3 ต.ค. 2020 เวลา 01:24 • ท่องเที่ยว
Summer Iceland 2018 (17) .. Oxi Pass และ Dittifoss น้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป
ฉันเชื่อว่า หลายคนมีฝัน แต่ไม่กล้าที่จะเดินออกจากที่ที่คุ้นเคย จากคนแวดล้อมที่คุ้นหน้า … เมื่อคืนวันผ่านไป ความฝันแห้งเฉาเหงาโรย กระทั่งบางคราวอาจจะไม่รู้ตัวว่า ทุกเช้าที่ลืมตา ชีวิตขับเคลื่อนโดยแรงกดดันจากรอบข้าง หรือแรงขับขานจากข้างใน
เราเดินทางต่อผ่านถนนที่ว่ากันว่าเป็นทางลัดที่จะช่วยย่นระยะทางได้ นั่นคือผ่านมาที่ ออกซี่พาส (Oxi Pass) ซึ่งจะเปิดเฉพาะช่วงฤดูร้อน ณ ระดับความสูง 539 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
เส้นทางบน Oxi Pass เป็นเส้นทางบนภูเขาชื่อ Axarvegur (939) ค่อนข้างจะห่างไกลจากชุมชนมาก ในพื้นที่ Eastern Iceland … เป็นทางกรวดและลูกรังอัดบดแน่นบนภูเขาสูง เมื่อมีหิมะปกคลุมจะลื่นมากๆ จนอาจจะเกิดอันตรายได้ง่ายสำหรับรถขนาดเล็กและกลาง …
ว่ากันว่า เคยเกิดกรณีร้ายแรงที่นักท่องเที่ยวที่ใช้ระบบ GPS ในการนำทาง และระบบแนะนำให้ใช้เส้นทางนี้ (ต้องเข้าใจด้วยว่า การทำงานของระบบ GPS จะเสนอแนะให้ใช้เส้นทางที่สั้นที่สุด ระบบจะไม่รู้เรื่องอื่นๆ เช่น สภาพของเส้นทาง เป็นต้น) จนต้องติดอยู่ท่ามกลางพายุหิมะเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่ยังโชคดีที่ความช่วยเหลือมาทันเวลา
ดังนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ ติดตามข้อมูลเรื่องการใช้เส้นทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว หรือในช่วงเวลาที่ภาวะอากาศแปรปรวน ด้วยอาจจะเกิดหิมะถล่ม แลนด์สไลด์ขึ้นได้ … การเดินทางบนเส้นทางที่คดเคี้ยวลัดเลาะขึ้นลงภูเขา ความระมัดระวังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ทิวทัศน์ในช่วงฤดูร้อน เมื่อรถไต่ความสูงขึ้นมา บริเวณนี้สวยงาม … เมื่อยืนบนหน้าผา แล้วมองกลับไปจะเห็นความงดงามในส่วนของ East Fjord ที่เราเพิ่งจะผ่านมา อีกด้านหนึ่งมีภูเขาสูงเสียดฟ้า และโตรกหินที่มีน้ำตกสวยๆให้โพสท่าถ่ายรูปเก๋ๆไปอัพเดทสเตตัส
… ไอซ์แลนด์เกิดจากภูเขาไฟและธารลาวา อยู่ในเขตหนาวจัดมานานนับพันๆปี จึงมีกลาเซียร์ขนาดมหึมา และภูเขาสูงมากมาย
หน้าร้อนเป็นช่วงที่ธารน้ำแข็งละลาย น้ำตกสองข้างทาง จึงมีนับไม่ถ้วน และล้วนแต่อลังการกว่าน้ำตกแถวบ้านเรา… เหล่านี้ ให้อารมณ์ที่สดใส และสร้างความรื่นรมย์ในการเดินทางไกลมากมาย
ออกซี่พาส ได้ชื่อว่า ดินแดนร้อยน้ำตก .. สองข้างทางเต็มไปด้วยสายน้ำตกที่ไหลมาจากส่วนบนของเทือกเขา มีทั้งน้ำตกขนาดใหญ่ ขนาดกลางที่สวยงาม และน้ำตกสายเล็กๆที่ไม่มีชื่อ แต่สวยงามด้วยธรรมชาติรอบข้าง ดูแล้วเพลินดี
… แต่ความอันตรายของเส้นทางนี้ นอกจากสภาพของถนนแคบๆที่เป็นกรวดและดินอัดบดแล้ว ยังมีโค้งมากมายให้ทอสอบทักษะของการขับรถบนที่สูง รวมถึงอาจจะลื่นช่วงฝนตกและมี Blind Curve ด้วย
จากนี้เราจะเข้าสู่ดินแดนที่เรียกว่า The Great North กันแล้วค่ะ
สิ้นสุดเส้นทางของ Oxi Pass … เราแวะมาซื้อเสบียงที่เมือง Egilsstodir ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาค Eastern Iceland
จากนั้นเรามุ่งหน้าเพื่อไปชมน้ำตกที่ได้ชื่อว่า ทรงพลังที่สุดในยุโรปค่ะ
น้ำตก Dittifoss
Dittifoss เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางที่เรียกว่า Diamond Circle เป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าทรงพลังมากที่สุดในยุโรปที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ กว้างราว 100 เมตร สูง 44 เมตร ไหลลงสู่ Jökulsárgljúfur canyon โดยไม่มีการแต่งเติมสิ่งก่อสร้างใดๆ
ภาพจาก Internet
น้ำตกตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Vatnajokull ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของไอซ์แลนด์
น้ำตก Dittifoss เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำ Jökulsá á Fjöllum ซึ่งไหลมาจากธารน้ำแข็งยักษ์ Vatnajökull glacier แล้วเก็บสะสมน้ำมาเรื่อยตลอดระยะทางที่ผ่านพื้นที่กว้างใหญ่ของทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร ก่อนที่จะไหลลงสู่ Jökulsárgljúfur canyon ด้วยปริมาณน้ำ 193 ลบ. ม. ต่อวินาที
Jökulsárgljúfur canyon เป็นพื้นที่ที่มีน้ำตก 3 สายเรียงกันในยาวไม่ถึง 3 กิโลเมตร คือ Selfoss / Dettifoss / Hafragilsfoss
ความยิ่งใหญ่ของน้ำตก Dittifoss เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนบทเพลงคลาสสิก "Dettifoss" (Op. 57) โดย Jón Leifs รวมถึงเคยเป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์แนวอิงวิทยาศาสตร์เรื่อง Prometheus
การเข้าสู่น้ำตกนี้ทำได้ 2 ทางคือ โดยทางตะวันตกใช้ถนน Route 862 ซึ่งสร้างในปี 2011 ซึ่ง ณ จุดชมวิวจะมีศูนย์ข้อมูล ห้องน้ำ และวิวที่สวยงาม …
ส่วนทางด้านตะวันออกซึ่งเป็นถนนเก่าเส้นทาง Route 864 ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ และอาจจะมีละอองน้ำมาบดบังทิวทัศน์ได้ แต่คุณจะได้ใกล้ชิดกับน้ำตกมากกว่า
เราใช้ถนน Route 864 เข้าสู่น้ำตก ซึ่งเป็นถนนลูกรัง มีกองหินวางเป็นระยะๆ แยกออกมาจากทางสายหลัก (Route 85) หลายคนเล่าว่าหากเดินทางมาที่นี่ในฤดูหนาวจะค่อนข้างอันตราย สภาพถนนจะลื่นจริงจังจากหิมะและดินโคลน ต้องขับรถด้วยความตื่นตัวตลอดเวลา และระมัดระวังอย่างยิ่ง ..
พอมาถึงน้ำตก Dettifoss ทั่วบริเวณเป็นลานหินกว้างใหญ่ มีทางเดินที่ทำอย่างง่ายๆลงเขาไปยังน้ำตก แต่ด้วยเป็นสโลปที่สูงกว่าตัวน้ำตก จึงทำให้มองเห็นน้ำตกได้ตลอดทาง ซึ่งจะเป็นมุมที่มองไม่เห็นหากคุณไปชมน้ำตกนี้ทางฝั่งตะวันคก
น้ำตก กว้างใหญ่และทรงพลังสมคำร่ำลือ ชั้นของน้ำตกที่ไหลลงมามีปริมาณน้ำราว 400 ล้านลูกบาศน์เมตรต่อวินาทีในช่วงฤดูแล้ง แต่หากเป็นช่วงน้ำหลาก ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเลยทีเดียว
… ความยิ่งใหญ่ของน้ำตกที่ไหลลงมากระทบชะง่อนหิน สามารถมองเห็นละอองน้ำกระเซ็นขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นละอองฝอยยาวนับเป็นกิโลเมตรที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า … เป็นความสวยงาม คุ้มค่าที่ดั้นด้นเดินมาด้วยความลำบาก
ฟ้าหม่น ทำให้ถ่ายรูปได้ไม่สวยนัก แต่ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ได้มาเห็นน้ำตกที่ทรงพลังอย่างยิ่งสายหนึ่งของโลก แม้จะเป็นรองอภิมหาน้ำตกอย่าง ไนแองการ่า หรือ อีกัวซู อยู่บ้าง
การได้มาสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ทรงพลังของน้ำตกแห่งนี้ ทำให้เราสำนึกว่า มนุษย์เรานี่ช่างเล็กกระจิดริดนัก อย่าได้ไปอาจหาญเหิมเกริมต่อกรกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
Note : เส้นทางนี้สามารถเที่ยวให้ครบได้ทั้งสามน้ำตก และจะมีของแถมคือ การได้เห็นแม่น้ำ 3 สีในที่เดียว ที่เกิดจาก น้ำสีขุ่นจากน้ำตก + น้ำสีฟ้าจากลาวาใต้ดิน + ทรายสีดำที่ผุดขึ้นมาจากการที่น้ำสองสายมาชนกัน
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปกับ พี่สุ
ท่องเที่ยวทั่วโลก กับพี่สุ
ซีรีย์เที่ยวเจาะลึก ประเทศนอร์เวย์
Iceland ดินแดนแห่งน้ำแข็งและเปลวไฟ
Lifestyle & อาหารการกิน แบบพี่สุ
สถานีความสุข by Supawan
โฆษณา