26 ก.ย. 2020 เวลา 08:43 • ความคิดเห็น
โดยส่วนตัวนะ
ความรักเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า มันคือความรักที่แท้จริง ลองมาอ่านบทความนี้กัน
เคยตั้งคำถามกันหรือไม่ว่า “ความรัก” จริงๆ แล้วนิยามของมันที่แท้จริงคืออะไร หรือเราสามารถยินดีกับความเจ็บปวดกับความรักที่ต้องเผชิญได้อย่างเข้าใจ หรือเป็นผู้ให้ความรักกับใครสักคนได้อย่างหมดหัวใจได้อย่างไม่หวังอะไรตอบแทนได้หรือไม่..
“ใครนิยาม” ความหมายหรือคำจำกัดความเหล่านั้น ความรู้สึกนั้นขึ้นมา ไม่มีใครบอกเราได้
แต่ทฤษฎีแห่งการจูงใจของมาร์ชโลว์ (Maslow)
.. จำนามสกุลไม่ได้..😁
กล่าวถึง ความต้องการ ไว้ว่า
มนุษย์มีความต้องการอย่างอื่นที่สูงขึ้นไป จะเริ่มปรากฏเมื่อความต้องการทางร่างกายได้รับการสนองตอบเพียงพอแล้วและความต้องการอย่างอื่นก็จะเข้ามาแทนที่..
ความต้องการนี้มีอยู่ตลอดเวลาเป็นกระบวนการที่ไม่มีที่สิ้นสุดเริ่มตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย โดยจะเรียกร้องความต้องการมากขึ้นไปอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั่นคงไม่ต่างอะไรกับความรัก ที่เป็นความรู้สึกพื้นฐานเรามนุษย์อย่างเราๆ เรียกร้องที่จะได้รับ จะว่าไปแล้วมันทำให้เกิดคำถามขึ้นมาในใจของเราว่า ความรักที่สมบูรณ์แบบโดยไม่มีการเรียกร้องความรักอีกนั้นมีจริงหรือไม่ หรือเราจะสามารถรักได้อย่างหมดหัวใจโดยไม่เรียกร้องใดๆ ยินดีรับความเจ็บปวดไว้แต่เพียงผู้เดียว..
 
ความรัก
 
หากเอื้อนเอ่ยในมุมมองของความรัก ชีวิต ความเศร้าโศก แน่นอนว่านักปราชญ์ที่ทั่วโลกยกย่อง อย่าง คาลิล ยิบราน (Kahlil Gibran) ได้มอบตัวอักษร ไว้เป็นมรดกทางปัญญาแด่คนรุ่นหลังในการพบสัจจะแห่งชีวิต เอาไว้ว่า.
เมื่อความรักร้องเรียกเธอจงตามมันไป
แม้ว่าทางของมันนั้นจะขรุขระและชันเพียงไร
และเมื่อปีกของมันโอบรอบกายเธอ จงยอมทน
แม้ว่าหนามแหลมอันซ่อนอยู่ในปีกนั้นจะเสียดแทงเธอ
และเมื่อมันพูดกับเธอ จงเชื่อตาม
แม้ว่าเสียงของมันจะทำลายความฝันของเธอ
ดังลมเหนือพัดกระหน่ำสวนดอกไม้ให้แหลกลาญไปฉะนั้น
ความรักจะกระทำสิ่งทั้งหมดนี้แก่เธอ
เพื่อว่าเธอจะได้หยั่งรู้ความลับของดวงใจเธอเอง
และด้วยความรู้นั้นเธอก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของดวงใจแห่งชีวิตอมตะ..
แต่ถ้าหากด้วยความกลัว
เธอมุ่งแต่แสวงหาความสงบสุขและความสำราญจากความรัก
ก็จะเป็นการดีกว่าที่เธอควรจะปกคลุมความเปลือยเปล่าของตน
และหลีกหนีออกไปเสียจากลานบด
ไปสู่โลกอันไร้ฤดูกาล
ที่ซึ่งเธอจะหัวเราะก็ไม่เต็มที่และ
จะร้องไห้ก็ไม่เต็มที่..
ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง
และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง
ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมให้ถูกครอบครอง
เพราะความรักนั้นเพียงพอแล้ว
สำหรับตอบความรัก..
 
นี่คือข้อความเพียงแค่บาส่วนจากหนังสือเรื่อง The Prophet หรือปรัชญาชีวิต ที่ถูกแปลโดย ระวี ภาวิไล ให้เราทำความเข้าใจความจริงที่เกี่ยวกับความรักที่สอดคล้องกับคติความรักของ
ตือ โป๊ยก่ายในเรื่องไซอิ๋วว่า..
“ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ใจขื่นขม ระทมชั่วนิรันดร์”
นั่นหมายความว่าต่อให้เรามีความรัก นอกจากความสุขจนเปี่ยมล้นแล้ว เรายังต้องพบเจอกับความทุกข์ ที่เกิดจากความคาดหวัง ความต้องการ ที่ไม่มีที่สิ้นสุดนั่นเอง แต่แท้จริงแล้วถ้าเราไม่คาดหวัง เราตื่นรู้ในเรื่องความรักแท้ และเข้าใจความหมายของมันอย่างลึกซึ่ง เราจะพบว่า ความรักไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน ไม่ต้องการการครอบครอง ไม่ยอมให้ถูกครองครอง..
เพราะความรักที่มีแต่การให้นั้นเพียงพอแล้วกับนิยามของความรักในตัวเอง
เเละถ้าวันใดคุณรักตัวเองได้มากพอเเล้ว
ตัวคุณเองนั้นเเหละจะอนุญาตให้คงามรักขอใครสักคนเข้ามาเติมคำว่ารักของคุณให้เต็มเอง
ที่มา 👇
คือน้ำผึ้งคือน้ำตาคือยาพิษ
คือหยาดน้ำอมฤตอันชื่นชุ่ม
คือเกสรดอกไม้คือไฟรุม
คือความกลุ้มคือความฝัน...นั่นแหละรัก
รักเอย..

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา