Summer Iceland 2018 (14) .. Jokulsarlon Glacier และ Diamond Black Beach
“ผมจะพาไปดูธารน้ำแข็งอีกแห่งที่สวย และเข้าใกล้ๆได้มาก” ..รุตม์บอก
เราเดินทางต่อมาอีกไม่นานก็ถึงจุดหมาย ... ธารน้ำแข็ง และ Iceberg ที่สวยแปลกตาสำหรับคนเอเซียอย่างเรา
ลานจอดรถอยู่ไม่ไกลจากกราเซียร์ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน … บริเวณด้านหน้า มีร้านค้า และเห็นมีรถนำเที่ยวขนาดใหญ่ และเรือ ที่จะพานักท่องเที่ยวออกไปชมก้อนน้ำแข็งในทะเลสาบอย่างใกล้ชิด
กราเซียและทะเลสาบธารน้ำแข็ง จะมองเห็นได้ชัดเจนในมุมกว้าง หากคุณขึ้นไปชมบนเนินเขาเตี้ยๆ … เราก้าวเดินขึ้นไปตามสโลปของเนินเขาช้าๆ เพราะกลัวสะดุดล้ม
Jokulsarlon Glacier เป็นหนึ่งในทะเลสาบธารน้ำแข็ง (Glacier Lagoon) ที่มีชื่อเสียงก้องโลก ก้อนน้ำแข็ง (Iceberg) จากกราเซียนี้ไหลลงมาจากภูเขา Vatnajokill .. ทะเลสาบธารน้ำแข็ง ณ ที่แห่งนี้ ถือว่าใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี คศ. 1934-1935 จากการที่ธารน้ำแข็งเกิดการละลายมากขึ้น และเพิ่มพื้นที่ของน้ำในทะเลสาบมากขึ้นเรื่อยๆทุกๆปี จนปัจจุบันมีขนาดถึง 18 ตารางกิโลเมตร มีความลึกของน้ำราว 200 เมตร จนได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่ลึกเป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์
วันนี้เราเห็นก้อนน้ำแข็ง (Iceberg) สีฟ้าที่งดงามขนาดมหึมาที่ละลายและแตกลงมาจากภูเขาน้ำแข็งด้านบน ... ตอนนี้ลอยละล่องเรียงรายโผล่พ้นพื้นน้ำอยู่เกือบจะเต็มทะเลสาบ
ยามที่ก้อนน้ำแข็งกระทบแสงแดดก่อให้เกิดภาพที่มีสันสวยงาม น่าประทับใจ และว่ากันว่า เป็นภาพธรรมชาติที่มีเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่เราจะสามารถเข้าใกล้จนเกือบสัมผัสได้ขนาดนี้ .. ความสวยงามผสานกับเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ไม่ง่ายนัก ทำให้เราต้องกดชัตเตอร์กล้องมือเป็นระวิง เพื่อเก็บภาพประทับใจ
การชมไอซ์เบิร์กอย่างใกล้ชิดสามารถทำได้ ด้วยบริการล่องเรือท่องเที่ยวที่มีบริการ
ว่ากันว่า … ความสวยงามของสถานที่ ทำให้ที่นี่เคยถูกใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง James Bond และ Batman มาแล้ว
ใครบางคนบอกว่า … หากเป็นฤดูหนาว ในบริเวณนี้จะเป็นน้ำแข็งทั้งหมด มีทัวร์พาเดิน และมีถ้ำและอุโมงค์น้ำแข็งให้เข้าไปเดินค้นหา เหนือทะเลสาบที่ในช่วงเวลานั้นจะเป็นน้ำแข็งเช่นกัน
ธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์อยู่ใกล้และสามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่เหมือนธารน้ำแข็งที่อื่นที่ฉันเคยไปดูมาบ้าง เช่นในนิวซีแลนด์ ปากีสถาน อินเดีย และอีกหลายแห่ง … ที่ส่วนใหญ่จะต้องเดินหรือนั่งรถเข้าไปไกลมาก และบางพื้นที่เช่นในปากีสถานเข้าถึงด้วยความยากลำบาก และธารน้ำแข็งหดสั้นลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว
การได้เห็นจะจะ อย่างใกล้ชิดอย่างนี้ จึงเป็นความอิ่มเอมอย่างมากมาย
ในขณะที่ฉันเดินกลับลงมาจากเนินเขา ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมทริปเรียก
.. “พี่ๆๆๆๆ มาดูแมวน้ำกันเร็ว ดำผุดดำว่าย ตาใสแป๋วเชียว น่ารักมาก” … เสียงของเพื่อนร่วมทริปตะโกนบอก พร้อมกับชี้ไม้ ชี้มือไปยังทิศทางที่แมวน้ำผุดดำว่าย
ฉันพยายามเพ่งมอง แต่ไม่เห็นตัวแมวน้ำ เห็นแต่หัวดำๆเคลื่อนไหวไปมา และถ่ายรูปไม่ได้ด้วยค่ะ
ทางที่ต่อกับ ลากูน เป็นแม่น้ำที่จะไหลออกทะเล มีสะพานข้ามแม่น้ำเป็นฉากในสายตา
เรามองเห็นก้อนน้ำแข็งเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ลอยออกตามสายน้ำ แต่พอใกล้ถึงสะพานก็จะเกิดอาการหมุนวนเป็นวง … ไกด์ของเราอธิบายว่า เป็นปรากฏการณ์ของการสู้กันระหว่างกระแสน้ำจืดและกระแสน้ำเค็มที่ดันก้อนน้ำแข็ง ที่บางส่วนก็จะไหลออกไปลงทะเล และบางส่วนจะมาเกยตื้นที่ชายหาดสีดำ ที่ฉันกำลังจะพาทุกท่านไปชมค่ะ
Diamond Black Beach
Jokulsarlon Glacier เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่เชื่อมต่อกับทะเล ... เป็นจุดที่น้ำแข็งมาบรรจบกับทะเล เลยมีปรากฏการณ์ซึ่งนับว่าหาดูได้ยากมากในโลกเกิดขึ้นในบริเวณนี้ คือการที่ก้อนน้ำแข็งอายุหลายล้านปีที่ถูกซัดเพื่อลงทะเล แต่กลับถูกน้ำทะเลซัดขึ้นมาเกยหาด
เราขับรถข้ามสะพานที่ต้องผลัดกันข้ามทีละทาง อันเป็นช่องแคบเชื่อมต่อระหว่างทะเลสาบกับกับทะเลเปิดด้านนอก ถนนสายนี้พาเรามาที่บริเวณที่เป็นหาดทรายสีดำ และมาสิ้นสุดที่ลานจอดรถเล็กๆข้างด้านหนึ่งของสะพาน พื้นที่มีลักษณะเป็นเนินทรายสีดำ
เราเดินลงมาตามเนินทราย เข้าสู่บริเวณชายหาด … มองเห็นหาดทรายสีดำที่ไล่เลียงมาจากแถวสะพานข้ามแม่น้ำ ทอดตัวยาวเป็นแนว โดยตรงกลางเป็นปากของช่องแคบ เหมือนกำแพงหินขวางล่องไปตามแนวยาวของแม่น้ำ
ลงจากเนินทรายลงไป เป็นส่วนของหาดทราย ที่ทรายบนหาดไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนที่บ้านเราแต่ค่อนข้างหยาบ ปนด้วยกรวดก้อนเล็กๆ และลานโล่งของหาดที่ลมทะเลแรงพอดู …
ในน้ำใกล้แนวฝั่งมีก้อนน้ำแข็งก้อนมหึมา หรือก้อนใหญ่ๆอยู่มากมาย บางส่วนถูกคลื่นซัดเข้ามาใกล้ฝั่ง และแตกตัวเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดเล็กเกยตื่นอยู่บนหาด
ก้อนน้ำแข็ง หาดสีดำ และคลื่นแรงๆที่ซัดเข้าหาฝั่ง … เมื่อสามสิ่งนี้มาอยู่รวมกัน จะเป็นการวมตัวที่สมบูรณ์แบบมาก โดยเฉพาะในช่วงที่คลื่นม้วนตัวเข้าหาฝั่ง แล้วทิ้งฟองคลื่นขาวๆให้ตัดกับสีดำของทราย … สวยและแฝงด้วยความโรแมนติกเล็กๆ
น้ำแข็งบางก้อนสีใสวาววับจับตา บางก้อนสีฟ้าสดใส เปล่งประกายอยู่เกลื่อนชายหาดสีดำ สีที่ตัดกันเหมือนใครบางคนจงใจเอาเพชรมาโปรยเกลื่อนหาด ให้บาดตาเล่น วิบๆวับๆ เหมือนก้อนเพชร สมกับชื่อของหาดจริงๆ
แหม .. หากก้อนน้ำแข็งที่เห็นเกลื่อนหาดเป็นเพชรจริงๆ ก็คงได้ขนกลับไปทำหัวแหวนให้เอิกเกริกไปเลย
เวลาถ่ายรูป ก็จะได้ภาพสีขาวดำ …. เหมือนจงใจถ่ายภาพในโหมดนี้ แต่เป็นสีที่มาตามธรรมชาติจริงๆ โดยปราศจากการเสริมแต่ง .. เจ๋งมากๆ
เสียดายที่ไม่ได้เตรียมบู้ทยางกันน้ำไปด้วย เลยไม่สามารถที่จะออกไปลุยปะทะคลื่นและถ่ายรูปให้เห็นคลื่นที่ซัดก้อนน้ำแข็งที่สวยเหมือนเพชรให้ได้โมเม้นที่ฟินๆมาฝาก
เรา … ก็เหมือนๆกับผู้ที่มาเยือนหาดเพชรแห่งนี้ทุกคน ที่ตื่นเต้น กิ๊วก๊าว พยายามมองหาก้อนน้ำแข็งสวยๆ โดยเฉพาะตอนที่มีน้ำทะเลซัดเข้ามา แล้วก็พยายามที่จะถ่ายรูปสวยๆ
เมื่อพอใจกับการได้ภาพก้อนน้ำแข็งบนหาด ก็ย้ายมาโพสท่าถ่ายรูปกับก้อนเพชรที่เย็นยะเยือกแต่งดงามเหล่านี้แทน
แม้อากาศจะค่อนข้างจะหนาวเย็นและลมแรง แต่การได้พักนิ่งๆท่ามกลางธรรมชาติที่เย็นเยียบ กลับทำให้รู้สึกสงบ เป็นช่วงเวลาที่ทำให้นึกได้ว่า ธรรมชาติรังสรรค์มนุษย์ จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ได้พักใจด้วยการได้ปล่อยตัวเองให้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติรอบตัว
… ฉันอยากถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่นี่มาก ภาพสีแดง ส้มเหลืองทองของท้องฟ้า เมื่อตัดกับหาดสีดำสนิท และก้อนน้ำแข็งใสๆเหมือนเพชร ภาพคงออกมางดงาม …
แต่ …. แต่พระอาทิตย์ตกตั้งเที่ยงคืน รอและอดนอนไม่ไหวอ่ะค่ะ พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าด้วย
… อีกอย่างที่สำคัญ .. ท้องฟ้าครึ้มด้วยเมฒฝนอย่างนี้ แสงอาทิตย์คงถูกสยบด้วยความหนาของเมฒและหมอก … คาดคะเนอย่างนี้แล้ว กลับไปนอนดีกว่าเรา
เราเก็บภาพหาดทรายเพชรสวยๆที่มีสะพานข้ามแม่น้ำเป็นฉากหลัง ... ก่อนที่จะโบกมืออำลาหาดทรายที่งดงามแห่งนี้
So long ... till we meet again .. จุ๊บ จุ๊บ
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปกับ พี่สุ
ท่องเที่ยวทั่วโลก กับพี่สุ
ซีรีย์เที่ยวเจาะลึก ประเทศนอร์เวย์
Iceland ดินแดนแห่งน้ำแข็งและเปลวไฟ
Lifestyle & อาหารการกิน แบบพี่สุ
สถานีความสุข by Supawan
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
