4 ก.ค. 2020 เวลา 00:27 • บันเทิง
The Final
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา
ถึงแม้เราจะยังอยากอยู่กับมัน
อยากสนุกกันต่อไปเรื่อยๆ มันก็มีวันที่ต้องจบลง
คงเหลือไว้เพียงความทรงจำ
ครั้งที่เราเคยใช้เวลาร่วมกันเท่านั้น
วันนี้ผมจะขอพูดถึงอีกหนึ่งงานเลี้ยง
ที่เตรียมเลิกราจากเราไป
นั้นก็คือ ตำนานราชาโรงหนังแห่งสยาม
โรงภาพยนตร์ “สกาลา” ที่มีกำหนดจะ
ฉายภาพยนตร์เป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนจะปิดกิจการถาวร
LA SACALA "FINAL TOUCH OF MEMORY" โปรแกรมสุดท้ายของโรงหนังสกาลา
โรงภาพยนตร์ สกาลา ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์
เปิดให้บริการฉายภาพยนตร์ครั้งแรก
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2512
โดยมีโรงหนังในเครือ Apex
อย่าง โรงหนังสยาม
โรงหนังลิโด ตั้งอยู่เคียงข้างกัน
เป็นสามทหารเสือของโรงหนังขนาดใหญ่ในย่านนี้
จนทำให้ย่านสยามสแควร์เป็นแหล่งดึงดูด
ให้วัยรุ่นต่างมาดูหนัง มาเที่ยวกัน
สยามสแควร์จึงเติบโต
กลายเป็นทำเลทองทางธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง
ของประเทศไทย
สกาลาเป็นโรงหนังที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นอย่างมาก
ด้วยเพราะรูปแบบสถาปัตยกรรม
ลวดลายที่ใช้ประดับตัวอาคาร
ลักษณะทรงโค้งมีเสารองรับตามจุดต่างๆ
เพดานระหว่างเสาจะประดับลวดลายคล้ายเฟืองขนาดใหญ่
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโรงหนังสกาลา
ที่ไม่มีอาคารไหนเหมือน และด้วยความสวยงาม
โดดเด่นนี้ จึงทำให้สกาลาได้รับรางวัลอนุรักษ์
ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยาม
โรงหนังสกาลามีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสวยงามอย่างมาก จนได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสบาม
ตอนผมยังเด็ก ผมแทบไม่เคยมาดูหนังที่สกาลา
ด้วยเพราะแถวบ้านผม มีโรงหนังอยู่แล้ว
แต่ผมจำได้ลางๆ ว่าพ่อเคยพามาดู
ดาราฮ่องกงที่บินมาร้องเพลงเปิดตัวที่สกาลาอยู่ครั้งหนึ่ง
แต่ผมจำไม่ได้ว่าเป็นใคร
ผมมาดูหนังที่สกาลาบ่อยๆ ก็ตอนช่วงเรียนมหาลัย
ด้วยเพราะมันอยู่ใกล้กับมหาลัย เดินไปมาก็สะดวก
และที่สำคัญผมชอบตรงที่โรงหนังมันมีที่นั่งเยอะ
ผมจึงมีโอกาสเลือกที่นั่งดีๆ ได้มากกว่าโรงหนังอื่น
และยิ่งถ้าเป็นหนัง Box Office หนังใหญ่ที่คนรอดูเยอะ
ที่สกาลาจึงเป็นตัวเลือกแรกที่ผมจะมาดู
พอเรียนจบทำงาน ผมมีโอกาสดูหนังที่สกาลาน้อยลง
ด้วยเพราะภาระหน้าที่การงานต่างๆ แต่หากสกาลามีฉายหนังน่าสนใจ
โดยเฉพาะพวกหนังรางวัล หนังออสการ์
หนังอาร์ต ผมก็ยังคงไปดูที่สกาลาอยู่
กาลเวลาผ่านไป พอโรงหนังต่างๆ เริ่มอยู่ในห้างมากขึ้น
คนจึงหันไปดูหนังกันในห้างแทน โรงหนังสแตนอโลนที่เคยยิ่งใหญ่
หลายๆ ที่จึงค่อยๆ ปิดตัวลง แต่สกาลาก็ผ่านร้อนผ่านหนาว
ฟันฝ่ามันมาได้
ทางโรงหนังแจกตั๋วที่ระลึกรอบสุดท้ายของโรงหนังสกาลา
แต่แล้วก็เกิดวิกฤตโควิด19 ขึ้นมา
ทำให้ทางภาครัฐต้องมีมาตรการ
Lock Down ประกาศสั่งปิดโรงหนัง
เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.-31 พ.ค.63
เป็นต้นมา เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด19
ไม่ให้กระจายในวงกว้าง โรงหนังสกาลา
จึงไม่ได้ฉายหนังมาตั้งแต่วันนั้น
เป็นครั้งแรกของโรงหนังสกาลาที่ไม่ได้ติดโปสเตอร์หนังที่ฉายวันนี้ และก็อาจเป็นครั้งสุดท้ายด้วย
แต่เมื่อสถานการณ์โควิด19 ในไทยดีขึ้น
ทางภาครัฐได้เริ่มผ่อนปรนมาตรการ
เปิดห้างร้านต่างๆ รวมไปถึงโรงภาพยนตร์ให้ดำเนินการได้
แต่โรงหนังสกาลากลับยังไม่ได้เปิดฉายหนังแต่อย่างใด
ทำให้เริ่มมีกระแสข่าวลือต่างๆ ทางโซเชียลว่าโรงหนัง
สกาลาอาจปิดกิจการถาวรไปเลย
แล้วข่าวลือที่ได้ยินก็เป็นจริง
เมื่อผมได้เห็นแบนเนอร์โฆษณาทางเฟสบุ๊ค
ของทางหอภาพยตร์ไทยที่พูดถึง
FINAL TOUCH OF MEMORY
“LA SCALA ลาสกาลา”
โปรแกรมฉายหนังครั้งสุดท้ายของโรงหนังสกาลา เหลือไว้เพียงความทรงจำ
โดยเมื่อวานที่ผ่านมา
ทางโรงภาพยนตร์สกาลาได้เปิดไฟทุกดวง เพื่อให้เราสามารถ
เก็บภาพบรรยากาศความงามเอาไว้ในความทรงจำ
และทางโรงหนังจะฉายหนังครั้งสุดท้ายในวันที่ 4 และ 5 กรกฎาคม 2563 เป็นการปิดฉากตำนาน 50 ปี
ของราชาโรงหนังสยามสแควร์ โดยสมบูรณ์
โรงหนังสกาลา ได้เปิดไฟทุกดวง เพื่อให้เราได้เก็บภาพความทรงจำเป็นตรั้ง
ภาพคนดูที่ผูกพันกับโรงภาพยนตร์
ภาพความสุข ความสนุก ความฮา ความเศร้า ที่เคย
ถูกถ่ายทอดในสกาลา จะหวนกลับมาให้เราได้เก็บรำลึก
อีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนลาจาก
บุรุษเก็บตั๋วชุดเหลืองที่เรามากี่ครั้งก็ยังเจอ น่าเสียดายที่จะไม่ได้เจอพวกเขาที่โรงหนังแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว
ผมนึกถึง ตั๋วหนังกระดาษบางๆ
ที่มีลวดลายเหมือนเงินในเกมเศรษฐีสมัยก่อน
ที่ชั่งน้ำหนักรุ่นเก่าแบบหยอดเหรียญ
กลิ่น Pop Corn ยั่วน้ำลายตรงประตูทางเข้า
โฆษณาสวนนงนุชที่ต้องมีทุกครั้งที่เข้ามาดูหนัง
และที่สำคัญบุรุษใส่สูทสีเหลืองที่คอยเก็บตั๋วตอนเข้าโรง
หลากหลายความในใจของผู้คนที่มีความทรงจำดีๆ ในโรงหนังสกาลา
ถึงแม้งานเลี้ยงกำลังจะเลิก...
แต่ภาพความทรงจำดีๆ จะยังคงอยู่ตลอดไป
โฆษณา