เขาไม่ได้ตอบคำถามเธอแต่กำลังแน่วแน่กับของในมือที่จะยื่นให้เธอมากกว่า “แฮปปี้วาเลนไทน์” เขาบอกเร็วปลื๋อ ท่าทางเคอะเขิน กุหราบสีแดงกลีบดอกเฉาจนคอตก ลอยอยู่ตรงหน้าขนมผิง ทำเอาเธอประหลาดใจเพราะไม่เคยได้รับของขวัญใดๆจาก เอเจ มาก่อนอีกทั้งรูปลักษณ์ของ กุหราบ ที่ไม่สดใสเอาเลยนั่นอีก
“มันเหี่ยวไปหน่อย”เขาเอ่ยอย่างเขินๆ มือไม้ลูบหัว วนต้นคอให้วุ่นวาย “จริงๆตั้งใจจะให้ตั้งแต่เช้าแล้วแต่ว่า….”
“อือ …ขอบใจนะ” ขนมผิงตอบรับสั้นๆ ทำหน้าไม่ค่อยถูกรู้สึกแปลกประหลาดในใจ จนเผลอก้าวเดินออกจากบริเวณร่ม จนเมื่อเม็ดฝนโดนตัวเท่านั้นเธอจึงรู้ตัวก้าวถอยกลับ ในขณะที่ เอเจ ก้าวตามเพราะกลัวเพื่อนสาวจะเปียก และจังหวะนั้นเอง ศรีษะของ ขนมผิง กระแทกกับจมูกของ เอเจ เข้าพอดี
“โอ๊ย” เขาร้องขึ้นพรางยกมือจับที่จมูกเกือบปล่อยร่มหลุดมือไปแล้ว แม้แรงกระแทกจะไม่เต็มที่นักแต่ก็ทำให้เจ็บไม่น้อย ขนมผิงตกใจรีบหันมาดู “ฮึ้ย..ขอโทษ…เป็นไรมากมั๊ย ดูหน่อยดิ๊” ว่าพรางดึงมือ เอเจ ออกจากจมูกเพื่อสำรวจอาการบาดเจ็บ จนดวงหน้านั้นใกล้กันจนเกือบสัมผัสได้ถึงลมหายใจชั่วครู่หนึ่งที่สายตาคนทั้งสองเลื่อนมาประสานกัน สร้างความรู้สึกวูบไหวในใจให้คนทั้งสอง ขณะที่มือเธอยังคงกำปลายนิ้วทั้งสี่ของเขาไว้แน่น เธอผละออกเล็กน้อยอย่างได้สติ รีบคลายมือนั้นทันทีด้วยอาการขัดเขิน ไม่ต่างอะไรกับ เอเจ ที่รู้สึกแก้มร้อนฉ่า มือที่ถูกปล่อยเลื่อนกลับที่เดิม คลำจมูกตนเองแก้เขิน “เอ่อ…ไม่..ไม่เป็นไรมากหรอก”เขาเอ่ย เกิดคำพูดติดขัดแบบไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อตั้งสติได้กันทั้งคู่ บทสนทนาแก้เขินจึงดำเนินต่อจากนั้น
“อ้อ..ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ…ว่าแต่รู้ด้วยเหรอว่าฝนจะตก ถึงเอาร่มมาด้วย”
“เปล่าหรอก แฟนคลับให้ยืมมา”
“แหม…แฟนคลับเยอะ …. น่าหมั่นไส้”
ขนมผิงเหยียดยิ้มบางๆ ดวงหน้าดูสดใสน่ารัก เอเจ หัวเราะแกนๆ ทั้งยังลอบมองดวงหน้าขาวนั้นนิ่งนานยิ่งทำให้หัวใจเร่งจังหวะเร็วขึ้นอีก ในขณะที่ขนมผิงพยายามปิดกั้นความเขินอายของตัวเองเช่นกันซึ่งมันไม่ค่อยสำเร็จเท่าไหร่
“เรา…เดินไปเรื่อยๆดีกว่าโนะ” ขนมผิง ชวน
“เอาดิ๊..ฝนไม่แรงเท่าไหร่แล้วนิ่” เขาตอบรับตะกุกตะกักแต่เต็มเปี่ยมด้วยความยินดี