11 ต.ค. 2020 เวลา 13:56 • สุขภาพ
ห้ามเข้า"แม่สอด"!
พบติดโควิด3ราย
ส่งด่วน"รถตรวจ"ลงพื้นที่
จากที่เมื่อ 10 ต.ค.2563 มีการรายงานตรวจพบคนขับรถชาวเมียนมา 2 รายติดโควิด19 ก่อนที่วันที่ 11 ต.ค. กรมควบคุมโรคจะแถลงว่าพบเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 3 ราย ไม่มีอาการ โดยทั้งหมดได้รับการส่งตัวไปรักษาในรพ.เมียวดีแล้ว
ซึ่งเป็นผลจากแผนการฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคบริเวณพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้วยการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงที่เป็นพนักงานขับรถขาเข้าไทยและเมียนมา ระหว่างวันที่ 8-9 ตุลาคม 2563 จำนวน 115 ราย เจอติดเชื้อ 2 ราย
ส่วนรายที่ 3 นั้น ตรวจเจอวันที่ 10 ตุลาคม 2563 จากที่ได้เข้าตรวจเชิงรุกคัดกรองแรงงานเมียนมาและคนไทยในชุมชนฝั่งไทยจำนวน 74 คน ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธี RT-PCR พบผลเป็นลบแล้ว 60 ราย ผลเป็นบวก 1 ราย เป็นพนักงานขับรถชาวเมียนมาเช่นกัน
ไทม์ไลน์ จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ติดเชื้อ 2 รายเดินทางมาจากเมืองเมียวดีเข้าไทยวันที่ 9 ต.ค โดยรายที่ 1 เดินทางเข้าไทย รอบเช้า 10.00 น. รอบบ่าย 15.00 น. ไปที่โกดังอาลี แยกขายปลาตลาดพาเจริญ และโกดังสิงห์รุ่งเรือง
รายที่ 2 เดินทางเข้า 10.00 น. ออกจากด่าน 16.00 น. ไปยังโกดังสิงห์รุ่งเรืองแห่งเดียว อยู่ในประเทศไทยไม่เกิน 7 ชั่วโมงตามมาตรการที่กำหนด และรายที่ 3 เข้าไทยในวันที่ 10 ต.ค.
ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในฐานประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจ.ตาก มีคำสั่งลงวันที่ 10 ตุลาคม 63
ให้รถยนต์บรรทุกสินค้าจากเมียนมาข้ามแดนมาส่งสินค้าในเขตไทยตามสถานที่รัฐกำหนดให้
และห้ามเข้าเมืองแม่สอด
หากอยู่เกิน 7 ชั่วโมงต้องเข้ารับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 63 เป็นต้นไป
สำหรับพื้นที่ขนถ่ายสินค้า ทางจังหวัดตากได้กำหนดไว้ที่บริเวณด่านพรมแดนไทย-เมียนมา 2 บ้านวังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดพนักงานขับรถชาวเมียนมาทั้ง 3 ราย ในฝั่งไทยพื้นที่จะดำเนินการสอบสวนโรคให้ได้ข้อมูลต่อไป เบื้องต้นคาดว่ามีประมาณหลักร้อยคน
กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กำหนดให้มีการเฝ้าระวังเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยได้ส่งทีมสอบสวนโรคจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเข้าไปสนับสนุนการดำเนินงาน รวมถึงจัดรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน 3 คัน ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างผู้สัมผัสในฝั่งไทยที่โกดังอาลี และโกดังสิงห์รุ่งเรือง
ส่วนอีกคันพื้นที่จะเป็นผู้เลือกจุดให้บริการ สนับสนุนชุดตรวจน้ำยาจำนวน 1,000 ชุด และชุดตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกันหรือ Rapid Test จำนวน 2,000 ชุด เพื่อให้มีวัสดุอุปกรณ์ใช้อย่างเพียงพอ ควบคุมสถานการณ์ให้เร็วที่สุด
คนในอ.แม่สอด สามารถเข้ารับการเก็บตัวอย่างด้วยการแยงจมูก เพื่อตรวจหาโควิด19ได้ฟรี!!!
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าในช่วงแรกที่เมียนมาเริ่มมีการระบาดโควิดราวต้นเดือนก.ย.นั้น รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานเคลื่อนที่พร้อมระบบสารสนเทศ ได้ลงพื้นที่คัดกรอง ตรวจหาคนติดโควิด19ที่อ.แม่สอด เป็นการการค้นคนติดเชื้อในชุมชนมาแล้ว
จำนวน 2,636 ราย ประกอบด้วยคนไทย 1,368 ราย และประเทศเพื่อนบ้าน 1,268 ราย ในช่วงวันที่ 8-9 กันยายน 2563 ให้ผลลบทั้งหมด
ซึ่งรถนี้มีศักยภาพเก็บตัวอย่างส่งตรวจเชื้อได้ถึงวันละราว 1,000 คน
ทั้งนี้ จากไทม์ไลน์ ทั้ง 3 ราย โดย2 รายเข้าอ.แม่สอดวันที่ 9 ต.ค. และสามารถตรวจเจอคนติดเชื้อและรายงานในวันที่ 10ต.ค. และรายที่3เข้าวันที่ 10 ต.ค. ตรวจเจอและรายงานวันที่11ต.ค.
นับว่าการตรวจพบพนักงานขับรถขนส่งสินค้าชาวเมียนมาติดเชื้อโควิด 19 กรมควบคุมโรคสามารถดำเนินการติดตามได้ภายใน 24 ชั่วโมง ถือว่าทันเหตุการณ์ และมีความเสี่ยงน้อย
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เคยอธิบายว่า หากดำเนินการสอบสวนควบคุมโรคล่าช้าน้อยกว่า 1 วัน หรือตรวจเจอหลังมีผู้ป่วยเกิดขึ้นแล้ว 1 วัน จะมีประสิทธิผลในการควบคุมโรคเหลือ 79.9%
แต่หากล่าช้าถึง 3 วัน ประสิทธิผลเหลือ 41.8% ลดลงมาถึงครึ่ง และหากล่าช้าถึง 7 วัน ประสิทธิผลจะเหลือเพียง 4.9% เพราะฉะนั้น การตรวจเจอผู้ติดเชื้อได้เร็ว จะส่งผลโดยตรงต่อการควบคุมโรคไม่ให้ระบาดและแพร่ออกไปในวงกว้าง
สิ่งที่คนไทยยังต้องร่วมมือ คือ การ์ดอย่าตก คงมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ขอให้รักษามาตรการป้องกัน ตระหนักแต่ไม่ตระหนกขอให้รับฟังข่าวสารทางการจากกระทรวงสาธารณสุขและจังหวัด
ขอบคุณภาพจากสำนักป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง(สปคม.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธาณสุข

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา