7 ส.ค. 2020 เวลา 02:06 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ADVANC กำไร Q2 ที่ 7 พันลบ.งบลงทุน 3.5 หมื่นลบ.ปีนี้, ดีกว่าโบรกฯ คาด
ทันหุ้น-สู้โควิด : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ไตรมาส 2/63 มีกำไร 7,001.11 ล้านบาท ลดลง 9.71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 7,754.15 ล้านบาท โดยรายได้จากการให้บริการหลักอยู่ที่ 32,285 ล้านบาท ลดลง 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์โควิด-19
ในไตรมาส 2/63มีลูกค้าทั้งสิ้น 41 ล้านเลขหมาย ลดลง 0.3% เทียบกับไตรมาสก่อน ลูกค้าระบบรายเดือนเพิ่มขึ้น 395,600 เลขหมาย โดยส่วนใหญ่มาจากการย้ายระบบเติมเงินเป็นระบบรายเดือน ในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (ARPU) ลดลง 0.4% เทียบกับไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 523 บาทเป็นผลจากการแข่งขันด้านราคาและรายได้จากการใช้บริการในต่างประเทศที่ลดลง
ส่วนลูกค้าระบบเติมเงินลดลง 531,900 เลขหมาย สาเหตุหลักจากซิมกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว และ ARPU ลดลง 3.9% จากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 156 บาท จากแพ็คเกจแบบใช้งานไม่จำกัดในระดับราคาต่ำและผลกระทบจากมาตรการของ กสทช.ที่ส่งผลต่อการเติมเงินที่ลดลง โดยสรุป ARPU เฉลี่ยลดลงเป็น 239 บาท หรือลดลง 1.1% เทียบกับ
ไตรมาสก่อน
**ทำงานบ้านหนุนเน็ตบ้านโต
สำหรับธุรกิจเน็ตบ้านในไตรมาส 2/63 แม้จะมีการแข่งขันในตลาดระดับสูง เอไอเอสไฟเบอร์ ยังสามารถเพิ่มยอดลุกค้าใหม่ได้ในระดับสูงด้วยจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 112,200 ราย ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เอไอเอส ไฟเบอร์เปิดให้บริการ เป็นผลจากกระแสการทำงานที่บ้าน ทำให้เอไอเอส ไฟเบอร์มีลูกค้ารวมทั้งสิ้น 1,202,600 ราย ณ สิ้น ไตรมาส 2/63
อย่างไรก็ตาม จากความนิยมในการเลือกใช้งานแพ็กเกจระดับราคาต่ำ 399 บาท สำหรับความเร็ว 100 เมกะบิตต่อวินาทีในปริมาณที่มาก ทำให้ ARPU ลดลง 4.8% มาอยู่ที่ 489 บาท
**เป้าหมายในปี 63
ADVANC คาดการณ์แนวโน้มผลดำเนินงานและกลยุทธ์ทางธุรกิจในปี 2563 โดยคาดว่ารายได้หลักการให้บริการหดตัวในอัตราตัวเลขเดียวระดับต่ำ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจ ในครึ่งปีหลังยังมีความไม่แน่นอน โดยมองว่าธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่รายได้จะเริ่มฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง แต่ยังคงหดตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวและการแข่งขันด้านราคาในตลาด ส่วนธุรกิจเอไอเอส ไฟเบอร์ คาดว่าจะยังคงเติบโตไปสู่เป้าหมายของปีนี้ที่จะมีผู้ใช้บริการ 1.35 ล้านราย อย่างไรก็ตาม ARPU ยังคงได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงด้วยแพ็คเก็จราคาต่ำ
**หั่นงบลงทุนปีนี้
ด้าน EBITDA ตั้งเป้าว่าภายในปีนี้ลดลงในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำเช่นกัน ส่วนงบลงทุนโครงข่าย 4G และ 5G รวมถึงอินเทอร์เน็ตบ้าน อยู่ที่ประมาณ 35,000 ล้านบาท ซึ่งได้ปรับลดลงจาก 35,000-40,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดที่การบริโภคยังคงอ่อนตัว
ทั้งนี้เพื่อรักษากระแสเงินสดจากการดำเนินงานและความสามารถในการทำกำไร บริษัทหใความสำคัญในการบริหารจัดการต้นทุนทั้งต้นทุนการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ และคาดการณ์ EBITDA ตั้งเป้าว่าภายในปีนี้ลดลงในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ในภาพรวมของผลประกอบการไตรมาส 2/63 ถือเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาวะเศรษฐกิจ ธุรกิจโทรคมนาคมได้รับผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเที่ยวและการปิดบริการชั่วคราว AIS Shop, Serenade Club และ AIS Telewiz ในพื้นที่ตามประกาศของภาครัฐ
รวมถึงการสนับสนุนมาตรการของกสทช.เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ใช้บริการ ทั้งการมอบดาต้าและค่าโทรฟรีในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม เป็นอีกสาเหตุที่ส่งผลต่อรายได้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ในส่วนธุรกิจเน็ตบ้านได้รับผลเชิงบวกจากการที่ลูกค้าต้องทำงานหรือเรียนหนังสือจากบ้าน ทำให้มีความต้องการติดเน็ตบ้านสูงขึ้นมาก ด้วยผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทมุ่งเน้นที่จะบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพื่อคงความแข็งแรงของกระแสเงินสดให้สามารถลงทุนในธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุน 5G เพื่อการเติบโตในระยะยาว
ในไตรมาส 2 เอไอเอสมีรายได้รวม 42,256 ล้านบาท ลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 4.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ เอไอเอสยังคงมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือสูงที่สุดในตลาดที่ 41 ล้านเลขหมาย
และบริษัทยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ และประกาศจ่ายเงินปันผล 3.24 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 3 กันยายน 2563 นี้
**กำไรดีกว่าโบรกฯ คาด
บล.เอเชีย เวลท์ คาดการณ์ว่า ADVANC ในไตรมาส 2/63 จะมีกำไรสุทธิ 6,460 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากรายได้รวมที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเกิดจากรายได้ในส่วนของธุรกิจมือถือ และการจำหน่ายอุปกรณ์ที่ลดลง แต่คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในครึ่งหลังปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้น และการแข่งขันแพ็คเกจที่ผ่อนคลายลง หนุนให้ ARPU ฟื้นตัว ขณะที่ธุรกิจอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ยังมีแนวโน้มการเติบโต ดังนั้นจึงแนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 236 บาทต่อหุ้น
บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดการณ์ว่ากำไรไตรมาส 2/63 ของ ADVANC อยู่ที่ 6,100 ล้านบาท โดยลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการล็อคดาวน์ ฉุดได้รายบริการลดลง แม้ผลประกอบการไตรมาส 2/63 จะไม่สดใสและบริษัทอยู่ในช่วงของการลงทุน 5G โดยเบื้องต้น คาดจะเปิดตัว 5G เชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3/63 อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อสัญญาณการแข่งจันด้านราคากลุ่มผู้ประกอบการ หลังโอเปอเรเตอร์ ทุกรายทยอยปรับค่าบริการโปร unlimited ขึ้น จากเดิม +50 บ./แพ็คแกจ ประกอบกับผลบวกจากการทยอยคลาย lockdowm ดังนั้นจึงให้น้ำหนักการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง และประมาณการทั้งปี 2563-2564 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 29,030 ล้านบาท ลดลง 7% และ 27,877 ล้านบาท ลดลง 4% ตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564 ที่ 225 บาท เพราะระยะสั้นกำไรไม่สดใส แต่เชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนไปบ้างแล้ว ผสานกับมองบวกกับการลงทุน 5G ในระยะยาว ที่จะเพิ่มโอกาสในการโตของรายได้
ราคาหุ้น ADVANC ปิดวันนี้อยู่ที่ 190 บาท บวก 5 บาท หรือ 2.70% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 1,945.22 ล้านบาท
โฆษณา