27 พ.ย. 2020 เวลา 11:00 • ปรัชญา
นิทานคนหาปลากับนายธนาคาร
6
ในเช้าวันหนึ่ง ณ หมู่บ้านชายฝั่งเล็กๆแห่งหนึ่งในเม็กซิโก
นายธนาคารผู้ซึ่งได้หลบออกมาพักร้อน หนีจากความวุ่นวายของที่ทำงาน
ขณะกำลังเดินเล่นพักผ่อนอยู่นั้น เขาได้เหลือบไปเห็นเรือลำน้อย กำลังเทียบท่า
พร้อมกับคนหาปลาเพียงลำพัง ที่กำลังนำปลาหลายตัว ซึ่งทั้งตัวใหญ่และสด ลงจากเรือ
6
นายธนาคารรู้สึกประทับใจและชื่อชมคนหาปลาชาวเม็กซิกันคนนั้น
เขาเดินเข้าไปหาและถามชายคนนั้นว่า "นี่คุณใช้เวลานานแค่ไหนถึงจับปลามาได้ขนาดนี้?"
คนหาปลาตอบกลับไปว่า "ก็ไม่นานเท่าไหร่"
นายธนาคารจึงถามต่อว่า "แล้วทำไมถึงไม่อยู่ต่อแล้วจับปลาเพิ่มอีกหละ?"
"จับได้เท่านี้ก็พอสำหรับครอบครัว และแบ่งให้คนอื่นอีกนิดหน่อยแล้ว" คนหาปลาตอบ ในขณะที่นำปลาใส่ตะกร้า
นายธนาคารสงสัยเลยถามต่อว่า "แล้วคุณใช้เวลาที่เหลือทำอะไรบ้างหรอ?"
"ผมนอนตื่นสาย ตกปลานิดหน่อย เล่นกับลูกๆ นอนกลางวันกับภรรยา เดินเล่นในหมู่บ้านตอนเย็น จิบไวน์แล้วก็เล่นกีตาร์กับเพื่อนๆ ชีวิตผมมีเรื่องยุ่งให้ทำตลอดแหละครับ ซินยอร์" คนหาปลายิ้มขณะตอบกลับ
1
นายธนาคารหัวเรอะ "นี่คุณ ผมจบบริหารธุรกิจมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในอเมริกา ผมช่วยคุณได้นะ คุณสามารถออกเรือจับปลาให้นานกว่านี้ เพื่อที่จะซื้อเรือที่ใหญ่ขึ้น และด้วยเรือที่ใหญ่ขึ้น อีกไม่นาน คุณก็จะสามารถซื้อเรือหลายลำ ซึ่งจะทำให้จับปลาได้มากขึ้น จนในที่สุดคุณจะมีกองเรือประมงเป็นของตัวเอง
แล้วแทนที่จะขายปลาที่จับได้ให้กับพ่อค้าคนกลาง คุณสามารถขายมันให้กับผู้ซื้อโดยตรง ในที่สุดคุณจะได้เปิดโรงงานปลากระป๋องของตัวเอง ทำให้คุณควบคุมวัตถุดิบ การผลิต การขาย ได้ด้วยตัวเองเลย
และแน่นอน คุณจะต้องออกจากหมู่บ้านเล็กๆนี่ แล้วย้ายไปอยู่เม็กซิโกซิตี้ ที่ซึ่งคุณสามารถขยายกิจการของตัวเองออกไปอีก"
"แต่ซินยอร์ นั่นจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน?" คนหาปลาถาม
"อาจจะ 15-20 ปี" นายธนาคารตอบกลับ
คนหาปลายังสงสัย "จากนั้นแล้วยังไงต่อ?"
นายธนาคารยิ้ม "นี่คือส่วนที่ดีที่สุด เมื่อคุณประสบความสำเร็จแล้วทำเงินได้มากมาย คุณจะรวยมากจนสามารถเกษียณตัวเอง เพื่อย้ายไปอยู่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ริมชายฝั่ง ที่ซึ่งคุณจะสามารถนอนตื่นสาย ตกปลานิดหน่อย เล่นกับลูกๆ นอนกลางวันกับภรรยาของคุณ จากนั้นก็เดินเล่นในหมู่บ้านตอนเย็นๆ ได้มีโอกาสจิบไวน์ แล้วก็เล่นกีตาร์กับเพื่อนๆ............"
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Tim Ferriss เป็นนักเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและกลวิธีมากมายให้คนช่างสงสัยได้ทดลองทำตาม
Timothy Ferriss เป็นผู้ประกอบการ นักเรียนรู้ นักสื่อสาร นักเขียน และอื่นๆอีกมากมาย ตามที่เราจะสามารถบันทึกและนิยามในสิ่งที่เขาทำ
ทิมเป็นคนที่นำเสนอมุมมองของ"ความร่ำรวย"ที่อาจจะผิดแปลกไปจากนิยามดั้งเดิมที่เรารู้จักกัน
เศรษฐีแนวใหม่ หรือ the new rich (ผู้เพรียบพร้อมไปด้วยเวลาและอิสระในการเลือกที่จะใช้มันได้อย่างต้องการ ภายใต้ระบบอัติโนมัติที่คอยทำเงินให้) ที่ทิมนิยามขึ้น ได้จุดประกายความคิดและความหวังให้กับหลายๆคนที่ได้อ่านหนังสือของเขา
"The 4-Hour Workweek" หรือที่ถูกพิมพ์ออกมาในฉบับภาษาไทยในชื่อ "ทำน้อยแต่รวยมาก" (เป็นชื่อที่ clickbait สุดๆไปเลยใช่ไหมหละครับ)
ต้องยอมรับเลยว่านั่นมันฟังดูดีมากๆ
แต่บทความนี้ไม่ได้จะพูดถึงวิธีทำเงินพวกนั้น
เพราะนอกจากวิธีการ How-to มากมายในหนังสือ ยังมีนิทานเรื่องนึงที่พอได้อ่านแล้ว ทำให้ผมทึ่ง และกลับมานั่งทบทวนตัวเองใหม่อีกรอบเลยทีเดียว
ใช่แล้วครับ ตามหัวเรื่องที่จั่วไว้ตอนต้น
มันคือนิทาน "คนหาปลากับนายธนาคาร"
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมฉุกคิด คือเรื่องของเป้าหมาย
ผมอยากให้ทุกคนลองถามตัวเองดู ว่าเป้าหมายที่เราวางไว้ในชีวิต จริงๆมันเกิดขึ้นมาจากความต้องการ ความตั้งใจของเราเอง หรือมาจากคนอื่นในสังคม ที่(อาจจะ)ส่งอิทธิพลบางอย่างทางความคิดของเรากันแน่
สิ่งหนึ่งที่อาจจะน่าเสียดาย คือการเสียเวลาปีนภูเขาด้วยแรงกายแรงใจและเวลาชีวิต ขึ้นไปพบกับความจริงที่ว่านี่ไม่ได้เป็นภูเขาที่เราเลือกมาตั้งแต่แรก
3
หลายครั้งในชีวิต เราอาจจะต้องเผชิญกับความกดดันทางสังคม
กับความเชื่อของการที่จะต้องทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง
หลายครั้งที่ดูเหมือนว่าเราต้องทำบางอย่างที่ไม่ชอบ เพื่อที่จะให้เราได้มีโอกาสทำสิ่งที่ต้องการจริงๆ
คำถามคือสิ่งเหล่านั้นมันเป็นความจริง หรือเป็นเพียงความเชื่อที่เราสร้างให้กับตัวเองกันแน่
บางครั้งชีวิตเราก็(อาจจะ)สั้นเกินกว่าที่จะต้องเดินอ้อมก็ได้
2
โฆษณา