[Welldone Guarantee] Mazda หย่าขาด!! จับมือ ISUZU พลิกโฉม กระบะ BT-50 ใหม่ วันนี้เราจะมาอับเดตข่าวรถกระบะที่พึ่งออกมาใหม่ในออสเตรเลียกันนะครับผม นั่นก็คือเจ้าตัว All-New MAZDA BT-50 แต่ที่น่าแปลกใจเลยก็คือเป็นการจับมือระ

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

1 ก.ค. 2020 เวลา 13:00 • ธุรกิจ

Mazda หย่าขาด!! จับมือ ISUZU พลิกโฉม กระบะ BT-50 ใหม่

วันนี้เราจะมาอับเดตข่าวรถกระบะที่พึ่งออกมาใหม่ในออสเตรเลียกันนะครับผม

นั่นก็คือเจ้าตัว All-New MAZDA BT-50

แต่ที่น่าแปลกใจเลยก็คือเป็นการจับมือระหว่างพันธมิตรใหม่

อย่าง Mazda และ Isuzu ในการพัฒนากระบะตัวนี้ภายใต้Modelชื่อ Rg-01 ถือว่าเป็นคู่พันธมิตรใหม่ที่จับมือกับสดๆร้อนๆเลยทีเดียว

ซึ่งเดี๋ยวนี้ค่ายรถยนต์ก็นิยมร่วมจับมือกันพัฒนา

เพราะมันเป็นการลดต้นทุนอันไหนแชร์กันได้ อันไหนแชร์ Know-howกันได้ก็แชร์

เพื่อลดต้นทุนและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

อย่างรุ่นล๋าสุดที่ออกมาเราจะเห็นว่ารูปร่างจะใช้ของ Isuzu

เพราะว่า Isuzu ถือว่าทำกระบะแล้วผลตอบรับค่อนข้างดี

เลยมาโควกันครับ ส่วนใหญ่อะไรที่เป็นรูปลักษณ์ที่โชว์จะเป็นของ Signature

ของ Mazda แต่ถ้าพวกที่ไม่ได้โชว์ต่างๆ ฟังชั่น โครงสร้างจะใช้โควกัน

ทีนี้เลยเกิดคำถามที่ว่าทำไม BT-50 ถึงมีส่วนคล้ายกับ Ford Ranger

ซึ่งก็เป็นที่สงสัยกันว่า Mazda โคว กับFordหรือ ล่าสุดMazda

ก็ออกมาแจ้งเรียบร้อยแล้วครับว่าได้แยกทางกันแล้ว ไม่ได้เป็นพันธมิตรกัน

ต่างคนต่างเดินทางไปคนละทาง ก็เลยกลายเป็นว่ามาจับมือกับ Isuzu แทน

ทีนี้ขอเล่าย้อนกลับไปนิดนึงนะครับว่าสายสัมพันธ์ของ Ford กับ Mazda

เนี่ยมันมีมาอย่างยาวนานได้ยังไง ต้องบอกว่าเมื่อ40กว่าปีที่แล้วได้จับมือลงทุนร่วมกัน

เพื่อทำโรงงานในการผลิตรถยนต์ ภายใต้บริษัทที่ชือว่า Auto Alliance Thailand

ซึ่งก็ใช้พนักงานร่วมกันแบ่งกันคนละครึ่ง

ซึ่งตอนหลังทั้ง2ก็รู้สึกว่าทำไมต้องโคลกันในเมื่อยอดขายก็ไม่ได้เพิ่มเท่าไหร่

จึงคิดว่าแยกกันทำดีไหม จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีนี้ Ford ได้ปิดฐารการผลิตที่ออสเตรเลีย

และมาเปิดที่ประเทศไทยเน้นผลิตรถกระบะ

ส่งออกออสเตรเลียอย่างเดียว และเน้นตัวขายนอกอย่าง Ford AUR-273

ที่มาเปิดฐานการผลิตส่งออกที่บ้านเรา

เพราะว่าการที่บ้านเราส่งออกไปข้างนอกมันได้สิทธิประโยชน์ ด้านภาษีกับบางประเทศ

และมันมีข้อตกลงSPA กันอยู่ จึงทำให้ได้กำไรและผลิตแล้วคุ้ม

ซึ่งตอนหลังที่ค่าเงินบาทเราแข็งตัวขึ้นทำให้ยอดขายหายไปถึง20%

จึ่งเริ่มรู้สึกว่าถ้าไปผลิตที่ญี่ปุ่นจะคุ้มกว่าไหม ถ้าผลิตไม่เยอะ

จึงตัดสินใจโยกกลับไปผลิตที่ญี่ปุ่น

และอีกปัจจัยนึงที่แยกกันอยู่เป็นเพราะว่าปัญหาคลื่นใต้น้ำของสหภาพหลายๆอย่างอีกด้วย จึงตัดสินใจแยกกันอยู่ดีกว่า

ก็ตามไสตล์ของรถยนต์ที่มาจับมือกัน สร้างพันธมิตรร่วมกัน

ก็เหมือนเพื่อนถ้ามาช่วยเหลือกันจับมือกันไปด้วยกัน มันก็ดีนะครับ

แต่ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมันแย่ลงก็คงต้องแยกย้ายกันไป

และนี่ก็เป็นเรื่องราวทั้งหมดที่นำมาเล่าสู่กันฟังครับ

ใครคิดเห็นยังไงก็คอมเม้นพูดคุยกันได้นะครับ

ถ้าใครชอบก็อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กันด้วยนะครับ

โฆษณา