หลังจากที่พิงค์ได้รู้แล้วว่าตอนนี้คนที่อยู่ตรงหน้านั้นก็คือคุณทวดเพียร จึงได้เปลี่ยนท่าทีกับคุณทวดเพียรใหม่ เพราะคุณทวดเพียรไม่ใช่พีทที่ตนสนิท จากสถานะเพื่อนรักก็ต้องกลายมาเป็นคนดูแล เพราะคุณทวดเพียรก็เปรียบเสมือนญาติของพีทคนนึงที่มาจากต่างแดนอย่างไงอย่างงั้น
.
ทำให้พิงค์ยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแต่งตัว หรือการที่ไม่ให้คนรอบข้างจับได้ว่าคุณทวดเพียรนั้นไม่ใช่พีท
.
เมื่อคุณทวดเพียรได้พยายามเซ็นชื่อให้เหมือนกับของพีทได้สำเร็จ ซึ่งทำให้พิงค์ดีใจมากที่จะได้พาคุณทวดเพียรไปเบิกเงินที่ธนาคารมาใช้หนี้ให้พีทซะที
.
พิงค์ได้พาคุณทวดเพียรไปเบิกเงินอีกครั้งเพื่อที่จะได้นำเงินไปใช้แทนพีท หลังจากเบิกเงินเสร็จ พิงค์ได้พาคุณทวดเพียรไปที่วังพญาไท ที่เป็นสถานที่ในรัชกาลที่ 6 ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ โดยหวังให้คุณทวดเพียรได้ประทับใจที่ยังคงได้เห็นสถานที่ในยุคสมัยของตัวเอง
.
เมื่อคุณเพียรได้เห็นก็รู้สึกประทับใจที่ได้มาที่นี่เหมือนกับบ้านเมืองของตนที่จากมา และยังรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็นสิ่งที่รัชกาลที่ 6 เป็นคนสร้าง ยิ่งปราบปลื้มเข้าไปข้างในหัวใจ ที่เห็นบ้านเมืองเจริญไปไกลในยุคพ.ศ. 2563
.
ทำให้ความรู้สึกและความสัมพันธ์ระหว่างพิงค์และคุณเพียรที่ดีต่อกันมาเรื่อยๆ ส่วนพิงค์นั้นเหมือนกับได้เจอกับผู้ชายในฝันที่รอคอยมานาน ทั้งสุภาพ อ่อนโยน และคอยปกป้องผู้หญิง ทำให้พิงค์นั้นเริ่มหลงรักคุณทวดเพียรอยู่ข้างเดียวก็ว่าได้
.
ส่วนคุณทวดเพียรก็รู้สึกกับคุณพิงค์ตั้งแต่พบกันแรกๆ อาจจะเป็นเพราะการแสดงของพิงค์ที่สนิทสนมจนเกินควรว่ายุคของตน ที่ผู้หญิงผู้ชายนั้นจะไม่แตะต้องเนื้อตัวกันง่ายๆ จะระมัดระวังตัวกันมาก แต่ก็ไม่แปลกที่ชายหญิงอยู่บ้านเดียวกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันจะรู้สึกห้ามใจที่จะคิดไม่ได้
.
แต่พิงค์ก็เคยมีแฟนเก่าสมัยเรียนด้วยกันที่ยังไปมาหาสู่กัน แต่พิงค์นั้นก็คิดแค่เพื่อนเท่านั้น แต่ด้วยแฟนเก่าของพิงค์อยากจะสานความรักกลับมาใหม่อีกครั้ง
.
คุณทวดเพียรเห็นแฟนเก่าของพิงค์พาพิงค์ไปไหนกันสองต่อสองก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ชายกับหญิงไปด้วยกันมันไม่เหมาะ
.
แฟนเก่าของพิงค์ยังคงเห็นคุณทวดเพียรยังคงอยู่บ้านกับพิงค์ ก็กลัวว่าพิงค์จะมีความรักให้กับคุณทวดเพียร จึงได้พยายามกีดขวางทุกวิถีทางให้ทั้งสองคนแยกกัน ยิ่งพยายามก็ยิ่งทำให้คุณทวดเพียรและพิงค์ยิ่งมีความผูกพันกันมากขึ้น
.
แต่การขัดขวางของแฟนเก่าของพิงค์นั้นทำให้คุณทวดเพียรพยายามหาทางกลับยุคของตน จึงทำให้นึกถึงเรื่องราวที่พีทเล่า และจำได้ว่าจะต้องมีสมุดบัญชีเงินฝากสมัยคุณทวด มีลมพายุ และพระจันทร์ทรงกลด จึงจะสามารถเปิดประตูทะลุมิติได้
.
เมื่อพิงค์รู้เรื่องเกี่ยวกับสมุดบัญชีที่จะช่วยทะลุมิติ ทำให้นึกถึงสมุดฝากเงินที่ป้าของพีทฝากไว้ก่อนที่จะไปฝึกปฏิบัติธรรมที่วัด พิงค์จึงไปหยิบสมุดเงินฝากมาให้คุณทวดเพียรดู
.
เมื่อคุณทวดเพียรเห็นว่าเป็นสมุดแบบเดียวกับของตน ยิ่งทำให้ยืนยันเหตุการณ์ที่หลุดมาอยู่ในปีพ.ศ.2563 ก็จะเหลือแค่เพียงลมพายุ และพระจันทร์ทรงกลดที่จะต้องรู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อไร