7 ส.ค. 2020 เวลา 07:38 • ประวัติศาสตร์
• ภาพแผนที่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออก ในช่วงสงครามเย็น ซึ่งถูกแบ่งแยกตามทฤษฎีม่านไผ่ (Bamboo Curtain) ประกอบไปด้วยประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์ (สีแดง) และประเทศที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์ (สีน้ำเงิน)
ภาพของม่านไผ่ในช่วงทศวรรษที่ 1960
นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1950 หลาย ๆ ประเทศในทวีปเอเชีย ได้แปรเปลี่ยนมาปกครองในระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ไม่ว่าจะเป็น เวียดนามเหนือภายใต้โฮจิมินห,์ เกาหลีเหนือภายใต้คิมอิลซุง รวมไปถึงจีนภายใต้การนำของเหมาเจ๋อตง
การขึ้นสู่อำนาจของเหมาเจ๋อตง ทำให้ความขัดแย้งสงครามเย็นในทวีปเอเชีย ทวีความรุนแรงมากขึ้น
และเมื่อความขัดแย้งในสงครามเย็นทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ในฐานะผู้นำของฝ่ายประชาธิปไตย เกิดความหวาดระแวงว่า หากปล่อยให้จีนและเวียดนามเหนือ มีอิทธิพลและทวีความยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะส่งผลให้ภูมิภาคเอเชียทั้งหมด กลายสภาพเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ได้
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ในปี 1954 สหรัฐอเมริกาก็ได้ประกาศจัดตั้ง "องค์การสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" (Southeast Asia Treaty Organization) หรือที่รู้จักกันในนาม ซีโต้ (SEATO)
ธงของซีโต้ องค์การต่อต้านคอมมิวนิสต์ในเอเชีย ที่ก่อตั้งขึ้นโดยสหรัฐอเมริกา
องค์การซีโต้ คือองค์การที่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มประเทศในทวีปเอเชีย ที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา และมีแนวคิดต่อต้านคอมมิวนิสต์ โดยศูนย์บัญชาการหลักของซีโต้ ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทยนั้นเอง
สมาชิกของซีโต้ ประกอบไปด้วย 8 ประเทศ อันได้แก่
- สหรัฐอเมริกา 🇺🇸
- สหราชอาณาจักร 🇬🇧
- ฝรั่งเศส 🇫🇷
- ไทย 🇹🇭
- ฟิลิปปินส์ 🇵🇭
- ปากีสถาน 🇵🇰
- ออสเตรเลีย 🇦🇺
- นิวซีแลนด์ 🇳🇿
นอกจากนี้ ซีโต้ยังให้การสนับสนุนกับประเทศอื่น ๆ ในทวีปเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, พม่า และให้คุ้มครองรัฐบาลของเวียดนามใต้และลาว เพื่อต่อต้านกลุ่มคอมมิวนิสต์ ภายในประเทศอีกด้วย
การประชุมของซีโต้
การถือกำเนิดขององค์การซีโต้ ส่งผลให้ทวีปเอเชียถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 กลุ่มประเทศอย่างชัดเจน แบ่งเป็นประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งประกอบไปด้วย จีน, เกาหลีเหนือ, เวียดนามเหนือ และสหภาพโซเวียต
กับประเทศที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์ ซึ่งประกอบไปด้วยชาติสมาชิกขององค์การซีโต้ และชาติพันธมิตร
โดยเส้นสมมติที่ใช้ในการแบ่งแยกนี้ ถูกเรียกว่า "ม่านไผ่" (Bamboo Curtain) โดยชื่อนี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อล้อเลียนกับ "ม่านเหล็ก" (Iron Curtain) ซึ่งเป็นเส้นที่แบ่งประเทศคอมมิวนิสต์ และไม่เป็นคอมมิวนิสต์ ในทวีปยุโรป
เส้นม่านเหล็ก ที่ใช้แบ่งทวีปยุโรประหว่างประเทศคอมมิวนิสต์ กับประเทศที่ไม่เป็นคอมมิวนิสต์ ในช่วงสงคราม
การแบ่งแยกทวีปเอเชียด้วยเส้นม่านไผ่นี้ ดำรงอยู่ยาวนานกว่า 40 ปี จนกระทั่งสิ้นสุดลงในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สหภาพโซเวียต อันเป็นผู้นำของชาติคอมมิวนิสต์ได้ล่มสลายลง
ประกอบกับผู้นำของจีนในขณะนั้น อย่าง เติ้งเสี่ยวผิง มีท่าทีประนีประนอม และมีนโยบายในการเปิดประเทศ ส่งผลให้ความขัดแย้งในสงครามเย็นในเอเชีย และการแบ่งแยกประเทศด้วยเส้นม่านไผ่ ได้สิ้นสุดลงในท้ายที่สุด
การขึ้นสู่อำนาจของเติ้งเสี่ยวผิงในช่วงทศวรรษที่ 1980 ทำให้ความขัดแย้งและม่านไผ่ในเอเชีย สิ้นสุดลง
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา