14 ก.ค. 2020 เวลา 10:01 • อาหาร
มื้ออาหารแบบตะวันตก (Western Meals)
ภาพจาก www.freepik.com
วัฒนธรรมและธรรมเนียมปฏิบัติในการรับประทานอาหารของแต่ละประเทศมักมีดีเทลรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในแต่ละชาติจะมีความแตกต่างกัน แต่โดยพื้นฐานที่เราทุกคนคุ้นเคยและมักรับประทานกันเป็นประจำแบ่งได้หลัก ๆ ออกเป็น 3 มื้อ ได้แก่ อาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็น ซึ่งเป็นการแบ่งมื้ออาหารตามแบบตะวันออก แตกต่างกับมื้ออาหารแบบตะวันตกที่แบ่งออกเป็น 6 มื้อด้วยกัน ได้แก่ มื้อเช้า มื้อว่างเช้า มื้อกลางวัน มื้อว่างบ่าย มื้อเย็น และมื้อค่ำ
เหตุผลที่ชาวตะวันตกต้องแบ่งมื้ออาหารออกถึง 6 มื้อ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศในโซนประเทศเหล่านั้นมีอากาศหนาวเย็น หรือถึงขั้นอุณหภูมิติดลบ ทำให้ผู้คนต้องการพลังงานที่มากกว่า โดยจำเป็นต้องรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายนั่นเอง วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวัฒนธรรมมื้ออาหารแบบที่ชาวตะวันตกกัน
มื้ออาหารแบบตะวันตก แบ่งออกเป็น 6 มื้อ
1) มื้อเช้า (Breakfast)
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
> มื้อเช้าแบบอังกฤษ = เวลาตั้งโต๊ะหรือบริการโดยส่วนใหญ่ 06.00 – 09.00 น. อาหารเช้าแบบยุโรปนิยมทานอาหารแบบเบา ๆ ก่อน เช่นผลไม้ ขนมปัง และน้ำผลไม้ต่าง ๆ แต่ยังไม่เน้นอาหารประเภทไข่หรือเนื้อสัตว์
ภาพจาก www.freepik.com
> มื้อเช้าแบบอเมริกัน = ชาวอเมริกันไม่ค่อยมีพิธีรีตองอะไรมากเท่าไหร่ เน้นอิ่มและให้พลังงานมากกว่าแบบอังกฤษ เน้นอาหารประเภทไข่ และเนื้อสัตว์
ภาพจาก www.freepik.com
2) มื้อว่างเช้า เป็นมื้ออาหารที่รับประทาน 2 มื้อ คือ มื้อเช้า และมื้อกลางวันควบกัน หรือที่เรียกกันว่า Brunch สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้า หรือตื่นเลยเวลาเสิร์ฟอาหารเช้าไปแล้วนั่นเอง ส่วนใหญ่จะรับประทานในเวลา 09.30 – 10.00 น. หรืออาจจะเลยไปกว่านั้นแต่ไม่เกิน 11.00 น.
ภาพจาก www.freepik.com
3) มื้อกลางวัน (Lunch) ถือว่าเป็นมื้อหลักในช่วงกลางวัน นิยมรับประทานเป็นอาหารจานเดียวหรือสองจาน แล้วตามด้วยของหวาน เครื่องดื่มชาหรือกาแฟ เนื่องจากระยะเวลาในการรับประทานอาหารค่อนข้างสั้น เพราะอาจจะต้องกลับไปทำงานต่อจึงเน้นรับประทานอะไรที่ง่าย และสะดวกรวดเร็ว
ภาพจาก www.freepik.com
4) มื้อว่างบ่าย มื้อว่างบ่ายได้รับวัฒนธรรมมาจากประเทศอังกฤษ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
> Afternoon Tea หรือ Coffee Break = มักเสิร์ฟในช่วงเวลาประมาณ 14.00-17.00 น. นิยมรับประทานกันในช่วงบ่ายหรือช่วงระหว่างการพักการประชุมสั้น ๆ มีทั้งของคาวและหวานแบบไม่หนักท้องแต่ช่วยคลายหิวได้ดี เช่น คุกกี้ ผลไม้ รับประทานคู่กันกับกาแฟ โกโก้ หรือชา
1
ภาพจาก www.freepik.com
> High Tea = เป็นมื้อว่างที่ลักษณะคล้ายกับ Afternoon Tea แตกต่างกันตรงที่เสิร์ฟหรือรับประทานอาหารที่หนักท้องกว่า เช่น แซนวิช สลัดเนื้อสัตว์ มักเสิร์ฟในช่วงเวลาที่อยู่ระหว่างรอทำกิจกรรมอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่
1
ภาพจาก www.freepik.com
5) มื้อเย็น (Dinner) เป็นมื้อที่หนักที่สุดของวันเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00 น. นิยมรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ พร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คล้ายกับเป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลาย แต่มีการรับประทานและการเสิร์ฟเป็นลำดับขั้นตอนหรือเรียกกันว่า Fine Dining
ภาพจาก www.freepik.com
6) มื้อค่ำ (Supper) อาหารมื้อสุดท้ายของวัน สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับประทานอาหารมื้อเย็น มักจะรับประทานอาหารเบา ๆ กันก่อนนอน ในเวลาประมาณ 23.00 – 02.00 น.
2
ภาพจาก www.freepik.com
ที่มา: https://waterlibrary.com
โฆษณา