ไม่แคร์ฝรั่งเหมือนก่อน
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
พ.ศ.2562 คนที่ไปลงทุนในกัมพูชาเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตสินค้าส่งไปสหภาพยุโรปตกใจที่สหภาพยุโรประงับสิทธิพิเศษทางการค้าของกัมพูชา ทำให้สินค้าจากกัมพูชาที่จะไปขายยุโรปต้องเสียภาษีเต็ม ภาษีเต็มทำให้สินค้าราคาสูง เมื่อราคาสูงก็ขายแข่งกับสินค้าประเภทเดียวกันที่มาจากประเทศอื่นได้ลำบาก
สหภาพยุโรปตัดจีเอสพีสินค้ากัมพูชาเพราะไม่พอใจเรื่องสิทธิมนุษยชนและการยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชาก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561
กัมพูชาเป็นสมาชิกประชาคมอาเซียน จีนมีข้อตกลงเอฟทีเอกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนอยู่แล้ว แต่พอถึงปลาย พ.ศ.2562 จีนและกัมพูชาก็เปิดเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี การเจรจาสำเร็จและลงนามกันไปแล้วเมื่อ 12 ตุลาคม 2563
จีนมองกัมพูชาเป็นมิตรประเทศ และให้ความช่วยเหลือกัมพูชาในทุกเรื่องตามที่กัมพูชาร้องขอ เมื่อสหภาพยุโรปเล่นงานกัมพูชา กัมพูชาก็ไม่ได้แคร์อะไร
เคยคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายกัมพูชา ท่านบอกว่าคบจีนดีกว่าคบฝรั่ง ตลาดใหญ่กว่า แถมอยู่ใกล้กว่า เงื่อนไขต่างๆ ก็มีน้อยกว่า
แต่ประเทศเล็กคบกับประเทศใหญ่ก็อาจจะมีข้อเสียเปรียบประเทศใหญ่มากมายหลายอย่าง เรื่องนี้ต้องดูกันละเอียดในทุกมิติด้วยครับ
แม้ว่าจะโดนโควิด-19 โจมตีเป็นประเทศแรก แต่จีนก็ฟื้นตัวได้ไว ในขณะที่อุตสาหกรรมการบินของประเทศอื่นมีปัญหาและประสบภาวะล้มละลาย แต่ของจีนกลับฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
เดือนกันยายนที่ผ่านมา ท่าอากาศยานของจีนหลายแห่งเปิดให้บริการด้วยเที่ยวบินมากกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณเที่ยวบินในช่วงเดียวกันของ พ.ศ. 2562
เที่ยวบินภายในประเทศในเดือนกันยายน 2563 เพิ่มขึ้นเสียด้วยซ้ำไปเมื่อเปรียบเทียบกับเที่ยวบินภายในฯ ของเดือนกันยายน 2562
วันชาติจีนคือ 1 ตุลาคม รัฐบาลจีนประกาศให้เป็นวันหยุดประจำชาตินาน 8 วัน ช่วง 8 วันนี่ถือว่าเป็นโกลเด้นวีคหรือสัปดาห์ทอง ผู้คนหยุดงานเพื่อไปเที่ยวและช้อปปิ้งกันทั้งประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ของจีนบอกว่าโกลเด้นวีค พ.ศ.2563 ผู้ประกอบการค้าปลีกและร้านอาหารทำยอดขายรวมได้มากถึง 1.6 ล้านล้านหยวน เป็นเงินไทยก็ 7.4 ล้านล้านบาท
ถ้าเปรียบเทียบช่วง 8 วันของปีนี้กับปีที่แล้ว ช่วง 8 วันของปีนี้ยอดขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มถึงร้อยละ 4.9
https://www.bbc.com/news/business-54414205
ช่วงหยุดยาว 8 วัน ชาวจีนออกมาท่องเที่ยวภายในประเทศมากถึง 637 ล้านคน สร้างรายได้ให้การท่องเที่ยวมากถึง 4.66 แสนล้านหยวน อย่างที่ผมเรียนรับใช้ไปหลายครั้งครับ ว่าหลังจากมีปัญหาการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ รัฐบาลจีนก็ปรับนโยบายเศรษฐกิจ หันมากระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ แล้วก็ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น
สถาบันการเงินยูบีเอสและบริษัทที่ปรึกษาไพรซ์ วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส ของตะวันตกออกมาให้ข้อมูลว่า ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ราคาหุ้นและธุรกิจเทคโนโลยี รวมทั้งธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพของจีนพุ่งอย่างนึกไม่ถึง ทำให้เศรษฐีจีน 2,000 คน มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จนมีเงินรวมกันในเดือนกรกฎาคม 2563 มากถึง 10.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 306 ล้านล้านบาท (มากกว่างบประมาณไทยทั้งปี 100 เท่า)
รวมยอดบริจาคของเศรษฐีจีน 200 คน ที่ให้รัฐบาลจีนเพื่อช่วยรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากถึง 7.2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.16 แสนล้านบาท
แค่คน 200 คน ก็บริจาคเงินช่วยวิกฤติโควิด-19 มากกว่า 2 แสนล้าน ซึ่งความเสียสละอย่างนี้หาไม่ได้ง่ายในหลายประเทศ
สมาพันธ์วิสาหกิจจีนและสมาคมผู้ประกอบการจีนออกมาให้ตัวเลขว่ารายได้รวมของ 500 บริษัทของจีนใน พ.ศ. 2562 คือ 80.02 ล้านล้านหยวน เป็นเงินไทยก็ 399 ล้านล้านบาท
ตัวเลขเม็ดเงินในอุตสาหกรรมต่างๆ ของจีน + ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมของรัฐบาลจีน ทำให้ผู้นำหลายประเทศไม่แคร์ฝรั่งมังค่าเหมือนก่อน
เอ็งมีปัญญาตัดสิทธิพิเศษสินค้าของข้าก็ตัดไป ข้าไม่กังวลสนใจ เพราะข้ามุ่งมั่นค้าขายกับจีน
จีนกับอาเชียน 10 ประเทศมีผู้บริโภคสูงถึง 2 พันล้านคน.
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
