11 ต.ค. 2020 เวลา 15:32 • ข่าว
ย้อนรอย "รถไฟชนรถบัสทอดกฐิน" เปิดข้อมูลตั้งแต่ล้อหมุนถึงวินาทีเกิดเหตุ
จากกรณีเกิดเหตุ "รถไฟชนรถบัสทอดกฐิน" เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 18 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบว่า ในวันเดียวกัน (11 ต.ค.63) กรมการขนส่งทางบก ได้ออกเอกสารเผยแพร่กรณีที่กรมการขนส่งทางบก โดยขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ กรณีเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2563 เกิดอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 5102 ชนรถโดยสารไม่ประจำทางคันหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 18 ราย และมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณจุดตัดทางข้ามรถไฟสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรานั้น
จากข้อมูลเบื้องต้น กรมการขนส่งทางบกตรวจสอบราย ทราบว่ารถบัสโดยสารคันดังกล่าว เป็นรถโดยสารไม่ประจำทางคันหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา บรรทุกผู้โดยสารเป็นพนักงานบริษัท เพอร์เฟคโปรดักซ์ จำกัด จำนวน 57 ราย ออกจากจังหวัดสมุทรปราการเวลา 06.30 น. มุ่งหน้าไปทอดกฐินที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 08.05 น. ขณะกำลังขับผ่านจุดตัดทางข้ามรถไฟที่ไม่ทีเครื่องกั้น พนักงานขับรถบัสโดยสารสังเกตเห็นรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 5102 กำลังเล่นมาด้วยความเร็วและพนักงานขับรถบัสโดยสารพยายามหยุดรถแต่รถเกิดลื่นไถลพุ่งไปชนกับหัวขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จำนวน 18 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 39 ราย นำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธโสธร และโรงพยาบาลบ้านโพธิ์แล้ว
รถโดยสารไม่ประจำทาง ลักษณะรถโดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา วันสิ้นอายุภาษี 30 กันยายน 2563 ตรวจสภาพครั้งสุดท้ายวันที่ 8 ตุลาคม 2562 โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชื่อผู้ประกอบการห้างหุ้นส่วนจำกัด รวิสรา เอ็กซ์เพรส ใบอนุญาตประกอบการเลขที่ อย. 42/2563 วันสิ้นอายุใบอนุญาต 21 กุมภาพันธ์ 2568 เบื้องต้นรถมีประกันภัยประเภท 3 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด สิ้นอายุวันที่ 30 กันยายน 2564
พนักงานขับรถ ชื่อนายบุญส่ง สวนยิ้ม ใบอนุญาตขับรถทุกประเภทชนิดที่ 2 เลขที่ใบอนุญาต 01068/39 ออกโดย สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ วันอนุญาต 28 พฤศจิกายน 2539 วันสิ้นอายุ 26 ธันวาคม 2563 (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ)
ส่วนความเร็ว ตรวจสอบโดยระบบ GPS ครั้งสุดท้ายตรวจสอบเวลา 08.05.27 น. 44 กม./ชม. และไม่พบความเร็วเกินและไม่พบชั่วโมงการทำงานเกินในวันที่ 11 ตุลาคม 2563
ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุเบื้องต้นรถที่เกิดเหตุมีประกันไว้ 2 ประเภท คือ
1.มีประกัน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ หมดอายุ 30 ก.ย.2564
2.มีประกันภัยประเภท 3 บ.สินมั่นคง หมดอายุวันที่ 30 ก.ย.2564
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบการ เบื้องต้นพบฐานความผิดดังนี้
1. บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ตามมาตรา 32(3) , 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
2. ใช้รถทำการขนส่งโดยไม่ชำระภาษีประจำปีให้ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรา 71(2), 148 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
3.ผู้ประกอบการขนส่งไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัย ตามมาตรา 36, 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ดำเนินการเรียกตัวผู้ประกอบการ มาสอบสวน พิจารณาลงโทษต่อไป
By จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง
โฆษณา