27 ส.ค. 2020 เวลา 10:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เรื่องเล่าเม้าท์ไปเรื่อย.......ตอน ไทยเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ภาค 2
ขอบคุณรูปภาพจาก Posttoday
หลังจากที่นายกรัฐมาตรประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เสนอในที่ประชุม ครม.สัญจร ว่าประเทศไทยอาจเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในเดือนตุลาคมนี้
วันนี้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงการท่องเทียวและกีฬา ก็ออกมารับลูก โดยระบุว่าจะเสนอให้นายกรัฐมนตรี อนุมัติและขอใช้จ.ภูเก็ต เป็นโมเดลในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบจำกัด เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่อยู่ในภาวะวิกฤติขณะนี้
เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมการค้าการโรแรม สมาคมท่องเที่ยว ก็เตรียมหารือเพื่อหาแนวทางและมาตรการ ที่เหมาะสมเช่นกัน
ขณะที่ศบค.ชุดเล็ก ออกมาเปิดเผยว่า การเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยว เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเศรษฐกิจของ จ.ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ศบค.เองก็ต้องกับมาทบทวน และหามาตรการให้รอบคอบ
“เป้าหมายแรกจะให้คนต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยในระยะยาว และกลุ่มที่มีบ้านอยู่ในไทย เพราะมีกำลังซื้อสูง จะให้กลับเข้ามายังประเทศไทยก่อน แต่ก็ยังต้องกักตัว 14 วัน แต่กลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูง จะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการพิจารณาเป็นอย่างมาก"
ขอบคุณรูปภาพจากประชาชาติธุรกิจ
ด้าน"การบินไทย" ก็ได้เตรียมเที่ยวบินพิเศษเช่าเหมาลำ 6 เส้นทางระหว่างประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก เยอรมนี อังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น และฮ่องกง มายัง "ภูเก็ต" เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย พร้อมมีแผนที่ทำการบินตรงจากจีนสู่ภูเก็ต
นั่นหมายความว่าแนวโน้มการเปิดประเทศเริ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้น เพียงแต่มาตรการการป้องกันจะต้องพร้อมทุกด้านจริงๆ.........
แต่อย่างไรก็ตาม นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาต่อต้านมาตรการรับนักท่องเที่ยวนี้ทันที โดยระบุว่า การนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าประเทศ จะเป็นนโยบายที่อาจนำไปสู่ความหายนะ เพราะมีโอกาสที่ผู้ติดเชื้อจะหลุดรอดเข้ามาได้
ขอบคุณรูปภาพจาก Hfocus
“เคยมีการประมาณการแล้วว่า หากรับชาวต่างชาติเข้ามา 100,000 คน อาจมีอย่างน้อย 500 คนที่ติดเชื้อ และแม้จะได้รับการคัดกรองมาตรฐาน ก็มีโอกาสหลุดรอดได้ 65 คน ”
นอกจากนี้ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรี และฝ่ายความมั่นคง โปรดทบทวนการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ เพราะอาจเสี่ยงต่อการระบาดซ้ำเข้ามา และยากต่อการควบคุมควรยุติไปก่อนอย่างน้อย 6 เดือน
เรื่องนี้ มีทั้งคนที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างสุขภาพกับเศรษฐกิจ ฟังอย่างนี้แล้ว ท่านผู้อ่านเห็นด้วยกับฝั่งไหนมากกว่ากันครับ มาแสดงความคิดเห็นกันครับ
เรื่องเล่าเม้าท์ไปเรื่อย ......
โฆษณา