8 ก.ย. 2020 เวลา 00:04 • ท่องเที่ยว
Summer Iceland 2018 (10/1) .. ไปดูนกพัฟฟินและหาดทรายสีดำ ที่ Dyrholaey Cape & Trolls in Reynisgranger
เราเดินทางต่อ โดยจุดหมายต่อไปคือบริเวณหาดทรายสีดำที่เลื่องชื่อของไอซ์แลนด์
รุตม์ นำรถมาจอดที่ลานจอดรถ ใกล้กับแหลม Dyrholaey … เมื่อเดินลงไปแล้วมองไปที่เนินเขาย่อมๆ เราเห็นผู้คนจำนวนหนึ่ง กำลังรออะไรสักอย่าง
“ที่นี่ เป็นสถานที่ที่พบเห็นนกพัฟฟินได้ไม่ยาก … คนที่บนเนินเขาคงเฝ้าดูนกพัฟฟินอ่ะครับ”
“อยากไปถ่ายรูปนกมั๊ยครับ?” .. รุตม์ถาม และแน่นอนเราอยากเห็นนกที่ขึ้นชื่อว่าน่ารักที่สุดในไอซ์แลนด์อยู่แล้ว
เราเดินขึ้นเนินเขา ผ่านจุดที่ผู้คนรอดูนกพัฟฟินไป เพื่อขึ้นไปถ่ายภาพวิวและหาดทรายสีดำในฝั่งตะวันออกของแหลม
จากเนินเขา .. เบื้องล่างของเราคือหาดทรายที่มีความแปลกด้วยสีดำเข้มของทรายที่ทอดตัวตามความยาวของหาด ตัดกับสีสีเข้มของภูเขาที่เป็นฉากหลัง
มีหินรูปร่างประหลาด 2 แท่ง อยู่ปลายสุดของหาด … หาดทรายดำ ที่ฉันไม่เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน แม้แต่หาดทรายดำที่นิวซีแลนด์ก็สีไม่เข้มขนาดนี้
ช่วงที่กลับลงมา ณ จุดที่อาจจะเห็นนกพัฟฟิน …จำนวนคนน้อยลง เราจึงยืนรอจังหวะ …
มองไปที่หาดเบื้องล่าง เห็นนกนางนวลกำลังเดินมาที่ซากปลาตายที่ถูกน้ำซัดมาเกยตื้น .. นี่คงเป็นอาหารโอชะอีกมื้อหนึ่งของเจ้านกนางนวล
รออยู่ไม่นานนัก นกพัฟฟิน 2-3 ตัวก็เดินออกมาจากโพรงหิน .. ซึ่งฉันคาดเดาว่าน่าจะเป็นสถานที่ทำรังและเลี้ยงลูกนก
ฉันเปลี่ยนเลนส์กล้องมาเป็นเลนส์เทเลซูม แต่ก็ยังไม่ใช่เลนส์ถ่ายรูปนกที่เหมาะสมนะคะ … ฉันเคยดูและถ่ายภาพนกในธรรมชาติมานานหลายปี จึงมีกล้องและเลนส์ถ่ายนก แต่ด้วยน้ำหนักกล้องถ่ายนกที่มากและต้องมีอุปกรณ์มากชิ้น ทำให้แบกไม่ไหว เลยไม่ได้เอาติดตัวมาด้วย
… นกพัฟฟิน เป็นนกขนาดเล็ก .. ดังนั้นถึงแม้จะพยายามจะซูมมากที่สุด แต่ก็ยังจับภาพได้ไม่ชัด
นกพัฟฟิน (Puffin) เป็นนกทะเลในสกุล Fratercula นกน่ารักชนิดนี้มีลักษณะเด่นคือ มีจะงอยปากสีสดใสในช่วงฤดูผสมพันธุ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธุ์แอตแลนติก เป็นนกทะเลผิวน้ำที่หาอาหารด้วยการดำน้ำจับปลาเป็นหลักทั่วท้องทะเลในหน้าหนาว
แต่เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ นกจะเข้าฝั่งเพื่อผสมพันธุ์ วางไข่ และเลี้ยงลูกนก นกชนิดนี้มักจะพบทำรังบนรอยแยกของหมู่หินหรือในโพรงดินตามหน้าผาสูงตามชายฝั่งหรือบนเกาะ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดกับไข่หรือลูกนก จากการเข้ามาขโมยไปเป็นอาหารโดยสัตว์อื่น
นกพัฟฟินที่พบริมชายฝั่งจะมีไม่มากเหมือนกับตามเกาะนอกชายฝั่ง … ได้ยินมาว่า หากต้องการจะเห็นพัฟฟินนับร้อยๆตัว และสามารถเข้าใกล้ได้ ก็ต้องลงเรือที่มีให้บริการอยู่หลายเมือง เช่นที่ Borgarfjorour Eystri ซึ่งคนที่เคยไปมาแล้วบอกว่า เจอพัฟฟินมหาศาลเลย
ในเขต West Fjord ที่หน้าผานก (เป็นพื้นที่ปิดในหน้าหนาว) … ว่ากันว่า … เป็นอีกแหล่งที่สามารถพบเจอพัฟฟินจำนวนมหาศาลได้ แต่ทางเดินอาจจะไม่สบายนัก ด้วยเป็นหน้าผาต้องเดินเลาะริมขอบผาไปด้วยความระมัดระวัง
ฉันเห็นภาพสวยๆที่บางคนถ่ายรูปนกพัฟฟินกำลังคาบปลามาเต็มปาก เลยสงสัยว่าทำไมมันถึงทำแบบนี้ เลยไปอ่านหนังสือ แล้วได้ความว่า …
… พัฟฟิน เป็นนกที่หาอาหารด้วยการดำน้ำจับปลา และมีความสามารถพิเศษที่จับปลาได้หลายตัวในการดำน้ำครั้งเดียว นกแต่ละตัวอาจจะต้องกินปลาถึงวันละ 40 ตัว (โอ้โห .. เยอะจัง) จึงต้องพยายามจับปลาให้ได้มากที่สุด และเมื่อจับปลาได้แล้ว มันจะใช้ลิ้นที่แข็งแรงมากดันปลาไว้ไม่ให้หล่นหายไปในระหว่างที่ไล่จับปลาตัวต่อไป … จึงเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นพัฟฟินคาบปลาทีละหลายๆตัว เต็มปาก
“มีเมนูอาหารที่ใช้นกพัฟฟินด้วยนะครับ อยากลองมั๊ย?”.. รุตม์ถาม
ไอซ์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่มีนกพัฟฟินมากมายหลายล้านตัว แต่จะมาเฉพาะช่วงผสมพันธุ์ ทำรัง วางไข่ และเลี้ยงลูกน้อย จนลูกนกสามารถบินกลับได้จึงจะบินกลับ และมาใหม่ในในปีถัดไป
ด้วยปริมาณของนกที่มีอยู่มากมาย (มากกว่าสิบเท่าของจำนวนพลเมืองของไอซ์แลนด์รวมกัน) … จึงมีการจับมาทำอาหารบ้าง เช่นเดียวกับการรับประทานไก่ฟ้าบางสายพันธุ์ นกเป็ดน้ำ และสัตว์อื่นๆที่แม้จะกลายมาเป็นเมนูอาหารของคน แต่ไม่ไกระทบจนเป็นผลในทางลบต่อประชากรของสัตว์นั้นๆ
อีกทั้งประเทศไอซ์แลนด์ยังได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่ได้รับการยกย่องเรื่องการอนุรักษ์ในอันดับต้นๆของโลก … ไม่มีการบุกรุกธรรมชาติ ไปสร้างรีสอร์ท ที่พัก ในพื้นที่ที่เป็นบ้านของสัตว์ป่าและสัตว์ธรรมชาติ แล้วไล่เจ้าของบ้านออกไป พร้อมกับทึกทักว่าตนเองมีสิทธิ์ที่จะทำได้ อันเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้สัตว์ในธรรมชาติบางส่วน บางชนิดถึงกับสูญพันธุ์ … เศร้าๆๆๆๆ
นกพัฟฟิน .. นกตัวเล็กๆ แสนสวย .. ยังไงเราก็กินเป็นอาหารไม่ลงจ้า
“พี่ๆๆๆๆ ทางนี้มีนกพัฟฟินใกล้ๆ มันเพิ่งจะกระโดดเข้าไปในพงหญ้า เดี๋ยวคงออกมา” … น้องอี๊ด เพื่อนร่วมทริปอีกคนบอก พร้อมชี้มือไปยังจุดที่เห็นนก
ฉันรอสักครู่ .. แต่นกก็บินปร๋อออกไปสู่ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ฉันจะกดชัตเตอร์กล้อง … เลยต้องรอต่อ
สักพัก นกพัฟฟินอีกตัวบินกลับมา และยืนพักอยู่บนหินริมพงหญ้า ซึ่งคงเป็นรังของนก … คราวนี้ฉันเล็ง แล้วกดชัตเตอร์กล้องรัวๆ ซึ่งเป็นสไตล์การถ่ายนกในธรรมชาติ และแล้วก็ได้ภาพมาฝากค่ะ
Dyrholaey Cape เดิมมีชื่อเรียกขานโดยชาวอังกฤษว่าเคปพอร์ตแลนด์ ตั้งอยู่ชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ … มีหาดทรายดำยาวเหยียดมีปลายแหลมสองด้าน และมองเห็นภูเขาและหน้าผาบนพื้นที่ถัดเข้ามาจากเขตหาดทราย
ตะกอนเม็ดทรายสีดำที่สะสมตัวบริเวณชายหาดเมื่อมองดูจากระยะไกล จะเหมือนกับดินสีดำ ก่อเกิดเป็นทัศนียภาพที่แปลกตาแต่สวยงามมาก
จุดเด่นของหาดแห่งนี้คือ หาดลาวาสีดำสนิทที่ทอดคัวยาวหลายสิบกิโลเมตรที่ริมผา และได้ชื่อว่าเป็นหาดลาวาสีดำสนิท และที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (1991, the US journal Islands Magazine) … เสียดายที่ไม่มีเวลาลงไปสัมผัสกับทรายของหาดนี้
ประภาคารสีขาวกลางจุดชมวิว … สวยดีค่ะ
เราไม่ได้เข้าไปชมภายในของประภาคาร และไม่รู้ว่าปัจจุบันยังมีการใช้งานอยู่หรือไม่
เมื่อมองจากด้านบนจากหน้าผาเดียร์โฮไล (Dyrholaey) จะเห็นประติมากรรมธรรมชาติของหินที่ก่อตัวเป็นรูปโค้ง มีทางลอดตรงกลาง ซึ่งการโค้งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต ตั้งโดดเด่นแปลกตาอยู่ริมทะเล … นี่คือ Dyrholaey Arch
หน้าผาแถวนี้มีนกนางนวลอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ บินกันขวักไขว่ … แต่ไม่เห็นนกพัฟฟิน
Black Sand Beach
บนถนนที่ลาดลงมาจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของประภาคาร … ช่วงทางโค้งบนภูเขาเพื่อขับรถลงมาด้านล่าง มองเห็นภาพหาดทรายดำทางด้านตะวันออกสวยมาก
เราขับรถอ้อมลากูนเพื่อไปที่ทางด้านตะวันออกของแหลม จุดหมายอยู่ที่หาด Reynisfjara ซึ่งเป็นหาดทรายสีดำเช่นเดียวกัน ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้าน Vík í Mýrdal
ระหว่างทาง เราถือโอกาสแวะไปเก็บบรรยากาศของทุ่งดอกไม้ดินที่ขึ้นปกคลุมทุ่งหญ้าจนเหมือนพรมดอกไม้สีสวย
ดอกไม้ดินมีหลายสี แต่งแต้มผืนดินทุ่งหญ้าธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสถานที่ที่สวยงามเหมือนสวรรค์บนพื้นโลก …
น่าเสียดายที่ความงดงามนี้จะสามารถเห็นได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆของกลางเดือน กรกฎาคา ต่อกับต้นเดือนสิงหาคมเท่านั้น ... หากอยากจะเห็นบรรยากาศแบบเรา ก็ต้องมาเที่ยว Summer Iceland เท่านั้นค่ะ
ใกล้ๆกัน มีถ้ำที่เราสามารถขึ้นไปเก็บภาพระยะไกลของหาดทรายและทะเล .. แต่ด้วยสภาพของทางขึ้นที่ชันและลื่นมาก จึงมีเพียงพวกเราบางคนเท่านั้นที่ขึ้นไป ส่วนฉันถ่ายรูปรออยู่ด้านนอกค่ะ
เราเดินทางต่อ ผ่านถนนที่มีวิวสวยๆให้เก็บภาพ
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปกับ พี่สุ
ท่องเที่ยวทั่วโลก กับพี่สุ
ซีรีย์เที่ยวเจาะลึก ประเทศนอร์เวย์
Iceland ดินแดนแห่งน้ำแข็งและเปลวไฟ
Lifestyle & อาหารการกิน แบบพี่สุ
สถานีความสุข by Supawan
โฆษณา