10 ส.ค. 2020 เวลา 09:28 • บันเทิง
เมื่อนักร้องบวชเป็นพระ การเทศน์ธรรมะในแบบของนักร้อง จะออกมาในแบบไหน?
และนี่คือ เรื่องเล่าของ “เก่ง อธิป ธรรมะ และไร่เชิญตะวัน”
หลายคนคงรู้จัก เก่ง อธิป ในนามนักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์เพลง และนักพากย์
แต่จะมีใครสักกี่คน ที่รู้ว่า เก่ง ได้แต่งและขับร้องเพลงธรรมะไว้ส่วนหนึ่ง
เก่ง เคยเล่าถึงผลงานเพลงธรรมะของเขาไว้ว่า ผลงานส่วนใหญ่ถูกเรียบเรียงขึ้นเพื่อถวายเป็นคีตธรรมะแด่พระเมธีวชิโรดม (วุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว. วชิรเมธี) ผู้เป็นอาจารย์ทางธรรมะของเขา
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2559 เก่ง อุปสมบทโดยได้ฉายาทางธรรมว่า อฺธิป สุเขสิโน แปลว่า
ผู้แสวงหาสุข พิธีอุปสมบทถูกจัดขึ้น ณ วัดลาดปลาเค้า กรุงเทพมหานคร แล้วต่อมาเขาได้เดินทางไปจำพรรษาอยู่ที่ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน จังหวัดเชียงราย โดยได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี
ท่านพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ได้เมตตาสั่งสอนและชี้แนะเก่งในเรื่องต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม พระเก่ง (ในขณะนั้น) ได้มีโอกาสร่วมเป็นหนึ่งในพระนักเทศน์ ชุดแรกๆ ที่ท่านพระอาจารย์ ว. ได้กรุณาสอนแนวทางการเป็นพระนักเทศน์ให้ และพระอาจารย์ก็แนะนำให้พระเก่งใช้ “คีตเทศนา” คือ การเทศน์ที่แฝงธรรมะกับเรื่องราวจรรโลงใจไว้ในการเทศน์ โดยพูดเป็นทำนองเชิงขับร้อง
ท่านพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี และเก่ง อธิป ในช่วงที่เขาบวชเป็นพระภิกษุ จำพรรษาอยู่ที่ไร่เชิญตะวัน
โดยปกติ เก่งจะร้องเพลงคู่กับกีตาร์คู่ใจของเขาเสมอ แต่ในขณะที่บวชเป็นพระอยู่นั้น การเล่นดนตรี ถือเป็น “ข้อห้าม” ตามศีลข้อ 7 ในศีล 227 ข้อที่พระภิกษุต้องยึดถือปฏิบัติที่ว่า
‘นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา เวระมณีสิกขาปะทังสะมาทิยามิ.’ “ห้ามมิให้ดูและฟัง ฟ้อนระบำ ขับร้องและเครื่องดนตรีต่างๆ ซึ่งเป็นข้าศึกแก่กุศล ซึ่งหมายรวมไปถึงทั้งทางกาย
ทางวาจา และทางใจ มิให้ตลกคะนองต่างๆ” เก่งจึงใช้เสียงเพลงในการสื่อสารเช่นที่เขาถนัดและคุ้นเคยไม่ได้
ในตอนนั้น เก่งได้นำเพลงธรรมะที่เขาเคยแต่งถวายพระอาจารย์ไว้ “มาพูดเป็นทำนอง” และนี่ “ถือเป็นการ modify วิธีขึ้นมาใหม่ โดยไม่ได้จับกีตาร์” เก่งบอก จากตอนนั้น เก่งได้ค้นพบว่า “แท้จริงแล้ว ทำนองมันไม่ได้อยู่ที่เสียงกีตาร์หรืออะไรเลยครับ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมาทั้งหมด ทำนองมันอยู่ที่ใจเรา และถ้าเราเปรียบเทียบความทุกข์กับกีตาร์ แล้ววันนึงที่เราไม่มีกีตาร์ แต่เราก็ยังแต่งเพลงได้เหมือนเดิม เรายังร้องเพลงได้ คือเป็นการพูดแบบเป็นทำนอง ก็เปรียบเสมือนว่า ถ้าเราวางความทุกข์ลง เราก็อาจจะทำสิ่งใดๆ ก็ตาม ก็ยังทำได้เหมือนเดิม และอาจจะง่ายขึ้นด้วยซ้ำ ในบางครั้งบางที” เก่งกล่าว
เมื่อถามว่า ทำไมถึงคิดอยากจะแต่งเพลงธรรมะ เก่งตอบมาว่า “สิ่งที่ผมถนัดที่สุดในชีวิตคือเสียงเพลง ผมคิดและตั้งใจจะแปรเสียงเพลง อย่างน้อยท่ีสุด ให้เป็นความสุขได้ยังไงกับคนฟัง นี่คือโจทย์ของผม เพราะฉะนั้น เมื่อสวรรค์ประทานพรให้เราในจุดน้ี แล้วเราก็เรียนรู้เพิ่มมากขึ้น สามารถที่จะเรียนรู้ไปได้เรื่อยๆ ในทุกๆ วัน เพราะเราไม่ได้เก่งตั้งแต่เกิด” (แต่คุณชื่อเก่ง คือชื่อนี้ตั้งแต่เกิดนะ - ผู้สัมภาษณ์กระเซ้าเขากลับไป) “ครับๆ นั่นอาจจะเป็นไฟลท์กึ่งบังคับครับ” 555 - เก่งตอบ แล้วเสียงหัวเราะในวงสัมภาษณ์ก็ดังขึ้น (ฮาาาาา)
“ต่อนะครับ - ผมก็เลยคิดที่จะเขียนเพลงธรรมะขึ้น เพราะผมตั้งใจและความเชื่อมั่นว่า เพลง มีพลังที่จะสามารถขับเคลื่อนพลังดีๆในจิตใจของเราได้ แล้วผมก็นำสิ่งที่เราสร้างสรรค์ขึ้น มาถวายเป็นธรรมทานให้กับทุกๆ คนที่ได้ฟัง อย่างน้อยที่สุด เมื่อคนฟังเกิดรอยยิ้ม แล้วแต่ละคนส่งรอยยิ้มให้แก่กัน หรือแม้แต่ส่งรอยยิ้มกลับมาให้ผม ผมว่ามันมากกว่าเงินทองนะ แค่เราส่งยิ้ม ส่งคำว่าสาธุให้กัน ตรงนี้แหละ พลังมันมายมหาศาลจริงๆ”
“เราชอบมองอะไรออกมาในแนวบวก เลยหามุมมองดีๆ และสร้างสรรค์ในสิ่งนั้นแล้วถ่ายทอดออกมาให้คนฟังได้มีรอยยิ้มและพลังใจ”
ในตอนท้ายของการสนทนา เก่งเล่าถึงอีกเรื่องราวจากไร่เชิญตะวัน ที่เขาประทับใจมากที่สุดวันหนึ่งในชีวิตคือ ช่วงที่เขาสึกออกมาเป็นฆราวาสแล้ว เขาได้กลับไปเยี่ยมและสนทนาธรรมกับท่านพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี และร่วมงานและกิจกรรมต่างๆ ของไร่เชิญตะวันอยู่เนืองๆ เป็นนิตย์ วันหนึ่งมีเรื่องราวดีๆ และถือเป็นมงคลแก่ชีวิตเกิดขึ้นกับเขา
ในวันนั้น เมื่อปีกว่ามาแล้ว ที่ไร่เชิญตะวัน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั้ง 3 รูปของจังหวัดเชียงราย คือ พระอธิการพบโชค ติสฺสวํโส วัดห้วยปลากั้ง, พระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ และ พระเมธีวชิโรดม (ว. วชิรเมธี) ได้บังเอิญมาพบกันที่ไร่เชิญตะวันแบบพร้อมหน้า และเป็นวันเดียวกันกับที่เก่งได้ไปที่ไร่เชิญตะวันด้วย
ท่านพระอาจารย์ ว. ได้กล่าวว่า “ขนาดอยู่เชียงรายด้วยกันยังไม่เคยเจอพร้อมกันแบบนี้เลย” แล้วท่านพระอาจารย์ ว. ก็ชวนให้พระอีก 2 รูป รวมทั้งตัวท่านเอง ร่วมกันลูบหัวให้พร “กดปุ่มที่หัวเปิดพลังรับงานและสิ่งดีๆ เป็นมงคลให้กับเก่งหน่อย” พระอาจารย์ ว. กล่าวแบบน่ารักๆ ในตอนที่จะถ่ายรูป และในตอนนั้น เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของทุกคนในบริเวณนั้น รวมทั้งท่านพระเกจิอาจารย์ทั้งสามก็ดังขึ้นพร้อมกัน
“นี่ถือเป็นโชคดีและเป็นบุญของผมมากๆ ที่ได้รับความเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้จากพระอาจารย์ทั้ง 3 รูป” เก่งเล่าด้วยสีหน้าแห่งความอิ่มเอมใจ พร้อมรอยยิ้ม
พระเกจิอาจารย์แห่งจังหวัดเชียงรายร่วมกันลูบหัวให้พร เก่ง อธิป ที่ไร่เชิญตะวัน
ในตอนต่อไป เราจะมาเล่าถึง “เพลงธรรมะ” ของ เก่ง อธิป กัน… โปรดคอยติดตาม
เจ้าของเรื่องเล่า เรื่องราวดีๆ สร้างพลัง และแรงบันดาลใจ :: เก่ง - อธิป เจริญชัยสกุลสุข
Facebook Fanpage: Atip Official https://www.facebook.com/atip.keng
Facebook: Atip Keng Charoenchaisakulsuk https://www.facebook.com/keng.atip
โฆษณา