14 ส.ค. 2020 เวลา 01:08 • ความคิดเห็น
มองการเมือง.. มองการณ์ไกล.. มองแบบเกมส์
การเมืองไทยหรือการปกครองชาติ.. มีกี่กลุ่ม
พระมหากษัตริย์ไทย.. มีอำนาจสูงสุด.. แต่ไม่มีบทบาททางการเมือง.. การปกครอง
เป็นเพียงสมมุติเทพที่เป็นมิ่งขวัญ.. เป็นที่รัก.. ของปวงชนชาวไทยและทรงดำรงค์ตำแหน่ง.. จอมทัพไทย
ทหาร.. ผู้กุมอำนาจด้านกำลังพล.. และอาวุธ
พรรคการเมืองมี 2 ส่วนคือ
ในระบบ
และ.. นอกระบบ
ในระบบ.. จะเป็นพรรคการเมืองต่างๆที่ลงแข่งขันในสนามเลือกตั้ง.. ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งใหญ่ๆคือ
รัฐบาล.. ผู้อยู่ในอำนาจ
ฝ่ายค้าน.. ผู้ช่วงชิงอำนาจ
นอกระบบ.. ตอนนี้คงมีแต่พรรคการเมืองใต้ดินอย่างเช่น.. พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
ประชาชน.. คือ..อำนาจที่ยิ่งใหญ่.. แต่รวมตัวกันได้ยาก.. ปัจจุบัน.. เริ่มๆเห็นหนทางที่จะรวมตัวกันได้บ้าง.. เพียงแต่ต้องมีปัจจัยที่คนส่วนใหญ่จริงๆ.. เห็นพ้องต้องกันด้วย.. และมักเป็นเรื่องที่ถูกต้องด้วย..อย่างกรณี..ของบอส..กระทิงแดง..ที่ทำเอา..ที่นั่งอัยการ..และตำรวจ..สะเทือนเลื่อนลั่น
1
พลังประชาชน.. ถ้าใช้ในแนวทางการตรวจสอบอย่างมีระบบ.. รับรองโกงกินกันยาก.. ลากไส้พวกขี้ฉ้อได้อีกมากมาย.. ชัวร์ครับ
Lungpungkathi
เรื่องราวจากนี้ไป.. เป็นเรื่องราว.. และวิธีคิดของลุงที่มีลมหายใจมาถึง 60 กว่าปีที่ผ่านมาล้วนคือเรื่องจริง.. เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์.. แต่ในสายตาของลุงนะ
ถ้าจะกล่าวว่า.. การชุมนุมในประเทศไทยหรือต่างประเทศใดๆ.. อาจจะบอกว่า.. ไม่เคยเห็นกลุ่มผู้ชุมนุมชนะด้วยตนเองเลย.. ก็คงไม่ผิดจากนี้นะ
Lungpungkathi
แต่ที่ยุติความขัดแย้งลงได้.. ส่วนใหญ่ที่เห็นก็คืิอส่วนอำนาจที่ถูกประท้วง.. ปราบปราม.. หรือไม่ก็ผู้มีบุญบารมี.. อำนาจ.. ที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งมายุ่งเกี่ยวแบบหลีกเลี่ยงมิได้
แบบนี้ต้องไล่เรียงกันในช่วงชีวิตลุงลงมาแบบคร่าวๆ
14 ตุลา 2516..การชุมนุมครั้งนี้อยู่ในช่วงที่ลุงยังเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย.. มีผู้เข้าร่วมชุมนุมโดยมีแกนนําเป็นนิสิต.. นักศึกษา.. ขับไล่เผด็จการที่ครอบครองอำนาจมาอย่างยาวนานคือจอมพลฯถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรีทั้งมาจากการปฏิวัติรัฐประหารและจากการเลือกตั้ง.. ถ้าจำไม่ผิดสมัยนั้นคือพรรค สหประชาธิปไตย.. โดยมีพรรคการเมืองคู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด.. แต่ก็ชนะเลือกตั้งมาโดยตลอดเช่นกัน.. สมัยนั้น.. ก็ไม่ได้แตกต่างจากปัจจุบันนี้นัก.. กับคำว่า.. โกงการเลือกตั้ง
2
แรงกดดันสะสมมีมาอย่างยาวนานในกลุ่มประชาชน..จนแทบจะมองเห็นเป็นเรื่องเดียวกันส่วนใหญ่
เมื่อนักศึกษาเป็นแกนนำในการขับไล่รัฐบาลเผด็จการ.. แล้วผู้คนจำนวนมากเห็นด้วย.. จึงลุกขึ้นต่อต้านร่วมกัน
โดยมี.. วลีเด็ดๆในสมัยนั้น.. ภายใต้แนวคิดของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยแอบแฝงเข้ามากับกลุ่มแกนนำนักศึกษาเช่น.. กระฎุมพีขี่ชนชั้น.. เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ.. ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
กับเริ่มมีและเป็นที่นิยมก็วงดนตรีเพื่อชีวิต.. อย่างวงกงล้อ.. คาราวาน.. เพลงที่นิยมก็อย่าง.. พิราบขาว.. คนกับควาย.. ร้อยดาวร้อยเคียวอะไรเนี่ย.. จำไม่ค่อยได้
เมื่อการชุมนุมเริ่มสุกงอม.. รัฐบาลทหารของจอมพลถนอมและจอมพลประภาส.. ก็เริ่มที่จะปราบปราม.. จนลามไปถึงใช้กองกำลังทหารเข้าเข่นฆ่าผู้ชุมนุม.. บาดเจ็บล้มหายตายจากไม่ใช่น้อย
มีนักศึกษา.. ประชาชน.. จำนวนมาก.. จำนวนหนึ่งหนีการเข่นฆ่าไปที่วังสวนจิตรดา.. แล้วขอให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในขณะนั้นซึ่งท่านต้องไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย.. แต่ด้วยพระมหาเมตตาต่อนักศึกษา.. ประชาชน.. จึงได้เปิดประตูพระราชวังสวนจิตรดาให้นักศึกษาและประชาชนที่หนีตายมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร.. แล้วทรงเรียกให้.. จอมพลถนอมเข้าเฝ้าเพื่อให้ลาออกจากรัฐบาล
จำได้ว่า.. หลังเหตุการณ์14 ตุลา.ยุติ.. วันรุ่งขึ้น.. นักเรียน.. นักศึกษา.. ในยุคนั้น.. โคตรยืดเลย.. ทหารต้องใส่นอกเครื่องแบบเดินถนน.. และฮึกเหิมนึกว่าฝ่ายตนหรือประชาชนชนะ
แต่แท้ที่จริง.. เมื่อประชาชนทะเลาะกับทหาร.. ประชาชน.. โดนเข่นฆ่า.. แล้วต้องแพ้แน่นอน
ขอให้ดูอย่างการประท้วงใหญ่ในอดีตของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ที่จตุรัส เทียนอันเหมิน 2532 .. ซึ่งนักศึกษาประชาชนในยุคนั้นพ่ายแพ้และล้มตายเป็นจำนวนมาก
แต่ประเทศไทยโชคดี.. ที่มีบารมีอำนาจอีกฝ่ายหนึ่งคือพระมหากษัตริย์.. ซึ่งท่านวางองค์ไม่ยุ่งเกี่ยวตั้งแต่แรก.. แต่ด้วยบารมีพระเมตตาของพระองค์ท่าน.. จึงยุติสงครามกลางเมืองด้วยเพียงพระราชดำริเท่านั้น.. ทั่วโลก.. งง..เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย.. เพราะฉนั้นเหตุการณ์เดียวกันจึงเกิดขึ้นอีกในเดือนพฤษภาทมิฬ ปี 2535..โดยตรัสให้เรียกคู่กรณีที่เป็นแกนนำแต่ละฝ่ายอย่างเช่น พลตรี จำลอง ศรีเมืองแกนนำผู้ประท้วง กับ พลเอกสุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเข้าเฝ้า.. แล้วให้ยุติโดยให้พลเอก สุจินดา คราประยูร ลาออก
แล้วทั้งสองเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน.. ก็ยุติลงแบบทั่วโลก.. งง.. งง.. ทำได้ยังงัยหว่า
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงแต่งตั้งนายกฯพระราชทานให้คือ
นายสัญญา ธรรมศักดิ์.. ในช่วง 14 ตุลา 2516.. เพื่อจัดการเลือกตั้งให้มีรัฐบาลจากการเลือกตั้งโดยได้ มรว.เสนีย์ ปราโมทย์ จากพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดมา
นายอานันท์ ปัญยารชุน.. ในช่วง พฤษภาทมิฬ 2535 โดยการเสนอชื่อจากประธานรัฐสภาสมัยนั้นคือดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์
6 ตุลา 2519..เป็นยุคหลังการเลือกตั้งแล้วได้รัฐบาลผสมโดยมี มรว.เสนีย์ ปราโมทย์เป็นนายกรัฐมนตรี.. ขบวนการนักศึกษาเริ่มมีการเผยแพร่แนวคิดปฏิวัติแบบพรรคคอมมิวนิสต์.. และมีแนวคิดล้มล้างสถาบันกษัตริย์อย่างชัดเจนมากขึ้น
ส่วนทางฝั่งขวาเริ่มมีขบวนการจัดตั้งกลุ่มคนขึ้นมาชัดเจนด้วยเพื่อแสดงเจตนาปกป้องสถาบันกษัตริย์.. เช่นกลุ่มกระทิงแดง.. ซึ่งส่วนใหญ่คือนักเรียนอาชีวะและกลุ่ม ลูกเสือชาวบ้าน
ครั้นเมื่อจอมพลถนอมที่ลี้ภัยการเมืองไปอยู่ต่างประเทศ.. จู่ๆก็เดินทางเข้าประเทศในรูปแบบสามเณร.. อันเริ่มเป็นประเด็นชุมนุมประท้วง.. เรียกร้องขับไล่ให้ออกนอกประเทศ.. แต่สุดท้ายลามปามไปจนถึงขั้นจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์.. เพราะอุดมคติแบบพรรคคอมมิวนิสต์ยังคงฝังรากลึกในหมู่ปัญญา.. จวบจนถึงปัจจุบันในวิธีคิดแห่งความเสมอภาคที่สวยหรูจอมปลอมงัยล่ะ
ดูๆ.. เหมือนช่วงนี้ยังงัยไม่รู้นะ
สุดท้ายเกิดเหตจลาจล.. ม็อบชนม็อบ.. เกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก.. นักศึกษาที่อยู่ในที่ชุมนุมถูกจับ.. ถูกฆ่าตาย
โชคดีนะตอนนั้น.. ลุงว่าจะไป.. แต่เพื่อนชวนดื่มเหล้าที่บ้านเพื่อน.. และได้เห็นข่าวในทีวีช่อง4หรือช่อง9 อสมท.ในปัจจุบัน.. ตอนนั้นลุงเพิ่งเข้าไปเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยใหม่ๆเอง
จบมาด้วยม็อบบอบช้ำ.. พ่ายแพ้.. จนในที่สุด.. ทหารต้องเข้ามาระงับความวุ่นวาย
ในหลวงร.9 ท่านได้ทรงพระราชทานให้ นายธานินทร์ กรัยวิเชียรเป็นนายกรัฐมนตรี.. แล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่.. รายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิวัติ.. รัฐประหาร.. และการก่อกบฏอีก.. ในช่วงเวลานั้นไปหาอ่านกันเอาเองนะ.. มันเยอะ.. ลุงจำไม่ได้หรอก
พฤษภาทมิฬ 2535.. เล่าควบคร่าวๆปนเปกะเหตุการณ์14 ตุลา 2516 ไปแล้ว.. ไม่ขอย้อนนะ
ต่อมาก็การประท้วงชุมนุม.. ของกลุ่มเสื้อแดงบ้าง.. เสื้อเหลืองบ้าง.. เสื้อหลากสีบ้าง.. จนสุดท้ายการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.
ทั้งหมดก็จะจบ.และยุติ.. ไม่ใช่เกิดจากผู้ชุมนุมชนะ.. เป็นเพียงเรื่องของสถานการณ์ที่มีคนร้องเรียนในแง่ข้อกฏหมาย.. จนฝ่ายบริหาร.. นายกรัฐมนตรีต้องลาออกบ้าง.. ยุบสภาบ้าง.. รัฐบาลชนะบ้าง.. รัฐประหารโดยกลุ่มนายทหารบ้างเป็นต้น
แต่ที่แน่ๆ.. คือมีการล้มตายทั้งฝั่งผู้ชุมนุมและทหาร.. ซึ่งล้วนแต่เป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น
รอบนี้คงมีแววใกล้เคียงกับเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 มากที่สุด.. และคงยุติด้วยความสูญเสียเช่นกันอีกแหละ.. แม้น..จะไม่อยากให้เกิดแบบนั้น.. แต่ถ้ามองย้อนประวัติศาสตร์การชุมนุมทุกครั้ง.. ก็ลงเอยแบบเดียวกันทุกครา
เริ่มต้นด้วยการขับไล่รัฐบาล.. แก้ไขรัฐธรรมนูญ.. แต่สุดท้ายก็มาโฟกัสที่การลดทอนพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์.. แล้วต่อไปอะไรอีกล่ะ.. ถ้าไม่ใช่การยกเลิกการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข.. คนไทยส่วนใหญ่รู้ทันนะ.. จึงไม่ไกลเกินกว่าจะเป็นเหตุแห่งการวิปโยค
บอกให้เป็นแง่คิด.. และยิ่งจะคิดได้ง่ายขึ้น.. ถ้าคิดแบบเกมส์.. ซึ่งต้องมีเหตุผลกำกับความคิด.. จะได้ไม่ต้องเอาชีวิตที่มีค่าของเราไป.. ปู้ยี่ปู้ยำ.. แบบไร้ราคา.. ไร้อนาคต
ปล.เคยสังเกตุมั้ยว่า.. ระดับแกนนำ.. หรือคนหนุนหลัง.. ไม่เคยถูกฆ่าในที่ชุมนุมเลย..ระวังไว้ก็ดีนะ..ท่านเบี้ยทั้งหลาย
ไดโนเสาร์อาวุโส.. มนุษย์ลุง.. ขอบ่นแค่นี้นะ🕺Bye
โฆษณา