9 พ.ย. 2020 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
รู้จัก “รูเพิร์ต เมอร์ด็อก” เจ้าพ่อแห่งวงการสื่อโลก
รูเพิร์ต เมอร์ด็อก ชายที่ครองความยิ่งใหญ่ในวงการสื่อมานานหลายทศวรรษ
เรื่องราวของชายคนนี้เริ่มต้นจากธุรกิจหนังสือพิมพ์เล็กๆ ในประเทศออสเตรเลีย
ก่อนจะก้าวออกไปลงทุนซื้อกิจการสื่อชื่อดังมากมายทั่วโลก
รวมทั้งยังเกือบจะได้เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อีกด้วย
1
เรื่องราวของชายคนนี้เป็นอย่างไร
อาณาจักรของเขามีอะไรบ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
3
รูเพิร์ต เมอร์ด็อก (Rupert Murdoch) เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1931 ปัจจุบันมีอายุ 89 ปี
โดยเขาเป็นชาวออสเตรเลีย ที่ภายหลังเปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกัน
2
พ่อของเมอร์ด็อกเป็นอดีตผู้สื่อข่าวที่หันมาเปิดบริษัทหนังสือพิมพ์ประจำท้องถิ่น จึงทำให้เขาคลุกคลีอยู่กับธุรกิจสื่อมาตั้งแต่เยาว์วัย
เมื่ออายุได้ 22 ปี เมอร์ด็อก ได้รับช่วงต่อกิจการจากคุณพ่อ และเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอข่าวใหม่โดยมุ่งเน้นเรื่องแนวอื้อฉาว ประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจในสังคม รวมทั้งพาดหัวข่าวด้วยข้อความชวนสงสัยน่าติดตาม
วิธีดังกล่าวดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้ดีมาก โดยเฉพาะในยุคที่โลกยังไม่มีอินเทอร์เน็ตไว้ค้นหาข้อมูล จึงส่งผลให้ยอดขายหนังสือพิมพ์ของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว
ต่อมา เมอร์ด็อก เริ่มขยายธุรกิจไปในตลาดที่ใหญ่ขึ้น โดยก่อตั้งหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ชื่อว่า “The Australian” ซึ่งมีการวางขายไปทั่วประเทศออสเตรเลีย
3
รวมทั้งเข้าซื้อกิจการหนังสือพิมพ์รายอื่นๆ ที่ตีพิมพ์ในออสเตรเลีย เช่น The Daily Telegraph, The Daily Mirror, The Sunday Times
เมื่อประสบความสําเร็จในบ้านเกิดพอสมควรแล้ว
เป้าหมายถัดไปของเมอร์ด็อก คือ การบุกตลาดต่างประเทศ
2
ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 บริษัทของเขาได้ซื้อกิจการหนังสือพิมพ์ชื่อดังหลายแห่งในประเทศอังกฤษ เช่น News of the World, The Sun, The London Times
เมอร์ด็อก นำนโยบายที่เน้นเสนอข่าวอื้อฉาว มาปรับใช้กับหนังสือพิมพ์เหล่านี้ด้วย ซึ่งส่งผลให้ยอดขายแต่ละฉบับ พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ของอังกฤษ
นอกเหนือจากสื่อสิ่งพิมพ์ เมอร์ด็อก ยังมีการลงทุนในสื่ออีกประเภทด้วย นั่นคือ สถานีโทรทัศน์
2
ในปี 1988 เขาก่อตั้งบริษัท Sky Television ซึ่งถือเป็นทีวีช่องแรกๆ ของอังกฤษ ที่มีการรายงานข่าวสารตลอด 24 ชั่วโมง
Cr. The Times
และสิ่งที่ทำให้ Sky Television ได้รับความนิยมสูงมาก คือ การชนะประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1992
อีกประเทศที่ เมอร์ด็อก เข้าไปดำเนินธุรกิจ คือ สหรัฐอเมริกา
1
เขาได้ก่อตั้ง Holding Company ที่ชื่อว่า News Corporation เพื่อลงทุนในธุรกิจสื่อต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ The New York Post, บริษัท Dow Jones & Company ซึ่งเป็นเจ้าของนิตยสาร The Wall Street Journal
รวมทั้งซื้อกิจการค่ายภาพยนตร์ 20th Century Fox ด้วยเงินมูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท
1
ซึ่งเมอร์ด็อกได้นำชื่อแบรนด์ Fox มาต่อยอดเป็นธุรกิจสถานีโทรทัศน์ข่าวและรายการต่างๆ จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในช่องทีวีเรตติ้งสูงของสหรัฐฯ ได้สำเร็จ
1
และในปี 2019 ที่ผ่านมา News Corp. ก็ทำกำไรมหาศาล จากการตกลงขายสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของ Fox ให้กับ The Walt Disney ในราคาสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาท
ซึ่งคอนเทนต์สำคัญที่รวมอยู่ในดีลครั้งนี้ ประกอบไปด้วย ภาพยนตร์ X-Men และ Avatar, การ์ตูน The Simpsons, ช่องสารคดี National Geographic, แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิง Hulu
ส่วนธุรกิจเกี่ยวกับข่าว ยังคงอยู่กับ News Corp. ต่อไป
Cr. The Australian
อ่านถึงตรงนี้ เราอาจเห็นเมอร์ด็อกประสบความสําเร็จในธุรกิจสื่อมาอย่างต่อเนื่อง แต่จริงๆ แล้ว เขาก็มีการลงทุนที่ล้มเหลวเช่นกัน
1
ในปี 2005 บริษัท New Corp. เข้าซื้อแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก Myspace ด้วยเงินสูงถึง 18,000 ล้านบาท เพื่อรองรับพฤติกรรมการเสพสื่อบนโลกออนไลน์
1
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงกว่าอย่าง Facebook เข้ามาแทนที่ ซึ่งสุดท้ายแล้ว เมอร์ด็อก ก็ต้องยอมขายหุ้นส่วน Myspace ทั้งหมดที่ซื้อมาออกไปในราคาเพียง 1,100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม News Corp. ก็ถือเป็นบริษัทสื่อที่มีเครือข่ายขนาดใหญ่ของโลก โดยในช่วงปี 2000 เคยมีธุรกิจอยู่ภายใต้การบริหารกว่า 800 บริษัท ใน 50 ประเทศ
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ จึงทำให้ เมอร์ด็อก มีอิทธิพลสูงต่อทั้งอุตสาหกรรมสื่อ จึงมักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้งว่า หนังสือพิมพ์และรายการทีวีของเขา นำเสนอข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
4
ทั้งนี้ จากการประเมินทรัพย์สินล่าสุด โดย Forbes
รูเพิร์ต เมอร์ด็อก และครอบครัว มีทรัพย์สินอยู่ที่ประมาณ 467,000 ล้านบาท
ซึ่งร่ำรวยเป็นอันดับที่ 68 ของโลก
1
นอกจากนั้น มูลค่าทรัพย์สินดังกล่าว ยังสูงเป็นอันดับ 3 ของบุคคลในกลุ่มธุรกิจสื่อ
เป็นรองเพียงแค่ ไมเคิล บลูมเบิร์ก เจ้าของ Bloomberg และ เดวิด ทอมสัน เจ้าของ Thomson Reuters เท่านั้น
2
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
ในปี 1998 บริษัท Sky ของ รูเพิร์ต เมอร์ด็อก เคยยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อสโมสรฟุตบอล “แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด” ด้วยมูลค่า 623 ล้านปอนด์ หรือราว 37,000 ล้านบาท (คำนวณจากค่าเงิน เดือนธันวาคม 1998 ซึ่ง 1 ปอนด์ เท่ากับ 60 บาท)
1
ซึ่งตอนนั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้ตอบตกลงขายหุ้นให้กับ Sky แล้ว
แต่สุดท้ายคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าของอังกฤษ มีคำสั่งให้ระงับการซื้อขาย เพราะมองว่าสถานีโทรทัศน์ Sky Television จะผูกขาดตลาดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมากเกินไปหากบรรลุดีลนี้ และอาจก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน
เรื่องนี้ทำให้ รูเพิร์ต เมอร์ด็อก ไม่ได้เป็นเจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
และเขาคงเสียดายโอกาสไม่น้อย
เพราะอีกไม่กี่เดือนถัดมา..
แมนยูก็สร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ภายในฤดูกาลเดียว
อย่างไรก็ตามถ้า รูเพิร์ต เมอร์ด็อก เห็นฟอร์มของทีมแมนยูในปัจจุบัน
ก็อาจจะไม่เสียดายแล้ว ก็เป็นได้..
2
Cr. TheFamousPeople
โฆษณา