6 ส.ค. 2020 เวลา 16:37 • ข่าว
#มาครงเยือนจุดเกิดเหตุระเบิดท่าเรือเบรุต
#ชาวเลบานอนน้ำตาท่วมฟ้องอยากเปลี่ยนรัฐบาล
เครดิตภาพ Arab News
วันนี้ ประธานาธิบดี เอมานูเอล มาครง ได้เดินทางไปเยือนกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนอย่างเป็นทางการ และแสดงความตั้งใจที่จะไปดูสภาพความเสียหายจากเหตุการณ์ระเบิดที่ท่าเรือกรุงเบรุต และเยี่ยมผู้ประสบภัยชาวเลบานอนด้วยตัวเอง
นับว่าท่านมาครง เป็นผู้นำจากต่างประเทศคนแรก ที่เดินทางเยือนกรุงเบรุต เพื่อไปดูที่จุดเกิดเหตุ ที่ตอนนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น Ground Zero แห่งเลบานอน
เครดิตภาพ Euronews
แต่ก่อนหน้าที่ ปธน. มาครงจะเดินทางมาในวันนี้ ได้ส่งอุปกรณ์ช่วยเหลือ อาหาร เวชภัณฑ์ บรรทุกเต็มเครื่องบินขนส่ง 2 ลำบินตรงจากฝรั่งเศสมาช่วยเหลือเลบานอนก่อนแล้ว และท่านมาครงก็ต่อสายตรงกับประธานาธิบดี มิเชล อูน แห่งเลบานอน จะขอมาเยี่ยมด้วยตัวเอง
เครดิตภาพ Arab News
และเมื่อ ปธน. มาครง มาถึงจุดเกิดเหตุ ก็มีชาวเมืองเบรุต มาต้อนรับอย่างเนืองแน่น จนแทบเดินไม่ได้ทีเดียว แล้วตะโกนคำว่า "ปฏิวัติ...ทำลายระบอบเก่า" พร้อมทั้งตะโกนขับขับไล่ มิเชล อูน ที่เป็นผู้นำเลบานอนคนปัจจุบัน และเรียกร้องว่า พวกเขาต้องการรัฐบาลใหม่
ประธานาธิบดีมาครง ก็คงพอเข้าใจ เพราะทุกวันนี้ ในเลบานอนมีปัญหาเยอะมาก ทั้งงานประท้วงขับไล่รัฐบาล ที่มีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ปัญหาไวรัส Covid-19 ปัญหาการคอร์รัปชั่น การก่อการร้าย และอีกมากมาย
เครดิตภาพ CNN
ปธน. มาครง จึงให้สัญญากับชาวบ้านที่มาต้อนรับว่า ฝรั่งเศสจะอยู่เคียงข้างเลบานอน และความช่วยเหลือจากฝรั่งเศสจะไม่ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มคนคอร์รัปชั่น อย่างแน่นอน"
ว่าแล้วก็สวมกอดชาวบ้านที่น้ำตานองหน้า ขอร้องให้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสช่วย
"ฝรั่งเศสเคยช่วยเราแล้วจากการกดขี่ของพวกออตโตมัน ครั้งนี้ขอให้ช่วยเราจากรัฐบาลขี้ฉ้อด้วยเถิด"
นับเป็นการเยี่ยมเยือนที่จุกในอก กลืนไม่เข้า คายไม่ออกจริงๆ
เครดิตภาพ Arab News
ที่ชาวบ้านเลบานอน แห่กันมาต้อนรับมาครง และเข้ามาฟ้อง และขอความช่วยเหลือจากฝรั่งเศส ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสมัยก่อนเลบานอนเคยอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสมาก่อน ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และการล่มสลายของอาณาจักรออตโตมัน
ความสัมพันธ์ระหว่างเลบานอน กับฝรั่งเศส ก็ถือว่าใกล้ชิดมาก ฝรั่งเศสให้ความช่วยเหลือเลบานอนหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการทหาร เศรษฐกิจ เงินกู้ ฯลฯ และกรุงเบรุตก็เคยเป็นเมืองที่เจริญมาก ด้วยอิทธิพลที่ได้รับมาจากฝรั่งเศส และสวยงามจนได้รับขนานนามว่าเป็น "ปารีสแห่งตะวันออกกลาง" ทีเดียว
และเลบาบอนยังเป็นหนึ่งกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส นอกเหนือจากภาษาอารบิก หลายโรงเรียนในเลบานอนใช้ภาษาฝรั่งเศสหลักเป็นสื่อการสอนด้วยซ้ำไป
ดังนั้นชาวเลบานอนหลายคนจึงคิดว่า ฝรั่งเศสเป็นเหมือนประเทศลูกพี่ จึงเข้ามาฟ้องประธานาธิบดี
มาครงกันใหญ่
เครดิตภาพ Arab News
แต่ถึงแม้ว่าฝรั่งเศส จะไม่ได้มีอำนาจอะไรในเลบานอน อีกแล้ว แต่สถานะรัฐบาลของ ประธานาธิบดี มิเชล อูน คงไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่แล้ว กับหลายๆปัญหาที่รุมเร้ามาตั้งแต่ก่อน Covid-19
ยิ่งมาเจอเหตุการณ์ระเบิด ที่เกิดจากความละเลยของรัฐบาล อาจกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายของรัฐบาลเลบานอนก็เป็นได้
แต่ตอนนี้ เรื่องผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และประสบความเดือดร้อนไร้บ้าน ไร้ที่อยู่ยังไงก็ต้องมาก่อน ก็ต้องสามัคคีช่วยเหลือกันไปก่อน หลังจากนี้ค่อยว่าไล่เช็คบิลกันอีกทีนะคะ
แหล่งข้อมูล
โฆษณา