22 ก.ย. 2020 เวลา 13:45 • สุขภาพ
อังกฤษยิ่งดิ้นยิ่งจม
1
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
24 ตุลาคม 2563 ขอเชิญท่านทำบุญด้วยการออกโรงทานในงานทอดกฐินสามัคคี วัดมัชฌิมวัน (ดงกลาง) อ.เขาสมิง จ.ตราด
ส่วนท่านใดจะร่วมทำบุญ เชิญที่บัญชีของวัด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาแสนตุ้ง ชื่อบัญชีวัดมัชฌิมวัน เลขที่ 020020113100 หรือติดต่อที่ท่านเจ้าอาวาส พระครูสุธีปริยัติโกศล ดร., โทร. 087-919-2020
https://citywire.co.uk/new-model-adviser/news/the-age-of-austerity-is-over-the-age-of-wealth-taxes-has-begun/a1354125
ถ้าผมเป็นคนฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน ดัตช์ ก็คงจะต้องร้องตะโกนไชโยโห่ฮิ้ว ที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ประกาศเตรียมยกเลิกขายสินค้าปลอดภาษีให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ต้องไชโยโห่ฮิ้วเพราะต่อไปนี้ ความเป็นเมืองท่องเที่ยวของอังกฤษจะมีเสน่ห์ลดลง และก็จะหันไปท่องเที่ยวยังประเทศข้างเคียงแทน
อดีตที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาช้อปปิ้งในอังกฤษปีละประมาณ 6 พันล้านปอนด์หรือ 2.4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ 3.5 พันล้านปอนด์ เป็นการขายแบบไม่ต้องเสียภาษี และแบบที่นักท่องเที่ยวขอคืน VAT มีจำนวน 2.5 พันล้านปอนด์
หนึ่งในบรรดาเหตุผลสำคัญที่คนไปเที่ยวและช้อปป้ิงในอังกฤษก็คือ อังกฤษมีโครงการ VAT RES หรือ VAT Retail Export Scheme เป็นโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โครงการนี้นี่ละครับที่ทำให้ผู้คนทั้งไปเที่ยวและไปจับจ่ายใช้สอย เป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวด้วยซื้อของด้วยเดินทางไปอังกฤษ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ว่าเทวดาหรือผีบ้าไปดลบันดาลประทานความคิดใส่สมองนายกฯ อังกฤษ ที่จะทำให้อังกฤษกลายเป็นประเทศเดียวในทวีปยุโรปที่ไม่มีการช้อปปิ้งปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ การล้มโครงการคืนภาษีฯ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องจ่ายเงินเพิ่มร้อยละ 20 ในการซื้อสินค้าแบบเดียวกันจากประเทศอื่น
https://www.ft.com/content/32426394-6356-4697-ab80-a119175e4596
คุณสมบัติสำคัญของการเป็นผู้นำของประเทศใดประเทศหนึ่งคือ การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ตัวเองบริหารให้มากกว่าประเทศอื่น
แต่สิ่งที่นายกฯ จอห์นสันทำแต่ละอย่าง ผมว่าเป็นการทำลายความสามารถของอังกฤษ ทำให้อังกฤษเสียเปรียบทั้งด้านการผลิต การท่องเที่ยว การลงทุน และการอะไรต่อมิอะไรอีกบานเบอะเยอะแยะ การตัดสินใจของนายกฯ จอห์นสันในครั้งนี้จะทำให้มีผู้ตกงานเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 7 หมื่นคน
อังกฤษเจอวิบัติซ้ำกรรมซัดหนักเลยครับตอนนี้ การออกจากสมาชิกสหภาพยุโรปทำให้เสียสถานะศูนย์กลางการเงินการธนาคาร คนไม่อยากมาลงทุน ไม่อยากมาอยู่ ซื้อสินค้าจากสหภาพยุโรปก็แพงขึ้นเพราะไม่ได้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีเหมือนเดิม จะส่งสินค้าจากอังกฤษไปขายที่อื่นก็แข่งขันยาก เพราะสินค้าอังกฤษก็จะเจอภาษีบวกเข้าไปอีกบานเบอะเยอะแยะ
คนอังกฤษมักจะมั่นใจในตัวเองมากกว่าเชื่อฟังรัฐบาล เรื่องนี้ทำให้ไวรัสโควิด-19 แพร่ขยายกระจายระบาดไปทั่ว ตอนนี้รัฐบาลอังกฤษออกประกาศยอมรับแล้วนะครับว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศตัวเองเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
ขณะที่ผมเขียนคอลัมน์รับใช้ท่านที่เคารพ มีข่าวว่านายกฯ อังกฤษกำลังเตรียมประกาศยกระดับการเตือนจากระดับ 3 สู่ระดับ 4 ซึ่งเป็นการแพร่ระบาดทั่วไปในระดับสูง
ถ้าการระบาดยังระเบิดระเบ้ออย่างนี้ กลางเดือนตุลาคม 2563 มีการทำนายทายทักว่าอังกฤษจะมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นวันละ 5 หมื่นคน จะมีคนตายเพิ่มขึ้นวันละ 200 ราย
1
https://www.rfi.fr/en/europe/20200812-british-economy-slides-into-deepest-recession-on-record-due-to-covid-crisis-unemployment-stimulus-europe
อังกฤษเป็นประเทศเก่าแก่ ผู้คนส่วนหนึ่งยังทระนงหลงตนว่าพวกตนมีความเก่งกล้าสามารถมากกว่าคนชนชาติอื่น การเลือกผู้นำก็ต้องมีภูมิหลังสำเร็จการศึกษามาจากสถาบันเก่าแก่ แต่บางครั้งก็ตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก
ผมตามดูการกระดิกพลิกตัวของนายกฯ จอห์นสันและคณะบริหาร เห็นว่ามีหลายอย่างที่ยังก้าวไปไม่ทันโลกยุคปัจจุบัน
ไม่ต้องยกตัวอย่างอะไรให้วุ่นวายขายปลาช่อนดอกครับ เอาแค่เรื่องการยกเลิกคืนภาษีนักช้อปปิ้งต่างชาติ นี่ก็สวนกระแสการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติของทุกประเทศในโลกนี้
โฆษณา