1 ก.ค. 2020 เวลา 11:08
🎯 ครวญนาคา
" ..ดูเอาเถิดเหล่ามนุษย์ผู้มีศีล มิติแห่งลี้ลับนี้ช่างน่าค้นหาหรือไม่ กอรปด้วยแสงแวววาวแห่งอัญมณีอันจะหาที่ใดเปรียบได้จากโลกมนุษย์
มิติทับซ้อน มีทิพยวิมานซ่อนเหลื่อมใกล้ภูมิมนุษย์
บางเหล่าอยู่สวรรค์ บางเหล่าสถิตย์ในคงคา บางเหล่ามีนิวาสใต้พื้นพิภพ
เหล่าตัวข้ามีแก้วทิพย์บุญญฤทธิ์ ส่องสว่างทั้งกลางวันกลางคืน ไม่ต้องร้อนให้เหงื่อไคลไหลหรือหนาวเหน็บเจียนขาดใจ ทั้งยังมีลูกแก้วทิพย์นิรมิตตามใจต้องการ
มิต้องโหยหา มีเวทนาหิวเหมือนมนุษย์ เราอิ่มในบุญเป็นเครื่องอยู่ หาเหมือนพวกกายหยาบอย่างมนุษย์ไม่
เรามีฤทธิ์อำนาจเกินประมาณ แต่เราไม่ทำร้ายใครหากไม่มีกรรมหนักต่อกัน เพียงเพราะเรามีหิริโอตัปปะธรรมเหนือมนุษย์
เราดำรงอยู่ด้วยรูปร่างลักษณะเหมือนมนุษย์ทุกประการ ความสง่างาม เรามีเราเหนือกว่าสูเจ้าทั้งหลาย
จึงเป็นที่น่าอิจฉาและเกรงขาม แก่เหล่ามนุษย์ทั้งผู้เกลือกกลั้วด้วยกิเลส ที่เพียรมากราบไหว้แห่งเรา แต่หารู้ไม่ว่า
หลายสิ่งที่เราช่างอิจฉามนุษย์เสียเหลือเกิน เพราะเหตุใดฤา
แม้เราจะอยู่ในสุขติภูมิหรือสวรรค์จาตุมหาราชิกา แต่เราไม่สามารถออกบวชเพื่อประหารกิเลสอย่างมนุษย์ได้ไม่
เพราะเรายังถือในภูมิของเดียรฉาน (ปฏิสนธิด้วย อเหตุกจิต ไม่ประกอบด้วยปัญญา) เข้าใจธรรมได้ แต่ไม่สามารถบรรลุธรรม ดังที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้
เราเข้าใจที่พระองค์ทรงห้าม อาจเป็นเพราะว่า
เราดำรงอยู่ในคราบมนุษย์ก็จริง แต่ไม่สามารถทิ้งอัตภาพเดิมคือผู้ที่ใช้อกเลื้อย
หากเราต้องการแสดงตน เวลาเกิดโทสะ เวลาเดินทาง เวลาเผลอสติ เวลาแสดงฤทธิ์ หรือแม้กระทั่งจิตปฏิพัทธ์ในกาม หากบวชวันใดเกิดเผอเลอ อันตรายย่อมมีแก่มนุษย์
เห็นไหม สูทั้งหลาย ยังอยากวิงวอนร้องขออยากเป็นแบบเราหรือไม่ ถ้ายังอยากเป็น เราจะมีเรื่องเล่าให้ฟัง
ครั้งหนึ่งมีชายเกิดในตระกูลยากจนเข็ญใจ ในครั้งหนึ่งได้เห็ญพญานาคมารับพลีกรรมที่ฝั่ง เป็นอันว่าครั้งนั้นเราจะเห็นเมืองบาดาลเปิด ชายคนนั้นเกิดความปราถนาอยากมีทรัพย์สินอันประมาณมิได้ ที่อยู่ช่างวิจิตรงามเหลือ
จึงตั้งความปราถนาอยากเป็นพญานาค รักษาอุโบสถศีล เมื่อถึงกาลสิ้นอัตภาพ พบตัวเองจุติใหม่ในร่างของของงูใหญ่ ผู้ที่ใช้อกเลี้อย ดูแล้วน่าเวทนายิ่ง ถึงกับคร่ำครวญอยากตายซะเดี๋ยวนั้น ด้วยเหตุที่บุญที่ได้กระทำมาแล้ว ย่อมไปจุติที่ดีกว่าสูงกว่า นี่คือเรื่องหนึ่ง เป็นพญานาคด้วยแรงปราถนา
อีกเรื่องหนึ่งเราเคยเกิดเป็นมนุษย์ ใฝ่ในทาน รักษาศีลเนืองๆ แต่ทุกครั้งเมื่อทำทาน มักจะขอความร่ำรวย อันไม่ประมาณ เป็นมนุษย์ขี้ขอที่เกินกำลัง แทนที่ยินดีที่ได้สละทาน กลับมีความหลง ความโลภ ความโกรธเจือไปทุกขณะ สิ้นอัตภาพจิตที่ขุ่นมัวก็ย่องส่งผลมาอยู่ในภูมิที่ใช้อกเลื้อย
เราอาจจะมีเทวะธรรมคือหิริโอตัปปะเป็นเครื่องครองใจที่สูงกว่ามนุษย์ เราอาจจะมีทิพยทรัพย์สมบัติที่มากมาย
แต่ทรัพย์ที่สำคัญที่สุดคือ "อริยทรัพย์ "ที่เหล่ามนุษย์มีโอกาสมากกว่าเรา
เราทำได้เพียง
♤ขึ้นมาภูมิมนุษย์เพื่อสักการะสถูปทั้งหลายที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า หรืออรหันตสาวก
♤ เพื่อมากราบไหว้ฟังธรรม
♤เพื่อมาบำเพ็ญบารมี
♤เพื่อเที่ยวดูโลก แต่พวกเราไม่ใคร่มาด้วยเหตุนี้เท่าใดนัก เนื่องจากวุ่นวาย และเต็มไปด้วยกิเลสหาความร่มรื่นไม่ได้
เมื่อเธอมาหาเรานึกถึงเรา สักการะรูปปั้นเรา
พึงตระหนักว่า หากเธอจะไหว้ อย่าไหว้ที่ตัวเราเลย
ให้ไหว้ในคุณธรรมที่เรามีอยู่ คือหิริโอตัปปะ คือความละอายและเกรงกลัวต่อการทำบาปทั้งปวง เพียรเพื่อให้ได้ธรรมะมงคลนี้เกิดกับสูเจ้า
อย่าเพียรขอโชคลาภและความร่ำรวย โดยเพียงแค่สักการะหรือบริจาคทาน
เพราะหากสิ้นอัตภาพไป สูท่านอาจใช้อกเลื้อยอย่างเรา หรือหากไม่มีศีลครองใจแล้ว อาจจะไปกำเนิดในสัตว์เลื้อยตระกูลต่ำผู้ออกจากไข่ เป็นที่น่ารังเกียจ น่ากลัวของมนุษย์...ขอสูท่านตรองดูเถิด"
‐------‐----------------------------
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 771
     ด้วยศัพท์ว่า อบาย ทรงแสดงถึงกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน. จริงอยู่  กำเนิดสัตว์ดิรัจฉานชื่อว่า  อบาย  เพราะปราศจากภูมิเป็นที่ไปดี ไม่จัดเป็นทุคติ  เพราะเป็นที่เกิดของพญานาคเป็นต้น
ถ่ายภาพวีดีโอ:ขบถ~ยาตรา
โฆษณา