12 ก.ย. 2020 เวลา 22:02 • ท่องเที่ยว
Summer Iceland 2018 (12/2) .. Fjaorargljufur Canyon งานศิลปะบนผาหินที่สร้างสรรค์จากพลังธรรมชาติ
ออกจากทุ่งลาวาที่คลุมด้วยมอสแสนหลอนกันแล้ว เราเดินทางมาไม่นาน ก็เลี้ยวเข้าสู่พื้นที่ของผาหินที่มีชื่อว่า Fjaorargljufur Canyon … ช่วงนี้มีฝนตกลงมาปรอยๆ เราเลยเปิดภัตตาคารอาหารไทยทำเองกันที่ข้างๆรถนั่นเอง
ฝนมาเร็ว ไปเร็ว.. คงเป็นเพราะไอซ์แลนด์เป็นเกาะ จึงมีลมแรงเกือบตลอดเวลา เมฆฝนที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อครู่ก่อน ตอนนี้ถูกลมพัดไปตกทะเลหมดแล้ว (มั๊ง) … การมีเสื้อกันน้ำ กันลม ติดตัวไว้เสมอ จึงเป็นสิ่งจำเป็นและที่ต้องไม่ลืม ด้วยจะทำให้การท่องเที่ยวรื่นรมย์มากขึ้นอีกโข
ฉันมองไปที่ภูเขาซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีหน้าผาที่ใครๆก็บอกว่าสวยงาม พร้อมกับนึกทบทวนความเป็นมาของหน้าผาแห่งนี้ตามที่ได้อ่านรายละเอียดมาแล้วเล็กน้อย …
Fjaorargljufur Canyon เป็นหุบเขาลึกขนาดใหญ่ของภูเขาที่มีความสูงมาก … หุบเขามีความลึกประมาณ 100 เมตร และยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ โดยมีแม่น้ำ Fjaðrá river ไหลผ่านกลางหุบเขา
ว่ากันว่า หน้าผาแห่งนี้เกิดจากการกัดเซาะของน้ำที่ไหลมาจากกราเซียด้านบน จนภูเขาแหว่งเว้าเมื่อราว 2 ล้านปีที่แล้ว
เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม .. จากลานจอดรถ มีทางเดินขึ้นเขามีสโลปชันพอประมาณ เราก้าวฝืนความโน้มถ่วงของโลกขึ้นมาเรื่อยๆ ชนิดเหนื่อย (บ่อยๆ) ก็หยุดอู้บ้างพอประมาณ …
มองเห็นนักท่องเที่ยวฝรั่งหลายคนเดินผ่านไปเร็วมาก แบบแป๊บๆหายลับตาไปเลย บางคนมีอุปกรณ์ Walking Sticks เป็นตัวช่วยให้เดินคล่องและเร็วขึ้น เพราะการทรงตัวจะดี
หากอยากเที่ยว แต่ไม่อยากเดิน ก็คงไม่ได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยๆ เพราะที่นี่เขาไม่มีการสร้างกระเช้าพาขึ้นไป ต้องอาศัยสองเท้าเท่านั้นเพื่อไปให้ถึง
เราเดินขึ้นเรื่อยๆ วิวสวยๆ อากาศก็ดี ทำให้เดินได้เพลินๆ … อันที่จริงเส้นทางเดินขึ้นไม่ได้ลำบากมาก ไม่มีเนินชั้นให้ต้องปีนป่าย แต่ด้วยวัยที่เลยเลขหกมานานแล้ว ทำให้ต้องวางเท้าในแต่ละก้าวด้วยความมั่นใจว่าวางลงไปในจุดที่ไม่ลื่น และไม่พลาดพลั้ง ..
เราเลี้ยวเข้ามามาหยุด ณ จุดชมวิวชมด้านบน เพื่อถ่ายภาพแคนยอนจากมุมสูง …
ในท่ามกลางลมที่แรงและหนาวนิดๆ … เรามองเห็นแคนยอนมีแง่มุมเลี้ยวลดเป็นแง่ง เป็นผาและฉากชั้นมากมายที่ปรากฏในสายตา ดูลึกลับ
… ก้มไปมองด้านล่าง จะเห็นสายน้ำที่ไหลจากด้านบนลดเลี้ยวท่ามกลางลานหินที่ขนาบอยู่ทั้งสองข้าง เพื่อลงไปสู่จุดหมายที่เราไม่อาจคาดเดา แต่มองดูสวยงามที่สัมผัสได้ด้วยตา และอิ่มเอมด้วยใจ
หากหันหลังกลับแล้วมองตรงไปข้างหน้า จะสามารถเห็น Mossy Lava Field ที่กว้างใหญ่ไพศาลที่เราแวะถ่ายรูปก่อนหน้านี้ด้วยค่ะ
ดอกไม้ดินริมผาออกดอกงามสะพรั่ง สวยเหมือนสาวน้อยที่บอบบาง …
ในช่วงหน้าร้อนจะมีการกั้นเชือก ไม่ให้คนออกไปนอกบริเวณ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้ดินแข่งกันชูช่อออกมาโชว์ความงาม .. การที่ผู้คนไม่ออกไปเหยียบย่ำดอกไม้ที่บอบบางแสนสวย จะช่วยให้ภูมิทัศน์รอบด้านของภูเขางดงามตลอดฤดูกาล
แม้จะเหนื่อยล้าอยู่บ้างในการเดินไปยังจุดสุดท้ายของทางเดิน แต่เรายังสนใจสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในสายตาเป็นฉากๆรายทาง
ตลอดทางเดิน หากเราเดินเข้าไปลึกๆ แล้วหันกลับไปมองด้านหลัง … วิวของแคนยอนสวยมากๆทุกมุมมอง จนอยากจะลงไปเดินเล่นที่ก้นหุบเขา
เราเดินต่อขึ้นไปอีกชั้นในระยะทางราวครึ่งกิโลเมตรทางด้านตะวันตกของภูเขา … ลมค่อนข้างจะแรงทีเดียว ใครมาเที่ยวประเทศนี้ต้องหยิบเสื้อกันลม กันน้ำมาด้วยนะ อย่าลืม
สุดทางเดินจะมีจุดชมวิว เป็นลานไม้ยกพื้นยื่นออกไปในแนวของหน้าผา (ไม่ได้ยื่นออกไปในอากาศมาก ให้หวาดเสียวเล็กๆ เหมือนที่ Five Fingers ในออสเตรียและอีกหลายที่ในยุโรป) … ที่นี่เองมองเห็นน้ำตกบนยอดเขา ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่า คงจะเป็นน้ำตกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งข้างบนนั่นเอง
… แม้จะไม่อลังการให้วี๊ดๆว๊ายๆ แต่น้ำตกบนยอดเขาแห่งนี้ก็สวย คุ้มค่ากับการเดินขึ้นมาชม ฉันและเพื่อนร่วมทางการันตีว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อย และนี่คือทั้งหมดของภาพและความประทับใจที่เกิดบนเส้นทางมหัศจรรย์ของ Fjaorargljufur Canyon ที่หลายคนอยากมาเห็นด้วยตาของตนเอง
ที่นี่ ถูกใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ MV เพลง I’ll show you ของ Justin Biber เช่นเดียวกัน ก็คงรับประกันความสวยงามได้ ใช่มั๊ยคะ?
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปกับ พี่สุ
ท่องเที่ยวทั่วโลก กับพี่สุ
ซีรีย์เที่ยวเจาะลึก ประเทศนอร์เวย์
Iceland ดินแดนแห่งน้ำแข็งและเปลวไฟ
Lifestyle & อาหารการกิน แบบพี่สุ
สถานีความสุข by Supawan
โฆษณา