ไอ้ไข่มีวัดเดียว วันนี้หลายคนคงพอจะได้เห็นข่าวว่า ไอไข่มีลิขสิทธิ์แล้ว "ไอ้ไข่" จดลิขสิทธิ์แล้ว
จากข่าว "เปิดใจเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ "ไอ้ไข่" จดลิขสิทธิ์แล้ว ไม่เคยอนุญาตให้วัดอื่นสร้างรูปจำลอง" (ติดตามได้จากที่มา)
ภาพพิมพ์ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์
หากคนที่อยู่ในวงการของพระเครื่อง หรือความเชื่อเกี่ยวกับสถานที่วัตถุมงคล คงพอจะทราบกันดีถึงกระแสของจตุคามรามเทพ ว่าจากกระแสที่โด่งดังพลุงแตก จากเรื่องราวความเชื่อ และเคารพศรัทธาจากผู้คนทุกสารทิศ ทำให้เกิดการหลังไหลและความนิยมขึ้นเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้ไม่เคยสนใจในรพะเครื่อง พระบูชา หรือเรื่องราวกระแสที่เกิดขึ้น ในเวลาเพียงไม่นานจากความเชื่อ ความศรัทธา เข้าสู่การพาณิชย์ จนกลายเป็นวัตถุนิยม และเป็นงานเชิงศิลปการค้า
องค์จตุคามรามเทพ (ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
น่าเสียดายว่ากระแสเหล่านี้ได้ย้อนแย้งให้ทำความเชื่อความศรัทธาที่มีมาหายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้นเหล่งกำเนิดขององค์จตุคามรามเทพกลายเป็นอดีตไปในพริบตา แทนจะเป็นชั่วอายุคน หรือยุคสมัย
ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ ในปัจจุบันนี้น้อยคนนักที่ไม่รู้จัก อย่างน้อยต้องเคยได้ยินชื่อผ่านหู กันมาไม่น้อย กระแสเริ่มมาแรง และอาจตามร่องรอยองค์จตุคามรามเทพ
จากการให้สัมภาษณ์ พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรือ อาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ กล่าวว่า
"พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ กล่าวอีกว่า ทางวัดได้มีการจดลิขสิทธิ์ทุกอย่าง ตั้งแต่รูปปั้นไอ้ไข่ หนังสือประวัติความเป็นมาจดหมดวัตถุมงคลก็จด ซึ่งงานที่วัดสร้างสรรค์ขึ้นมาถือเป็นลิขสิทธิ์ของวัดอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ อาตมาไม่อยากจะเอาเรื่องกฏหมายมาดำเนินการ แต่อยากจะให้ทุกคนโดยเฉพาะคนนครศรีธรรมราช ช่วยกันรักษาปกป้องไอ้ไข่ไว้ให้ยืนยงคู่กับจังหวัด เพราะไม่ได้เลวร้าย แต่มันช่วยสังคมได้พอสมควร อยากให้ช่วยกันดูแลและรักษาดีกว่า อยากให้ดูยุคจตุคามรามเทพเป็นตัวอย่าง หากต่างคนต่างสร้าง ใครก็สร้างได้ ท้ายที่สุดก็จบเร็วล่มสลายเร็ว อาตมาไม่อยากให้ไอ้ไข่เป็นอย่างนั้น อยากให้ช่วยกันรักษาเป็นวัฒนธรรมความเชื่อของท้องถิ่น เป็นสิ่งที่ทรงคุณคุณค่าประจำถิ่นเท่านั้น"
หลายคนคงเห็นด้วยกับคุณค่าเหล่านี้ แต่หลายคงอาจไม่เห็นว่าเมื่อกำเนิดเป็นความศรัทธาเช่นนี้แล้ว จะสามารถใช้งานกับลิขสิทธิ์ได้หรือ บางคนอาจไปนึกถึงหลวงปู หลวงพ่อท่านต่างๆ ที่เคารพศรัทธา อย่างหลวงปู่ทวด ซึ่งมีพื้นเพจากทางปักษ์ใต้ เดี่ยวนี้รูปเคารพมีเกือบทุกวันวาอาราม หากเอามารวมมาถือเป็นลิขสิทธิ์เฉกเช่นไอ้ไข่จะเป็นได้หรือ
นี่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับบางคน แต่การแสดงออกเช่นนี้นับว่าดีต่อไอ้ไข่และพื้นเพของคนที่อยู่กับไอ้ไข่อย่างแยกกันออกยาก หากใช้เหตุผลแล้วเชื่อว่าครั้งนี้ย่อมมีดีกว่าการโฆษณาชวนเชื่อตามกระแสแบบซื้อ 2 แถม 1 เพราะไอ้ไข่ไม่ใช้ปลากระป๋อง เราทุกคนคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้กันครับ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นความอ่านกันได้ครับ
ที่มาข่าว https://www.sanook.com/news/8253402/
วัตถุมงคลพระเครื่อง กับการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา วารสาร มหาจุฬานาครทรรศน์ ปีที่5 ฉบับที่3 (กันยายน – ธันวาคม 2561)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
