30 มิ.ย. 2020 เวลา 08:05 • ท่องเที่ยว
เขื่อนวชิราลงกรณ … หนีร้อนไปนอนเขื่อน ณ กาญจนบุรี
กาญจนบุรีกับฉันไม่ใช่คนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน … ฉันเคยมาเที่ยวเมืองกาญจน์หลายครั้ง ด้วยเหตุที่ชื่นชอบเสน่ห์ของขุนเขาอันสลับซับซ้อน มีสันเขาด้านทิศตะวันตกกั้นเขตแดนไทย-พม่า
เขื่อนวชิราลงกรณ เดิมมีชื่อว่า เขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ที่สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ด้านผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก .. เริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2522 เสร็จเรียบร้อยในปี 2527
หลังสร้างเสร็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนวชิราลงกรณ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2529 และพระราชทานชื่อใหม่ว่า “เขื่อนวชิราลงกรณ”
การไฟฟ้าฯในปัจจุบัน ดูเหมือนจะมีนโยบายที่สำคัญอย่างหนึ่งให้เขื่อนภายใต้การดูแลทุกแห่ง ได้มีการจัดตกแต่งสวนในเขื่อนทุกแห่งให้สวยงาม เพื่อภาพพจน์ที่ดี ในการเป็นสถานที่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม … พร้อมๆกับการส่งเสริมให้คนทั่วไป ไปเที่ยวชมบริเวณเขื่อน
ฉันชอบการจัดตกแต่งภูมิทัศน์ในบริเวณเขื่อนวชิราลงกรณ์ รวมถึงผู้คนที่นี่ … ดังนั้น แม้จะเคยไปเที่ยวหลายครั้งแล้ว แต่เขื่อนวชิราลงกรณ ก็ยังเปี่ยมเสน่ห์ให้เรากลับไปเยือนได้อีกหลายๆครั้ง… ด้วยภูมิประเทศเป็นเนินเขาสูงๆ ต่ำๆ ล้อมรอบด้วยเทือกเขาที่เห็นอยู่ไกลๆในสายตา ทำให้อากาศที่นี่น่ารื่นรมย์ ไม่ร้อนจนเกินไป
การใช้จักยาน … เราจะมองเห็นผู้คนขี่จักรยานไปนั่น มานี่ เป็นพาหนะหลักอย่างหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะทำให้เราได้ออกกำลังแล้ว การขี่ช้าๆไปเรื่อยๆ ยังเป็นโอกาสให้เราได้ชื่นชมกับสิ่งสวยงามรอบตัวในราคาที่ถูกแสนถูก
พื้นที่ด้านหน้าของสโมสร … มีสวนสวยๆให้ผู้คนที่มาเยือนได้ไปโพสท่าเก๋ๆเก็บภาพกลับไปอวดเพื่อนๆในโลกโซเชี่ยล ที่โดดเด่นมากๆในสวนแห่งนี้ คือ จักรยานคันโตที่จอดรอให้สาวๆเข้าไปโพสท่าถ่ายรูป
นอกจากนั้นยังมีการนำไม้พุ่ม ไม้ดอกมาจัดเรียงเป็นรูปร่างๆ เช่นรูปหัวใจ โดยเว้นระยะห่างให้พอมีทางเดินให้เราเข้าไปชื่นชมได้อยางใกล้ชิด
ในช่วงย่ำค่ำไปจนถึงช่วงกลางคืน แสงไฟที่ส่องในมุมต่างๆของสวน ยิ่งส่งให้สวนสวยงามขึ้นมาอีกมากมาย ด้วยแสงมลังเมลือง
สะพานแก้ว … ตั้งอยู่ข้างๆสโมสร มีความสูงจากระดับพื้นดินด้านล่างหลายสิบเมตรเหมือนกัน เวลาเดินก็ออกอาการเสียวๆเล็กน้อย ความยาวของสะพานไม่มากนัก มีจุดเด่นอยู่ที่เราสามารถมองเห็นพื้นที่ด้านตรงข้ามที่เป็นภูเขาสีครามอยู่ไกลๆ และด้านล่างเป็นพื้นที่ราบในหุบเขาดูเขียวขจี
เราเดินลงไปชมสวนดอกไม้สวยๆที่มองเห็นตอนที่อยู่บนสะพาน … ช่วงที่เราไปเยือนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เวลาพลบค่ำ แสงจากดวงไฟไม่มากเกินไป เมื่อสะท้อนวิบๆวับๆ ทำให้วิวและบรรยากาศชวนฝันไม่เบาเลยค่ะ ดอกไม้สีม่วงชวนฝันก็กำลังออกดอกสะพรั่งงดงามมากมาย
มองจากบริเวณสวนด้านล่างกลับไปยังตัวอาคารของร้านอาหาร .. น้ำตกในระดับล่างจากตัวอาคาร หลลดเลี้ยวผ่านทางน้ำและโขดหินที่จัดวางไว้สวยงาม เมื่อมองผ่านม่านดอกไม้สีม่วงสวยที่ไหวระริกในสายลม ได้บรรยากาศชิลๆ ฟินๆมากมาย
สโมสรของการไฟฟ้าฯ มีร้านอาหารเรือนเขาแหลมไว้บริการอาหารตามสั่งไว้บริการตลอดวัน .. มีเมนูให้เลือกหลายอย่างที่ล้วนน่ากินมาก ที่ได้รับการแนะนำก็เป้นจำพวกปลาที่ได้จากเขื่อนมาสดๆ น้ำพริกรสชาติจี๊ดจ๊าด ตุทุกเมนูต้องยกนิ้วให้ในเรื่องของความกลมกล่อมของรสชาติ ถูกปากมากๆ
บริเวณที่ตั้งของอาคารสำนักงาน และสถานที่ต่างๆของการไฟฟ้าถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ ทำให้มีหมอกหนา หรือจางๆทุกวัน ดูโรแมนติก
บรรยากาศของที่นี่ดูสบายๆ น่ารื่นรมย์มาก … เช้าๆท่ามกลางสายลมอ่อนๆที่นำความเย็นมากระทบผิวกายให้สดชื่น ยังมีพระสงฆ์เดินเข้ามารับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนทุกวัน …. ฉันคิดเอาเองว่า คงมีแนวความคิดจะให้เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทั้งพนักงาน เจ้าหน้าที่ และยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้ามาเห็นอาณาจักรของที่นี่ และเขื่อนขนาดใหญ่ในอีกด้านหนึ่ง
ใครบางคนบอกเราว่า หากมาเยือนที่นี่จะต้องไม่พลาดการไปเฝ้ามองพระอาทิตย์ขึ้นบนสันเขื่อน … เราจึงนั่งรถเพื่อขึ้นไปที่สันเขื่อน และรอพิสูจน์ว่าบรรยากาศจะงดงามดั่งคำเล่าลือหรือไม่
เช้านี้พระอาทิตย์ดวงกลมโตลอยเหมือนไข่แดงอยู่สูงๆ ค่อยๆลอยตัวสูงขึ้นจากซอกหลืบของภูเขาสูง… แสงสีแดง ส้ม เหลืองทอง ดูระยิบระยับเป็นเชิงชั้น คละกันไปกับแสงเรื่อเรืองของชั้นบรรยากาศสีฟ้าเทาดูงดงามเหมือนภาพวาดของจิตรกรชั้นครูที่สะบัดปลายพู่กันลงบนผืนผ้าใบด้วยความชำนาญ
แนวเขาและยอดเขาช้างเผือกจุดสูงสุดของที่นี่ที่สูง 1,249 เมตรสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด ซึ่งทั้งเนินกูดดอยและเนินช้างเผือกต่างก็เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นชั้นดีที่สามารถมองเห็นดวงตะวันแรกแย้มยามเช้าได้อย่างสวยงามน่ายล
มองลงไปด้านล่าง … ท่ามกลางความขมุกชมัวของสายหมอกยามเช้า มองเห็นเหมือนสวนที่มีต้นไม้สีชมพูเรียงรายเป็นแนวยาวตามเส้นโค้งองถนน ดูมัมิติองความความสวยงามปนกับความลึกลับ น่าสนใจ ทำให้เราชักชวนกันลงไปชมอย่างไม่ลังเล
ก่อนลงจากสันเขื่อน … ขอเก็บภาพสวยๆบนนี้กันก่อนค่ะ
บนสันเขาด้านที่หันลงมาที่บริเวณเขื่อน มีพระพุทธรูปนาคปรกตั้งอยู่บนยอดเขา … เหมือนกับจะช่วยสอดส่อง ปกป้อง คุ้มครองทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกสรรพชีวิตที่นี่ … ที่พึ่งทางด้านจิตใจของชาวเขื่อน
เมื่อมองออกไปยังสถานที่รอบๆ ทำให้คิดถึงหนังสือซีรี่ย์ยาว ที่เล่าถึงเรื่องราวการใช้ชีวิตของชาวเขื่อน ที่ใครบางคนจับให้เข้าไปโลดแล่นเป็นตัวอักษรอยู่ในหนังสือชุดชาวเขื่อน …
ในหนังสือชุดนั้นผู้เขียนได้ประมวลชีวิตประจำวันของคนที่ทำงานกับเขื่อนไว้เกือบทุกแง่มุม ด้วยภาษาและลีลาการเล่าผ่านตัวอักษรที่งดงาม เต็มไปด้วยสีสันและอารมณ์ขัน ทำให้น่าติดตาม สามารถสร้างจินตนาการและอารมณ์ร่วมได้ไม่ยาก … เป็นหนังสืออีกชุดหนึ่งที่ฉันเคยติดงอมแงมในอดีต
ศาลาชมวิว และสวนสวยๆ … ตั้งอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงโรงไฟฟ้าเขื่อนวชิราลงกรณ ณ จุดนี้เราสามารถที่จะถ่ายรูปโดยเห็นชื่อของเขื่อนได้
รวมถึงอาจจะนั่งพักรับอากาศสดชื่น ลมเย็นๆ ของเขื่อนวชิราลงกรณ
ฉันชอบการจัดภูมิทัศน์ของที่นี่มากค่ะ ด้วยมีสนามหญ้าเขียวๆอยู่แทบทุกตารางนิ้ว ประดับประดาด้วยไม้ยืนต้นนานาชนิดที่ลำต้นสูงชะลูดขึ้นไปในอากาศ บางต้นให้ดอกสีสันสวยงาม ดอกไม้หลายชนิดฉันไม่เห็นที่ไหนมาก่อน ดอกไม้หลายชนิด เช่น กัลปพฤกษ์ กาฬพฤกษ์ กระโดน อินทนิล ฯลฯ
ด้านหน้ามีพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบรัฐพิธีเปิดเขื่อนวชิราลงกรณ
ฉันชอบต้นกัลปพฤกษ์ที่ปลูกเรียงรายตามแนวโค้งของถนนมาก ต้นดอกกัลปพฤกษ์ที่ออกดอกบานสะพรั่งนั้น โดยมีภาพของภูเขาสูงที่เราเพิ่งจะจากมาเป็นฉากหลัง เป็นภาพแสนสวยในสายตา และดูอ่อนโยน อ่อนน้อมอยู่ในที .. ทิ้งดอกและกลีบดอกให้พร่างพรูลงมาปกคลุมพื้นดินเหมือนพรมดอกไม้ จนไม่กล้าที่จะไปก้าวเท้าไปเหยียบให้ดอกชอกช้ำใต้อุ้งเท้า
หากอยากจะมาเที่ยวให้เจอกัลปพฤกษ์ออกดอกสะพรั่งสวยงาม แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงต้นเดือนมีนาคมนะคะ
สถานที่แนะนำเมื่อมาเยือนเขื่อนวชิราลงกรณอีกแห่งหนึ่ง คือ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาบรมราชินี ตั้งอยู่ทางซ้ายมือทางเข้าเขื่อนวชิราลงกรณ
ลายเสื่อกระจูดและลายผ้าตีนจก ซึ่งเป็นลายที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงสนพระราชหฤทัย ได้รับการออกแบบให้มาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดสวนที่นี่ จึงดูแปลกตากว่าสวนโดยทั่วไป และมีศาลากลางสวน ไว้ให้นั่งพักผ่อนชื่นชมสวนอีกด้วย
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปกับ พี่สุ
ท่องเที่ยวทั่วโลก กับพี่สุ
ซีรีย์เที่ยวเจาะลึก ประเทศนอร์เวย์
อาหารการกิน & Lifestyle แบบพี่สุ
โฆษณา