พลังรีวิวออนไลน์ แค่ 5 รีวิวดีๆ ก็เพิ่มโอกาสการซื้อผลิตภัณฑ์ได้ถึง 270%
In Summary
🔸️ทุกคนรู้ดีว่าผู้บริโภคทั้งในโลก B2B และ B2C มักอ่านข้อมูลหรือชมวิดีโอรีวิวสินค้าหรือบริการที่สนใจ รวมถึงดูคะแนนเรตติ้งออนไลน์ก่อนที่จะสั่งซื้อและทำธุรกิจกับบริษัทที่ไม่คุ้นเคย เหตุผลนี้ทำให้ภารกิจการตรวจคะแนนและรีวิวบนโลกออนไลน์เป็นงานที่สำคัญมาก มากแบบมากเป็นพิเศษเลย
🔸️ความน่าสนใจคือแบรนด์สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากรีวิวเหล่านี้ได้ ไม่เพียงแค่ติดลิงก์เว็บไซต์ของแบรนด์ที่รีวิว แต่ยังมีขั้นตอนอื่นที่สามารถกระตุ้นให้ลูกค้ามีมุมมองใหม่ เพื่อเพิ่มแนวโน้มที่จะทดลองใช้สินค้าหากกลุ่มเป้าหมายได้เห็นคำชมเหล่านั้น
🔸️นอกจากคำชม เสียงบ่นต่อว่าก็ยังสามารถเสริมพลังให้ธุรกิจได้ด้วย เพราะรีวิวไม่ว่าจะบวกหรือลบ ก็ล้วนเผยให้เห็นโอกาสในการพัฒนาบริการให้ดีขึ้นด้วย
การสำรวจฟันธงมาแล้วว่า รีวิวออนไลน์เพียง 5 รีวิวสามารถเพิ่มโอกาสในการซื้อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ได้ถึง 270%
แค่ 5 รีวิวเท่านั้น! ฟังดูแล้วง่ายมาก เสียงวิจารณ์จากลูกค้าที่แฮปปี้สร้างได้ทั้งความไว้วางใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย แถมยังเป็นเครื่องมือทรงพลังที่สามารถส่งผลโดยตรงต่อกำไรได้ด้วย เหตุผลของเรื่องนี้อยู่ที่พฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตอยู่บนอินเทอร์เน็ตหลายชั่วโมงต่อวัน ทำให้มีโอกาสได้เห็นและได้ยินเสียงที่พูดถึงสินค้าหรือบริการใหม่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่เพียงแค่อ่านหรือดู แต่ยังปักใจเชื่อด้วย โดยคน 84% ยอมรับว่าเชื่อถือบทวิจารณ์ออนไลน์มากพอกับคำแนะนำจากเพื่อนแบบส่วนตัว
แต่ปัญหาคือ มีโอกาสสูงมากที่เสียงจากรีวิวจะส่อไปทางลบแบบที่แบรนด์ไม่ได้คาดหวัง การสำรวจพบว่า “ลูกค้าที่ไม่พอใจ” จะบอกเล่าประสบการณ์แง่ลบที่ได้เจอให้กับผู้คนราว 9-15 ครั้ง แน่นอนว่ารีวิวทางออนไลน์เป็นหนึ่งในช่องทางระบายความไม่พอใจออกมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป เสียงรีวิวแง่ลบอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจ เพราะการสำรวจชี้ว่าคน 94% เชื่อในเสียงวิจารณ์เชิงลบบนออนไลน์ ซึ่งทำให้อาจจะหลีกเลี่ยงธุรกิจนั้นไปโดยปริยาย
ดังนั้นทุกแบรนด์จึงควรหาทาง “เพิ่มความแข็งแกร่ง” ให้มั่นใจได้ว่า รีวิวและเรตติ้งออนไลน์ของแบรนด์จะสามารถเพิ่มความสามารถในการค้นพบและรู้จักสินค้าจนเพิ่มยอดขายได้ เรื่องนี้เว็บไซต์ econsultancy.com ได้กล่าวถึง 6 ขั้นตอนที่แบรนด์ต้องดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจของตัวเองจะได้รับผลตอบแทนจากโปรแกรมเรตติ้งและรีวิว
1) เริ่มที่เป้าหมาย
การกำหนดเป้าหมายอาจทำได้ด้วยการมองประเด็นปัญหา และภาพรวมเป้าหมายในปัจจุบันที่ต้องการ บางแบรนด์อาจวางเป้าหมายในเว็บไซต์รีวิวแบบ UGC ที่ผู้ใช้สร้างรีวิวนั้นขึ้นมาเอง ว่าต้องการเพิ่มเนื้อหารีวิวสินค้าใหม่แบบแจ่มๆ เพื่อให้รับกับการเปิดตัวสินค้าใหม่จนประสบความสำเร็จได้ทันที ซึ่งรีวิวที่โดดเด่นจะช่วยเพิ่มคมเล็บให้แข่งขันกับคู่แข่งได้ดีกว่า แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ทำให้ปริมาณการค้นหาพุ่งกระฉูด
บางแบรนด์เลือกวางเป้าหมายที่การสร้างประสบการณ์ในทุกช่องทาง ขณะที่วางแผนปรับปรุงการมีส่วนร่วมของลูกค้าไปด้วย หรืออาจจะตามหาสาเหตุของปัญหาในสินค้าบางอย่างเพื่อลดอัตราการคืนสินค้า
2) เลือกพันธมิตรที่เหมาะสม
แบรนด์ควรลงทุนเพื่อเลือกพันธมิตรด้วยความรอบคอบ โดยอาจจะสร้างรายการคำถามเพื่อประเมินพันธมิตรผู้สร้างเนื้อหาและเปรียบเทียบกันกับพันธมิตรรายอื่นๆ
สิ่งที่แบรนด์ควรหวังจากพันธมิตรครีเอเตอร์ คือการเสนอ User Generated Content (UGC) ในแบบที่เหมาะสม พันธมิตรรายนั้นควรจะเป็นตัวจริงที่ทำงานกันยาวๆ ตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึงผลักดันการเติบโต จะดีมากถ้าตัวจริงที่ว่านี้สามารถแสดงให้เห็นถึงวิธีการตัดสินใจทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยลูกค้าอย่างชาญฉลาด และสามารถพาลูกค้ามาชมรีวิวได้มากขึ้นในช่วงเวลาสำคัญที่ลูกค้าต้องตัดสินหรือในสถานที่ที่ลูกค้าอยากซื้อ
พันธมิตรที่ดีจะทำให้แบรนด์ได้รายงานคุณภาพ ที่จะช่วยให้แบรนด์คิดค้นโซลูชัน คุณสมบัติ และฟังก์ชันการทำงานที่ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนั่นนำไปสู่ขั้นตอนที่ 3 ต่อไป
3) การสร้างรีวิว
ในเมื่อผู้คนกว่า 70% บอกว่าจะไม่ซื้อสินค้าที่ไม่มีรีวิว ดังนั้นจำนวนรีวิวที่มากขึ้นย่อมหมายถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มากขึ้น รวมถึงเพิ่มการซื้อ และทวีคูณประโยชน์จากการทำ SEO และกองทัพข้อมูลเชิงลึกที่มากขึ้น ด้วยเหตุนี้แบรนด์จึงพยายามรวบรวมรีวิวจากลูกค้าอย่างกระตือรือร้น เพื่อเพิ่มปริมาณ และอัปเกรดความสดใหม่ให้รีวิว ซึ่งมีความสำคัญมากในการส่งอิมแพคต่อยอดขาย
วิธีหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดในการสร้างยอดรีวิว คือการใช้อีเมลหลังการซื้อ ที่ส่งถึงลูกค้าหลังจากที่เกิดการซื้อไปแล้ว ทำให้ผู้ซื้อล่าสุดสามารถแชร์ความคิดเห็นได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
4) ควรทำทุกวัน
แบรนด์ควรทำคือการให้เวลาในการตรวจสอบรีวิวทุกวัน เพราะองค์กรที่ประสบความสำเร็จสูงมักมีทีมในการจัดการรีวิวและเรตติ้งออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้อมูลใหม่ที่จำเป็นต้องตรวจสอบและปรับปรุงอย่างทันท่วงที
5) หยิบ UGC เหล่านี้มาตกผลึก
เพื่อระบุและกรองเอาข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปใช้พัฒนาจริง เพราะไม่มีวิธีใดที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว สำหรับแบรนด์และธุรกิจที่จะทำความเข้าใจผู้บริโภคจากการรวบรวมข้อเสนอแนะจากลูกค้าโดยตรง ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะทำให้แบรนด์สามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้น แม้แต่รายละเอียดเล็กน้อยในรีวิวก็สามารถช่วยให้แบรนด์เพิ่มความแตกต่างในการออกแบบสินค้าให้เหนือกว่าคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นี่เองที่ทำให้เสียงรีวิวทั้งที่ดีและไม่ดีสามารถเสริมพลังให้ธุรกิจได้ โดยเฉพาะรีวิวที่เป็นแบบเรียลไทม์ที่จะเผยให้เห็นโอกาสในการให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น ตั้งแต่การบริการ ไปจนถึงการจัดหมวดหมู่สินค้า
6) การติดตามวัดผล ROI
ข้อนี้ขอให้อย่ากังวลกับตัวเลขสถิติที่ไม่ชวนมอง เพราะการวัดผลที่สำคัญที่สุดจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์หลักที่ตั้งไว้ การวัดผลอาจใช้วิธีกำหนดช่วง ผ่านเครื่องมือที่แตกต่างกันเพื่อวัดอิมแพคของ UGC ที่เพิ่งสร้างหรือเกิดขึ้นมา ซึ่งจะวัดได้ว่าอัตรา conversion rate, engagement และความคุ้มทุนลักษณะไหนที่ควรจะต่อยอดหรือปรับปรุงให้ดีขึ้น
หากทำครบ 6 ขั้นตอน แบรนด์ก็อาจเพิ่ม ROI ให้ “เรตติ้งและรีวิว” กลายเป็นโอกาสที่จับต้องได้จริงแบบที่คาดไม่ถึงทีเดียว
ติดตามความรู้ดีๆ จาก SHiFT Your Future ในช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่:
LINE: @shiftyourfuture หรือ https://bit.ly/3jgkLnC
Facebook: https://bit.ly/2BKPB8x
Linkedin: https://bit.ly/3kf2wR5
YouTube: https://bit.ly/2HfWGAy
- 83
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
