20 ต.ค. 2020 เวลา 06:20 • ธุรกิจ
Perfect Moment
.
.
ยูจีน โอ'เคลลี่ (Eugene O'Kelly) ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทตรวจสอบบัญชียักษ์ใหญ่ KPMG ที่มีเครือข่ายไปทั่วโลก ได้ถ่ายทอดเรื่องราวช่วงสุดท้ายในชีวิตไว้ในหนังสือ “Chasing Daylight”
.
ยูจีนได้เขียนหนังสือเล่มนี้ขณะที่เขามีอายุ 53 ปี และกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตที่ยากจะเอาชนะ นั่นคือ “ความตาย”
.
ยูจีน โอ'เคลลี่ ใช้เวลา 53 ปีที่ผ่านมา ทำงานอย่างหนักจนประสบความสำเร็จ และได้เป็นผู้บริหารสูงสุดของ KPMG บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบบัญชี และภาษีระดับโลก
.
หากจินตนาการไม่ออกว่าเขาทำงานหนักขนาดไหน ในหนังสือเล่าว่า ครั้งหนึ่ง ยูจีนต้องการได้ Account ของ Investent Bank สาขาใหญ่ในออสเตรเลีย แต่เงื่อนไขคือเขาต้องประมูลแข่งกับบริษัทคู่แข่งอีก 4 บริษัท
.
ยูจีนต้องการที่จะพูดคุยกับประธานสาขาเพื่อยื่นข้อเสนอ แต่ประธานสาขายุ่งเกินกว่าจะให้เขาเข้าพบ ยูจีนจึงสอบถามไปยังเลขาของประธานท่านนั้นว่า ท่านมีแผนจะเดินทางไปที่ไหนหรือไม่ และขอเลขที่นั่งบนเครื่องบินมา
.
เมื่อยูจีนรู้ว่าประธานจะเดินทางไฟท์สั้นๆ จากซิดนีย์ไปยังเมลเบิร์น เขาจึงเดินทางจากสหรัฐอเมริกาไปยังซิดนีย์ โดยใช้เวลาเดินทาง 22 ชั่วโมง และขึ้นเครื่องบินจากซิดนีย์ไปยังเมลเบิร์นอีก 2 ชั่วโมง เพื่อพูดคุยกับประธานท่านนั้นในระหว่างบิน และทันทีที่ไปถึงจุดหมาย เขาก็นั่งเครื่องบินกลับสหรัฐฯ
.
หลังจากที่ยูจีนบินกลับไปถึงนิวยอร์คได้ไม่นานเขาก็ได้รับข่าวดีจาก Investment Bank แห่งนั้น KPMG ชนะการประมูลได้ Account สำคัญนั้นมา นี่เป็นเครื่องยืนยันว่ายูจีนทำงานอย่างหนัก และได้รับผลตอบแทนที่แสนคุ้มค่าเป็นการตอบแทน
.
.
ยูจีน โอ'เคลลี่ เป็นอีกหนึ่งคนที่มีสุขภาพแข็งแรงมาตลอด เขาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ และเข้านอนตรงเวลา เขาแทบไม่เคยป่วยเลยตลอดชีวิต แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดปวดหัวอย่างหนักจนถูกหามส่งโรงพยาบาล
.
ผลตรวจที่ออกมาทำให้ยูจีนรู้ว่าตัวเองกำลังป่วยเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย และเขาเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกเพียง 100 วันเท่านั้น
.
สิ่งแรกที่ยูจีนทำหลังจากเขารู้ตัวว่าเขากำลังจะจากโลกนี้ไปคือ การลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทและ CEO ของ KPMG ท่ามกลางความช็อคของพนักงานกว่าสองหมื่นคน
.
ยูจีนใช้เวลาช่วงสุดท้ายในชีวิตไปกับการลิสต์รายชื่อผู้คนที่เขารู้จักทั้งที่สนิท และไม่สนิท จากนั้นพยายามติดต่อทุกคนด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโทรหา เขียนอีเมล เขียนจดหมาย เพื่อบอกให้ทุกคนรู้ว่าครั้งหนึ่งยูจีนดีใจที่ได้ใช้เวลาไปพวกเขา รวมถึงขอบคุณ และขอโทษกับสิ่งต่างๆ ที่อาจทำผิดพลาดไป
.
.
ในบันทึกหน้าท้ายๆ ของยูจีน เขาพูดถึงความสัมพันธ์อันเรียบง่ายระหว่างเขาและคนรอบข้าง รวมถึงโมเมนต์ที่ประทับใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปทานข้าวกับเพื่อนสนิท ตีกอล์ฟกับพาร์ทเนอร์บริษัท ตั้งแต่คนวงนอกจนมาถึงคนสนิทอย่างครอบครัว ญาติพี่น้อง ภรรยา และลูกสาว
.
ยูจีนได้เขียนความตั้งใจสุดท้ายไว้ว่า เขาอยากพาลูกสาวไปเที่ยวกรุงปราก ที่สาธารณรัฐเช็ค แต่ตอนนี้เขาพบว่าตัวเองไม่มีแรงเหลือพอที่จะทำเช่นนั้น เขาจึงเปลี่ยนสถานที่ไปพักผ่อนที่ทะเลสาบทาโฮแทน
.
ยูจีนเขียนบันทึกไว้ว่า ช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนที่ทะเลสาบทาโฮ ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เขาได้ออกไปแล่นเรือกับครอบครัว ได้นั่งพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ นั่งดูคนตีกอล์ฟกับลูกสาว
.
ยูจีนบอกว่า คนมากมายต่างพูดกันว่าเขาจากโลกนี้เร็วเกินไป แต่เขากลับมองว่าตัวเองมีโอกาสได้ร่ำลาคนที่รัก มีโอกาสได้พูดคุยถึงสิ่งต่างๆ ที่ค้างคา ยูจีนมองว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดี
.
หลังจากที่เขียนบันทึกนี้จบยูจีนก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบ
.
.
ภรรยาของยูจีน โอ'เคลลี่ ได้เขียนสรุปบทเรียน 5 ข้อ ที่เธอได้รับจากช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตสามี
.
.
1. ยอมรับความพ่ายแพ้ในบางครั้ง : ยูจีน โอ'เคลลี่ เป็นคนเก่ง และสามารถหาทางออกให้กับปัญหาทุกเรื่องได้เสมอ แม้บางครั้งจะพ่ายแพ้ แต่เขาก็กลับขึ้นมาลุกได้อีกครั้ง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ “ความตาย” ที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ เขาก็ยินดีที่จะยอมรับมัน และใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตได้อย่างคุ้มค่า
.
.
2. ต้องมีมากแค่ไหน : ภรรยาของยูจีนเล่าว่า ในขณะที่ยูจีนมีชีวิตอยู่ เขามีทรัพย์สินมากมายที่คนอื่นๆ ล้วนอยากมี แต่เมื่อความตายเดินทางมาถึง เขากลับต้องการเพียง “เวลา” ที่จะอยู่กับครอบครัวเท่านั้น
.
.
3. จงมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน : หลังจากรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็ง เขาก็หันหลังให้กับอนาคตทั้งหมด และใช้เวลาอยู่กับปัจจุบันเท่านั้น เขาเริ่มมองหา Perfect Moment จากทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ฟังเสียงน้ำไหล ได้ทานอาหารอร่อยๆ หรือได้นั่งฟังภรรยาอ่านหนังสือ
.
.
4. พยายามตามหา Perfect Moment ทุกช่วงขณะ : ยูจีนใช้ชีวิตมากว่า 53 ปี แต่เขาเพิ่งค้นพบ Perfect Moment ใน 100 วันสุดท้ายของชีวิต เขาบอกว่าชีวิตที่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดภรรยา และลูกๆ มาร่วมใช้เวลาไปกับมัน
.
ภรรยาของยูจีนเล่าว่า เธอเคยพูดเรื่องลูกน้องคนหนึ่งให้ยูจีนฟัง ลูกน้องคนนั้นทำงานอย่างหนัก เมื่อกลับถึงบ้าน สิ่งที่เขาทำเป็นอย่างแรกคือการเช็คอีเมล เธอจึงถามลูกน้องคนนั้นว่าทำงานหนักขนาดนี้เพื่ออะไร? เขาตอบว่าเพื่อ “ครอบครัว”
.
เรื่องนี้ทำให้ยูจีนคิดเรื่องการจัด Piority ในชีวิตใหม่ เพราะบางครั้งสิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่เราทำ ผลลัพธ์ที่ออกมาดันตรงกันข้ามกัน ดังนั้นอย่าทำงานจนมองข้าม Perfect Moment ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกนาที
.
.
5. สร้างความสมดุลให้กับชีวิต : มันสำคัญมากที่เราจะหาจุดกึ่งกลางของชีวิตให้เจอ คำว่า “บาลานซ์” ไม่ได้หมายถึงแค่เวลา แต่ยังรวมไปถึงอารมณ์ พลังงาน ความคิด ความเชื่อ ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเรา
.
.
จงใช้ทุกช่วงเวลาให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย ชีวิตคนเราไม่ได้ยืนยาวเหมือนดั่งใจหวัง คนส่วนใหญ่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะรู้ว่านี่คือ 100 วันสุดท้ายของตัวเองด้วยซ้ำ
6
"ชีวิต" กับ "ความไม่แน่นอน" เป็นของคู่กัน
โฆษณา