมาบอกกษัตริย์ผู้นั้นว่า ได้เจอม้าที่มีลักษณะตามที่กษัตริย์ต้องการแล้ว แต่เสียอย่างเดียวต้องเดินทางไปไกลมาก เพื่อที่จะไปเอาม้าตัวนั้นมา คงต้องใช้เงินและเวลาเป็นอย่างมาก เกรงว่าการเดินทางครั้งนี้จะไม่คุ้ม”
“แต่ว่ากษัตริย์ต้องการม้าตัวนั้นมาก จะเสียเท่าไรก็ยอม จึงมอบเงินให้แกชายคนนั้นไปถึงหนึ่งพันตำลึงทอง”
“แต่พอไปถึงสถานที่ ที่ม้าพิเศษตัวนั้นอยู่กับพบว่า ม้าได้ตายไปแล้ว คนที่ออกไปตามหาม้ารู้สึกลำบากใจมาก เงินก็รับมาแล้ว ถ้ากลับไปมือเปล่าคงต้องถูกลงโทษแน่นอน”
“เขาจึงตัดสินใจซื้อกระดูกม้าตัวนั้นกลับมา แล้วถวายให้กับพระราชา แล้วกล่าวว่า เมื่อม้าตายไปแล้ว เขาขอรับเงินเพียง ห้าร้อยตำลึงทองเป็นค่าจ้างพอ”
“กษัตริย์ได้ฟังดังนั้นก็โกรธมากจึงบอกออกไปว่า ข้าอยากได้ม้าเป็น กลับเอากระดูกม้าตายมาให้ข้า แล้วยังคิดจะเอารางวัลจากข้าอีกหรือ”
“ชายผู้นั้นจึงทูลว่า ถ้าพระองค์เชื่อกระหม่อน ก็จะมีคนนำม้าที่ดีมาเสนอแกพระองค์มากมาย”
“อย่างไร?”
“ชายผู้นั้นกล่าวต่อว่า ถ้าท่านประกาศไปว่า ท่านอยากได้ม้าพิเศษแบบนี้มาก แต่ขนาดตายแล้ว ท่านยังยอมจ่ายเงิน ห้าร้อยตำลึงทอง เพื่อซื้อกระดูกม้าตัวนี้มา และจัดงานฝังกระดูกม้าอย่างสมเกียรติ ประชาชนที่อยู่ทั้งเมืองนี้ และเมืองอื่นๆพอทราบข่าว ก็จะชื่นชมในความจริงใจที่ท่านเป็นคนรักม้ามาก ขนาดกระดูกม้าท่านยังรักถึงเพียงนี้ เมื่อผู้ที่มีม้าที่มีฝีเท้าดีทราบข่าว ก็จะนำม้าฝีเท้าดีมากมายออกมาให้ท่านเลือก”
ชายพิการก็หยุดเล่านิทาน และ หันกลับไปมองกษัตริย์เอียน แล้วกล่าวว่า “กระดูกม้า ตัวนั้นก็เหมือนกับตัวข้า ถ้าท่านแต่งตั้งตัวข้าเป็นขุนนาง แล้วเป่าประกาศไปว่า ขอให้เป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถจริงๆ ต่อให้จะเป็นคนพิการ กษัตริย์เอียนก็จะเลี้ยงดูด้วยความเต็มใจ”
“เมื่อผู้มีความรู้ความสามารถทั้งหลายได้เห็นความจริงใจของท่านเช่นนี้ ก็จะหลั่งไหลออกมาให้ท่านเลือกเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน”
บทความเรื่องนี้ เพจใจดีอยากจะสื่อว่า ไม่ว่าจะในองค์กรหรือในประเทศชาตินั้นๆ ย่อมมีคนดีคนที่มีความสามารถเหล่านั้นอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าผู้นำแสดงออกถึงความจริงใจที่จะสนับสนุนคนดีคนเก่งให้ได้รับโอกาสจริงๆ คนดีคนเก่งทั้งหลายก็พร้อมที่จะออกมาช่วยพัฒนาองค์กรหรือประเทศนั้นๆ อย่างแน่นอน.. 😆
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านกันจนจบนะครับ🙏💕
สามารถติดตามใจดี ได้อีกช่องทางที่ App :facebook blockdit และ instagram
#ถ้าใจเราดี.อะไรๆก็ดีไปหมด
โฆษณา