4 ก.ค. 2020 เวลา 02:00 • กีฬา
[ #ถ้ารียูเนี่ยนเกิดขึ้นจริง.. ]
ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง ย้ายจากแซงต์ เอเตียนมายังโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในซัมเมอร์ปี 2013 ด้วยสัญญายาว 5 ปี
เขาได้ร่วมงานกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่เวลานั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นกุนซือฝีมือดีสุดคนหนึ่งของวงการลูกหนังเยอรมัน
แล้ว คล็อปป์ เองนี่แหล่ะแจ้งไปยังบอร์ดบริหารเสือเหลืองเพื่อให้นำตัว โอบาเมย็อง มาอยู่กับทีมให้ได้ เพราะมีคุณสมบัติของกองหน้าที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งจะเพิ่มสมดุลในแนวรุกด้วย
จริงๆช่วงดังกล่าว โอบาเมย็อง ยังโนเนมมาก แม้ก่อนย้ายมาจะซัลโวไปถึง 21 ประตู 8 แอสซิสต์ในทุกรายการให้กับเอเตียน เฉพาะในลีก 19 ประตูเป็นรองเพียงแค่ ซลาตัน อิบราโมวิช ที่ยิงกระจุยกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง แต่ก็แทบไม่เป็นที่รู้จักนัก
เขาคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแอฟริกาของลีกเอิงมาครองได้สำเร็จ ตรงนี้เองที่เรียกความสนใจจาก คล็อปป์ ซึ่งกำลังต้องการหัวหอกอายุน้อย มีความสดใหม่มาเติมกำลังพล
เกมประเดิมคือเดเอฟเบ ซูเปอร์คัพที่ถล่มบาเยิร์น มิวนิค 4-2 โอบาเมย็อง สร้างความประทับใจให้เจ้านายมากเมื่อแอสซิสต์ 1 ประตูอย่างสวยงาม แผ้วทางให้ มาร์โก รอยส์ ซัดจมตาข่าย
หลังจากนั้นเปิดหัวเกมลีกด้วยการสังหารแฮตทริกเอาส์กบวร์กอย่างยิ่งใหญ่ ชื่อของดาวยิงทีมชาติกาบองจึงเกรียวกราวในเวลาต่อมา
แม้จะเริ่มแผ่วในภายหลัง แต่จบฤดูกาลแรกในบุนเดสลีกาส่องไป 13 ประตู ถือเป็นการนับหนึ่งที่ไม่เลวเลยทีเดียว
ซีซั่นถัดมา โอบาเมย็อง มีพัฒนาการที่ชัดเจน ยิงในลีก 16 ประตู รวมทุกรายการ 25 ประตู แม้จะไม่มีแชมป์สำคัญติดไม้ติดมือ ทว่าเสียงยกย่องเริ่มดังเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ที่เริ่มอิ่มตัวตัดสินใจแยกทางดอร์ทมุนด์ ก่อนจะเลือกคุมลิเวอร์พูลในเวลาต่อมา
แม้จะร่วมหัวจมท้ายกันแค่ 2 ปี ซึ่งถือว่าไม่ได้นานมากนัก แต่ในฐานะผู้ขัดเกลาและค้นพบเพชรเม็ดงามจากแอฟริกา คล็อปป์ ย่อมรู้จัก โอบาเมย็อง ไม่น้อยไปกว่าใคร
ทั้งสปีดต้นจัดจ้าน ความคล่องตัวปราดเปรียวและการยิงประตูที่ถูกเคี่ยวกรำอย่างหนัก ทำให้เขากลายเป็นกองหน้าดีสุดคนหนึ่งของบุนเดสลีกา
คล็อปป์ เองยังยอมรับว่าหากไม่นับสไตล์การแต่งตัวที่หลุดโลก แฟชั่นล้ำเกินคำว่าสวยงามที่มักจะเห็นบ่อยๆ ที่เหลือแทบไม่มีอะไรต้องตำหนิ โอบาเมย็อง
เขาปักหลักที่ดอร์ทมุนด์ 5 ปีซัดเบ็ดเสร็จ 141 ประตู ก้าวเข้าสู่หอเกียรติยศสโมสร ถูกบรรจุชื่อไว้ในฐานะกองหน้าระดับตำนานคนหนึ่ง
โอบาเมย็อง ตัดสินใจอยู่นานกว่าจะลงเอยกับอาร์เซน่อลในปี 2018 เพราะเขาเกือบไปโกยเงินที่ไชนีส ซูเปอร์ลีก แต่ว่าดีลย้ายสู่กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ล่มเสียก่อน
แม้จะมีเรื่องเงินมาเป็นเงื่อนไขเกี่ยวข้องทำให้ชวดย้ายไปจีน แต่คำแนะนำจาก คล็อปป์ ก็มีส่วนตัดสินใจเช่นเดียวกัน
อดีตเจ้านายบอกว่าพรีเมียร์ลีกคือความท้าทายที่นักเตะทั้งโลกแสวงหา ดังนั้นหากมีโอกาสแล้วไม่ควรปล่อยหลุดมือเด็ดขาด
สัญญา 3 ปีบวกกับค่าจ้างเกือบๆ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ไม่เลวเลยทีเดียว อย่างน้อยการเล่นให้อาร์เซน่อลยังสะท้อนถึงความกระหายและท้าทายกว่าเยอะ
ต่อให้คุณยิงกระจายในลีกสูงสุดของจีนคงไม่มีใครใส่ใจจดจำ ทุกคนจะมองแค่ว่าคุณมาเพื่อเงินเท่านั้น
เมื่อยังมีคุณค่า ก็ต้องแสดงออกมาให้เห็น
นอกจากนี้การได้เจอ คล็อปป์ ต่อให้ในบทบทศัตรูอยู่ตรงข้ามกัน มันก็เป็นสิ่งที่ โอบาเมย็อง ต้องการอยู่แล้ว
แค่ฤดูกาลแรกที่เล่นเต็มซีซั่นในพรีเมียร์ลีก โอบาเมย็อง ซัดสลุต 22 ประตูผงาดครองดาวยิงสูงสุดร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โม ซาลาห์ ซึ่งตะบันได้เท่ากันพอดีทั้ง 3 คน
ว่ากันว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ภูมิใจมาก เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกแข้ง มันหมายถึงว่าเขาคือหนึ่งในผู้ปลุกปั้นด้วย
ขณะเดียวกันถ้ารวมทุกถ้วย โอบาเมย็อง ยิงไป 31 ประตูจาก 51 นัด จากเยอรมันมาอังกฤษ ทุกอย่างพิสูจน์ด้วยผลงานเป็นรูปธรรมเด่นชัด ไม่มีอะไรต้องให้กังขา
มาถึงซีซั่นนี้โม่แข้งในลีกไป 30 นัด กดไปแล้ว 19 ประตูไล่บดขยี้แย่งดาวซัลโวกับ เจมี่ วาร์ดี้ อย่างเข้มข้น ต่อให้ผลงานของอาร์เซน่อลจะขาดมาตรฐานแต่ โอบาเมย็อง ยังสนุกกับการล่าตาข่ายไม่หยุดหย่อน
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของเขากำลังถูกโฟกัสอย่างใกล้ชิด เพราะสัญญาฉบับปัจจุบันจะหมดลงในฤดูร้อนปี 2021 หรือเหลือราวเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น
แต่ความคืบหน้าในเรื่องการขยายยังคงเงียบกริบ ท่ามกลางความสงสัยของกูนเนอร์สว่า ตกลงใครกันแน่ที่ไม่ยอมพูดความจริง
โอบาเมย็อง ยืนยันว่าเรื่องนี้เริ่มเปิดฉากคุยกันมาตั้งแต่คริสต์มาสหรือปลายปีก่อน แต่ก็ยังนิ่งเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน
พร้อมทิ้งท้ายว่าอาร์เซน่อลเองนั่นแหล่ะน่าจะเป็นฝ่ายรู้เรื่องดีว่าเพราะอะไร ถึงยังค้างคาแบบนี้
แต่ทางสโมสรกลับอ้างว่าเตรียมจะยื่นให้เซ็นเพื่ออยู่แบบยาวๆ เพียงแต่ต้องเจรจากันให้พอใจทั้งสองฝ่ายด้วย
โอบาเมย็อง เองไม่ได้อยากย้าย แม้จะเคยได้รับข้อเสนอจากเรอัล มาดริด แต่เขาก็ยังเลือกอยู่ที่เดิม
ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากพอใจเรื่องค่าจ้างและโบนัสต่างๆ ซึ่งอาร์เซน่อลควักในเรตสูงอันดับ 2 เป็นรองเพียงแค่ เมซุต โอซิล เท่านั้น
อย่างไรก็ดี โอบาเมย็อง เพิ่งฉลองครบรอบ 31 ปีเมื่อ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยวัยที่เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย อาร์เซน่อลจึงอาจลังเลว่าจะเอาอย่างไรดี
อย่าลืมว่าเมื่อสัญญาปัจจุบันหมด โอบาเมย็อง จะปาเข้าไป 32 แล้ว แล้วถ้ามีการขยายขึ้นมา ไม่มีทางเลยที่นักเตะจะยอมรับระยะสั้นเพียงแค่ปีเดียว เผลอๆให้ 2 ปียังต้องต่อรองกันหนักด้วยซ้ำ
ไม่มีอะไรมาการันตีเลยว่า โอบาเมย็อง จะระเบิดฟอร์มร้อนแรงไปได้เรื่อยๆ นี่คือสิ่งที่ปืนใหญ่เองหวาดหวั่น
ในขณะเดียวกันถ้าจะยื้อเก็บไว้ แล้วไม่ได้มีการยืดออกไป หมายความว่าซัมเมอร์ 2021 จะต้องเสียไปแบบฟรีๆ ไม่ได้เงินค่าตัวกลับคืนมาทั้งที่จ่ายเป็นสถิติสโมสร 56 ล้านปอนด์ด้วยกัน
แต่อีกประเด็นที่กลายเป็นเงื่อนปมสำคัญคือ หัวหอกชาวกาบองต้องการจะได้เล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกและอาร์เซน่อลไม่อาจมอบให้ได้
ช่วงหลังต้องยอมรับว่าสโมสรถอยห่างออกมาจากความเป็นท็อปโฟร์พรีเมียร์ลีกมากขึ้น ยากมากๆที่จะแบ่งโควต้าเล่นถ้วยใหญ่ยุโรปมาได้
แข้งระดับนี้คงไม่ตื่นเต้นหรือภาคภูมิกับการได้โม่ในยูฟ่า ยูโรปาลีกแน่นอน
เครื่องหมายคำถามจึงเกิดขึ้นกับอนาคตของ โอบาเมย็อง อย่างช่วยไม่ได้
สตีเฟ่น วอร์น็อค อดีตกองหลังลิเวอร์พูลเพิ่งออกมาแสดงความเห็นไว้น่าสนใจ
"ถ้าผมเป็น เจอร์เก้น คล็อปป์ จะไม่รีรออะไรเลย รีบไปคว้า โอบาเมย็อง มาทันที เชื่อเถอะว่าจะกลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญช่วยต่อยอดความสำเร็จ"
วอร์น็อค ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องของอายุหรือระยะเวลา โดยเชื่อว่าถ้า โอบาเมย็อง มาสั้นๆแล้วสามารถสร้างความแตกต่างในเกมรุกเพิ่มได้อีก ย่อมเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม
อีกทั้ง คล็อปป์ มีคู่มือการใช้งานนักเตะรายนี้อยู่แล้ว ต่างฝ่ายต่างรู้มือกัน ไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไรมากเลย
ลิเวอร์พูลจะกลายเป็นทีมน่าเกรงขามที่สุด เมื่อเราลองจินตนาการ โอบาเมย็อง ประสานกับ มาเน่ , ซาลาห์ และ ฟีร์มีโน่ แต่ถ้าสลับกันเล่นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
ทั้ง 4 คนสามารถลงกันพร้อมหน้าได้เลยตั้งแต่ต้นเกม สูตรหรือระบบต่างๆเพื่อรองรับ คล็อปป์ น่าจะมีอยู่ในหัว
อย่าลืมว่าลิเวอร์พูลต้องการหน้าเป้าที่อันตายมากๆในกรอบเขตโทษ แล้วถอยเอา ฟีร์มีโน่ มาเล่นตำแหน่งเบอร์ 10 ส่วนอีก 2 คนถ่างออกด้านข้างตามถนัด เหลือมิดฟิลด์ตัวกลางไว้ 2 ไม่น่าจะเสียหายอะไร
การพลาด ติโม แวร์เนอร์ ส่งผลให้เดอะ ค็อปหลายคนเสียดายมากๆ แต่ศักยภาพ โอบาเมย็อง ไม่ได้แตกต่างสักเท่าไร อาจจะอายุมากกว่า แต่ได้เรื่องประสบการณ์และคุ้นเคยกับบอลอังกฤษ ไม่ต้องปรับตัวเยอะ
วอร์น็อค ไม่ใช่คนแรกที่ออกมาพูดในทำนองนี้ แต่มีหลายเสียงที่ยุยงให้ คล็อปป์ ปิดดีล โอบาเมย็อง
กระนั้นกุนซือเยอรมันปฏิเสธตามเชิงไว้ก่อนแล้ว ต่อให้อยากได้จริงหรือมีแผนจะทาบทาม ไม่จำเป็นต้องแหวกหญ้าให้งูตื่นเลย
ทว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่ คล็อปป์ ต้องการจริงหรือเปล่าเท่านั้นเอง
ดูเหมือนว่านี่คือเงื่อนไขที่จะเป็นตัวแปรสำคัญจริงๆ
บทความย้อนหลังที่น่าสนใจ
[ #คุณไม่ใช่แชมป์ ! ] : จากเป็นหนึ่งในนักเตะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ คาดหวังไว้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซีซั่นแรกผ่านไป ปัจจุบันทุกคนที่ลิเวอร์พูลแทบจะลืมไปแล้วว่ายังมีนักเตะชื่อ เซอร์ดาน ชากิรี่ อยู่ในทีมด้วย ในขณะที่เพื่อนๆกำลังฉลองแชมป์ที่รอคอยมานานถึง 30 ปี แต่ ชากิรี่ กลับอาภัพกลายเป็นส่วนเกิน
[ #ต้องหัดเล่นให้เป็น ] : บรรยากาศในทีมบาร์เซโลน่าเริ่มมาคุระอุมากขึ้นเรื่อยๆ หลังผลงานไม่เป็นไปตามเป้า ตกจากบัลลังก์จ่าฝูงโดนเรอัล มาดริดแซงหน้านั่นทำให้ประเด็นนักเตะไม่ยอมรับ เอแดร์ ซาราเบีย ผู้ช่วยของ กีเก้ เซเตียน ถูกหยิบยกมาพูดถึงหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่เก่งจริงและโชว์ออฟเกินมีภาพยืนยันชัดเจนในเรื่องนี้และบาร์ซ่าจะผ่านดราม่านี้ไปได้อย่างไรกัน
[ #แมวเก้าชีวิตที่ชื่อมาติช ] : จากนักเตะที่ผู้จัดการทีมมองข้าม แฟนบอลกำลังจะลืมชื่อ แต่ เนมานย่า มาติช กลับมาได้เสมอ ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว หากเรื่องจริงแบบนี้เกิดขึ้นกับชีวิตเราซ้ำซาก อาจล่าถอยยอมพ่ายแพ้ให้ชะตาอันบ้าบอไปแล้ว ตรงกันข้ามกับ มาติช ที่ไม่มีคำว่า "แพ้" อยู่ในพจนานุกรม
[ #สายลมแห่งโชคชะตา ] : เดอะ ค็อปรุ่นหลังอาจไม่ได้สัมผัส เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีมผู้พาครองแชมป์ลีกครั้งสุดท้าย ก่อนที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะมาสานต่อโดยต้องรอนานถึง 30 ปีคล็อปป์ เองก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว มีอินเนอร์ในฐานะกองเชียร์เช่นเดียวกัน เหมือนกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่เข้าใจแค่ว่าเป็นกัปตันทีมคนหนึ่ง กระทั่งได้เข้ามาอยู่ที่นี่ เพียงแค่ 5 ปีเท่านั้นเขาจึงเข้าใจเนื้อแท้ในความเป็นลิเวอร์พูลอย่างดีและเข้าใจ 2 คนนี้เช่นกัน
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา