“ทุกวันนี้ดวงดาวยังคงส่องแสงระยิบระยับอยู่”
“ทุกวันนี้สายลมก็ยังคงพัดอยู่”
ได้ดูอีกกี่ทีก็ยังเป็นเช่นนั้น
ผมไม่ใช่กูรู หรือผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ แต่ผมจำความรู้สึกแรกที่เห็นภาพของ “Vincent van Gogh” ได้เป็นอย่างดี
ความสีสดของภาพ ทำให้ผมรู้สึกว่า ดูแล้วเหมือนเด็กเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงาน พ่วงด้วยความประหลาดใจที่ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน และกลายเป็นความประทับใจ
ผมอาจจะมีอคติ เพราะเคยได้ยินชื่อเสียงของ “van Gogh” มาก่อน แล้วจึงได้เห็นภาพของเขา ผมหาดูภาพของ “van Gogh” สนองความอยากรู้ว่า “ศิลปินระดับตำนานของโลกจะมีผลงานแบบไหน?”
ที่ได้เห็นก็ภาพนี้แหละครับ “The Starry Night” หรือ “ราตรีประดับดาว”
"The Starry Night" หรือ "ราตรีประดับดาว"
จากความประทับใจเปลี่ยนเป็นความสงสัยว่า ทำไม “van Gogh” ถึงมีชื่อเสียงค้ำฟ้า? แล้วทำไมภาพของเขามีราคาสูงมาก?
ผมยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก เมื่อได้รู้ว่าชื่อเสียงที่ค้ำฟ้า เกิดภายหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว ถ้าย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ “van Gogh” ยังมีชีวิตอยู่ เขาขายภาพได้แค่ภาพเดียว
ยิ่งเสริมความอยากรู้อยากเห็นเข้าไปอีก
“The Starry Night” ถูกสร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 1889 ขณะที่เขาอยู่ในโรงพบาบาล อยู่ในสถานะ “ผู้ป่วยทางจิต” เมื่อได้รับการรักษา อาการก็เหมือนจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่แล้วเขาก็เริ่มมีอาการหลอน มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย กลับมาทุกข์ทรมานทางจิตใจอีกครั้ง
ทั้งหมดทั้งมวลถูกสื่ออยู่ในภาพ “The Starry Night” นี่แหละครับ!!
คนธรรมดาอย่างผมจะรู้สึกว่า “อ๋อ ภาพราตรีประดับดาวในตำนานนี่เอง” ก็แค่นั้น โดยหารู้ไม่ว่า “van Gogh” พยายามสื่อบางสิ่งให้ผมรับรู้ผ่านภาพที่เขาเขียน
ณ ห้องผู้ป่วย ในมุมมองผ่านหน้าต่าง เมื่อมองไปยังบริเวณโดยรอบ ไม่มีฉาก หรือทิวทัศน์แบบในภาพ “The Starry Night” ให้เห็นเลย ภาพนี้ถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการ ความทรงจำ ความรู้สึก และอารมณ์ของ “van Gogh” ล้วน ๆ
รอยแปรงที่ใช้วาด การใช้สี เมฆที่หมุนเป็นเกรียว ภูเขา ต้นไม้ แสงดาว และแสงจันทร์ เป็นสื่อกลางตัวตนของเขาเอง
เขาใส่ตัวเองลงไปในภาพโดยที่ไม่มีตัวเองอยู่ในภาพ!!
คำอธิบาย “The Starry Night” อย่างละเอียดอยู่ในลิงค์อ้างอิงนะครับ ลองดูเพิ่มเติมได้ เพราะผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน
แต่เพียงเท่านี้ผมก็หายสงสัยแล้วว่า ทำไม “van Gogh” ถึงได้ขึ้นแท่นเป็นศิลปินระดับตำนาน แล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมภาพของเขาจึงมีราคาสูงมาก
ในห้วงเวลาที่ “van Gogh” มีชีวิตอยู่ ผลงานของเขาไม่เป็นที่น่าสนใจ ภาพก็ขายได้เพียงภาพเดียว ไม่มีใครฟังว่าเขาจะสื่ออะไร ไม่มีใครเข้าใจว่าเขาแฝงอะไรไว้ในภาพ แฝงอะไรไว้ในร่องรอยระหว่างสร้างสรรค์ผลงาน
จนมาถึงห้วงเวลาปัจจุบัน คำอธิบายความรู้สึกชาวโลกได้ดีที่สุดคงไม่หนีไปจากท่อนนึงของบทเพลงนี้
Now I understand
What you tried to say to me
And how you suffered for your sanity
And how you tried to set them free
They would not listen, they did not know how
Perhaps they'll listen now
(เพลง “Vincent” โดย “Don McLean”)
แด่ “Vincent van Gogh”
ด้วยจิตคารวะ
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
