Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Mommy of Two
•
ติดตาม
10 พ.ย. 2020 เวลา 08:56 • ครอบครัว & เด็ก
รีวิวนิทานเล่มที่ 8 มันก็โอเคนะลูกที่จะแตกต่างจากคนอื่น
it's ok to be different
หนังสือนิทานจากนักเขียนนิทานชื่อดังในหมู่เด็กๆ Todd Parr (ที่บอกว่าชื่อดังเพราะลูกๆ ทั้ง 2 คนรู้จักคนแต่งทั้งคู่ แต่แม่ไม่รู้จักเลยค่ะ)
หนังสือนิทานที่สอนให้เด็กๆ รู้จักเคารพและเข้าใจในความแตกต่าง โดยทำให้รู้สึกว่าความแตกต่างเป็นเรื่องธรรมดา
หนังสือไม่ได้มีการเล่าเป็นเรื่อง แต่เป็นประโยคง่ายๆ ในแต่ละหน้า และมีภาพวาดประกอบและพื้นหลังสีสดใสตัดกัน เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่วัยก่อนเข้าเรียน (ที่เราจะอ่านให้เค้าฟัง) ไปจนถึงประถมต้น (ที่เค้าสามารถอ่านเองและเราคอยพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาในแต่ละหน้า)
ขอยกตัวอย่างจากในหนังสือมารีวิวให้ฟังว่าเป็นหนังสือที่ดีมากๆ ยังไงค่ะ
1. มันก็โอเคนะที่ฟันหลอ
เพราะฟันหลอเป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวทุกๆ คนฟันน้ำนมก็จะหลุดไป และการที่เราฟันหลอไม่ใช่เรื่องน่าอายซะหน่อย และก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอาไปล้อเพื่อนๆ ด้วย
2. มันก็โอเคนะที่เราต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น
เพราะเราไม่จำเป็นต้องทำเองทุกๆ อย่าง และบางครั้งอาจจะเป็นคนให้ความช่วยเหลือคนอื่นๆ ด้วย
3. มันก็โอเคนะที่เราจะมีสีแตกต่างกัน
อันนี้จะสอนลูกเราได้ดีให้รู้จักยอมรับในความแตกต่างของชาติกำเนิด และเรายังสามารถโยงไปถึงเรื่องของ racism อีกด้วย
4. มันก็โอเคนะที่เราจะเดินโดยใช้ล้อ
หน้านี้จะสอนให้เด็กๆ รู้จักเคารพและไม่ล้อเลียนบุคคลที่ทุพพลภาพโดยบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากๆ เลยค่ะเด็กๆ ถ้าเมื่อไหร่ที่ร่างกายไม่สามารถใช้งานได้อย่างปกติ เราก็ต้องใช้ตัวช่วยเพื่อให้เราสามารถเดินเหินไปที่ต่างๆ ได้
5. มันก็โอเคนะที่เราจะบอกความรู้สึกของเราออกมา
สังคมไทยของเรามักสอนให้เด็กเก็บความรู้สึกโดยไม่รู้ตัว บางครั้งที่เด็กๆ หกล้มแล้วร้องไห้ ผู้ใหญ่มักจะบอกว่า ไม่เจ็บๆ หรือไม่ร้องๆ ทั้งๆ ที่เด็กก็เหมือนผู้ใหญ่ มันเป็นเรื่องปกติที่เด็กควรจะแสดงอารมณ์โกรธ รัก เสียใจ ฯลฯ ออกมา ซึ่งจะทำให้เด็กรู้จักตัวเอง รู้จักอารมณ์ของตัวเอง และรู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเองในที่สุด
ดังนั้นเมื่อเด็กหกล้ม แทนที่จะบอกว่าไม่ร้องๆ ไม่เจ็บๆ ให้บอกว่า หนูเจ็บใช่มั้ยลูก เพราะหนูเจ็บหนูเลยร้องไห้ออกมา ไม่เป็นไรนะคะ ต่อไปเราแค่ระวังให้มากขึ้น เชื่อมั้ยคะว่าเด็กๆ แทนที่จะแหกปากให้ดังขึ้น เค้าจะหยุดฟังเราและพายุน้อยๆ ก็หายไปกับสายลมเลยทีเดียวค่ะ
6. มันก็โอเคนะ ที่จะมีเพื่อนเป็นมนุษย์ล่องหน
เด็กเล็กๆ บางคนจะมีเพื่อนในจินตนาการ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
7. มันก็โอเคนะที่บางครั้งเราจะทำเรื่องน่าอายไปบ้าง
เพราะว่าไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ และทุกคนก็สามารถทำเรื่องผิดพลาดกันได้ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือน่าปกปิดซักหน่อย
8. มันก็โอเคนะที่เราจะภูมิใจในตัวเอง
ภูมิใจในความเป็นตัวเราเอง เด็กยิ่งมีความภูมิใจในตัวเองมากเท่าไหร่ เค้าก็จะมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากเท่านั้น
9. มันก็โอเคนะที่จะมีพ่อกับแม่ไม่เหมือนคนอื่น
สารภาพว่ามีความรู้สึกจุกในลำคอตอนเปิดเจอครั้งแรกและรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้สอนได้ดี
เพราะว่ามันโอเคมากๆ ค่ะที่เราจะมี แม่-แม่ และ พ่อ-พ่อ
10. มันก็โอเคนะที่จะได้รับการอุปการะ
นอกจากประเด็นข้างต้น หนังสือยังพยายามบอกเด็กๆ ว่า มันเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ที่อาจจะไม่ได้มีโอกาสอยู่กับพ่อแม่ที่แท้จริง ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจว่าตนเองอาภัพในโชคชะตา
หนังสือปิดท้ายด้วยคำพูดจากผู้แต่งว่า
"มันก็โอเคนะที่จะแตกต่าง เพราะหนูคือคนพิเศษและมีความสำคัญ ก็เพราะว่าหนูคือตัวของหนูเองยังไงล่ะ"
หนังสื้อมีเนื้อหามากกว่านี้อีกนะคะ ขอแชร์เพียงเท่านี้เพื่อไม่สปอยล์จนเกินไปค่ะ
หลังจากอ่านจบยอมรับว่าหลงรักคนแต่งคนนี้เลย หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเรียบง่ายแต่สามารถสื่อความหมายออกมาได้อย่างชัดเจนทั้งเรื่องของความเป็นตัวของตัวเอง การรู้จักตัวเอง และยอมรับในความแตกต่างของคนอื่น
ในบางครั้งเด็กที่ถูก bully นั้นส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ "ความไม่เข้าพวก" กับคนหมู่มาก เมื่อมองว่ามีคนแตกต่างจากพวก (เช่นฐานะ สีผิว พื้นเพ สภาพครอบครัว ฯลฯ) และคนที่ถูกมองว่าตัวเองแตกต่างก็จะรู้สึกถึงความไม่มั่นใจในตัวเอง การกลั่นแกล้งกันภายในโรงเรียน (bullying) และการเหยียด (recism) ก็จะเกิดขึ้นในที่สุด
หนังสือเล่มนี้นอกจากเหมาะกับการอ่านก่อนนอนแล้ว เราอยากแนะนำให้โรงเรียนนำไปอ่านให้เด็กๆ ฟังตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลเลยค่ะ
2
3
2
3
2 บันทึก
3
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย