29 พ.ย. 2020 เวลา 13:50 • นิยาย เรื่องสั้น
#จันทร์เจ้าขาบทที่5ตอนที่1,
(29/11/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
ขอส่งจันทร์เจ้าขา ตอนใหม่ให้เพื่อนๆได้อ่านเพลิดเพลินก่อนนอนกันนะครับ 😇❤️💙💚🎶🎵
สุขสันต์วันอาทิตย์นะครับ
..
..
บทที่ 5 นคราบาดาล
ตอนที่ 1 สายธารอารยะ
#ณ.ลานฝึกหัดบินของเหล่าเมขลาบนยอดคีรีการเวก
“ประตูบาดาลแห่งนี้มีผู้รู้เส้นทาง ในยุคสมัยนี้ เหลือเพียงทายาทคนสุดท้ายแห่งสายเลือดบริสุทธิ์นัตกะต่อว์เท่านั้น ขอรับ..
เด็กหญิงผู้นี้ นามว่า มะตีริ (သီရိ-ความดีงาม)
หรือมี อีกชื่อที่เรียกในราชสำนักสยามว่า
“คุณหนูดี”..ขอรับ”
โหงพรายน้อยพูดจบ แล้วยังคงพนมมือนิ่งค้างไว้ รอฟังคำถามต่อไปจากหม่อมทินกร ..อย่างตั้งใจ
“หึหึ..ยังมีผู้รู้ในเส้นทางประตูบาดาล นอกจากคุณหนูดี ..อยู่ที่นี่อีกนะเจ้าโหงพรายน้อย..”
หม่อมทินกร หัวเราะเบาๆ แล้วหันไปมองที่ คุณหนูพา และคุณหนูน้อยซ์..
โหงพรายน้อย หันหน้ามองตามสายตาของ หม่อมทินกร แล้วเอ่ยถามต่อว่า ..
“ผู้นั้นเป็นคุณหนูพา กับคุณหนูน้อยซ์ หรือ ขอรับ หม่อมท่าน..”
หม่อมทินกร หันหน้ากลับมามองโหงพรายน้อย พลางพูดขึ้น ว่า..
“ชะตา แลเวลา เวียนวนมา
ให้ปรากฏ..
ระลึก ถูกกำหนด เมื่อกรรมหมด จำสัญญา..
ช้าเร็ว จะเมื่อไหร่ ไม่มีใคร
เร่งเวลา..
ทุกอย่าง ตามชะตา แลเวลา
จะปรากฏ..”
โหงพราย ยกมือขึ้นจับผมที่คล้ายเขาควาย และส่ายหัวด้วยสีหน้ามึนงง พูดว่า..
“ โอย..ทำไม ถึงตอนสำคัญ..หม่อมท่านชอบพูดเป็นบทกลอน ..ราวกับคำพยากรณ์ในกระบอกเซียมซี ศาลเจ้าเล่งจูเกียง เลยนะขอรับ..
ถ้าในวันหน้าโหงพราย ได้ไต่ระดับรับใช้ เป็นเทพชั้นสูงขึ้น แล้วจะต้องกล่าวคำพยากรณ์ เป็นบทกวี เช่นนี้..
1
โหงพรายคงจะต้องเริ่มฝึกตั้งแต่วันนี้ แล้วสินะขอรับ..”
หม่อมทินกร ได้ยินโหงพรายน้อยพูด ก็หัวเราะเขิน อยู่พักหนึ่ง ..แล้วจึงหันไปเอ่ย กับ คุณหนูพา และคุณหนูน้อยซ์ ว่า..
“คงจะถึงเวลาที่จะให้เจ้าทั้งสอง ..ได้คืนกลับสู่สยาม พร้อมกับเจ้าโหงพรายน้อย เสียที..
เมื่อหนูพา..ได้กลับไปยังพระนครแล้ว ขอให้เจ้า..
จงเฝ้าสังเกตถึงบุคคลต่างๆ ในพระนคร ที่มีลักษณะอาการถูกหนอนอเวจี เข้าสิงสู่ ..แล้วเฝ้าติดตาม อย่างเงียบๆและระมัดระวัง.. จากเวลานี้ ไปจนถึง ข้างขึ้น ในครั้งต่อไป.. เราคงจะเห็นความวุ่นวายที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนเจ้า แม่หนูน้อยซ์ ข้าจะขอส่งเจ้า ..กลับคืนยังประตูโลกวิญญาณในเมืองสงขลาบ้านเกิดของเจ้า ..เนื่องด้วยว่า หากเจ้าปรากฏยังพระนคร ..บรรดาผู้รับใช้แม่มดจ่าย ก็จะทราบว่า แผนเดิมที่ได้วางไว้นั้นไม่สำเร็จ..
ขอเจ้า จงตั้งใจร่ำเรียนวิชาแพทย์สมัยใหม่จากเหล่ามิชชั่นนารี .. และรอเวลาจนกว่าจะพบขุนวิจิตรวรสาสน์ ในอีก 3 ปีข้างหน้า.. เจ้าจะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญ ของราชสำนัก..
เจ้าจะคิดเห็นประการใดบ้างรึ ..แม่หนูน้อยซ์ ?”
คุณหนูน้อยซ์ ยกมือขึ้นไหว้หม่อมท่าน แล้วเอ่ยขึ้นว่า..
“ตามที่หม่อมท่าน จะเห็นเหมาะสมเถิดเจ้าค่ะ..
ไม่ว่าจะให้รอ 3 ปี หรือ นานกว่านั้น หนูน้อยซ์ ก็จะตั้งใจเล่าเรียนวิชาแพทย์ เพื่อจะกลับไปช่วยให้คุณไกรสรหลุดพ้นจากการควบคุมของหนอนเขียวแม่มดจ่าย เจ้าค่ะ..”
หม่อมท่าน พยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ ..แล้วจึงหันไปพูดกับ โหงพราย ว่า..
“ส่วนเจ้า โหงพรายน้อย..
ถึงแม้เจ้าจะเป็นอิสระไม่จำเป็นต้องมีนาย อีกแล้ว..
แต่จากนี้ไป ขอให้เจ้า จงไปช่วย พ่อพีระ .. และเป็นกำลังสำคัญ ในการทำแผนที่ของสยาม ของพ่อพีระ และคณะเถิด..
จงจำหมายสำคัญ ในภายภาคหน้า ว่า ..จะมี เวลาและชะตา ให้เจ้าเลือก ที่จะสามารถทำให้เจ้าก้าวข้ามสู่ความหมายของการบังเกิดใหม่อีกครั้ง ..
เมื่อถึงวันนั้น ก็แล้วแต่เจ้าจะตัดสินใจเถิด..”
จากนั้น หม่อมทินกรจึงวาดมือขึ้นกลางอากาศ วนอยู่ราว 3 ครั้ง จนปรากฏอัคคีมรกต ลุกโชนขึ้นอยู่ในวงอากาศ..
“ขอความสุข สวัสดี จงมีแก่เจ้าทั้งสาม..แล้วเราจะได้พบกันอีก”
หม่อมทินกรกล่าวอำนวยพรขึ้นอีกครั้ง..แล้วจึงโบกมือให้ วงแหวนแห่งอัคคีมรกต ค่อยๆลอยผ่าน ไปยังคุณหนูน้อยซ์เป็นคนแรก..
วงแหวนอัคคีมรกตนี้ ดูคล้ายเป็นดังประตูที่พาคุณหนูน้อยซ์ไปยังอีกสถานที่หนึ่ง..
และเมื่อวงแหวน นั้น สัมผัสผ่านร่างของคุณหนูน้อยซ์ ร่างนั้น ก็ค่อยๆเลือนหาย จากไป..
จากนั้นวงแหวนนั้น ก็เลื่อนผ่านไปยังโหงพราย..ทำให้ร่างโหงพราย ค่อยๆเลือนหายจากไป อย่างช้าๆ อีกเช่นกัน
..
..
“เมขลาพาริส..”
เทพอชิราเอ่ยเรียก พลางฉวยจับข้อมือของคุณหนูพาไว้..
“มีอะไร หรือ เจ้าคะ ท่าน
เทพอชิรา ?”
คุณหนูพา หันหน้ามามองท่านเทพอชิรา อย่างแปลกใจ..
“หากประตูแห่งนคราบาดาล เปิดออกอีกครั้ง..
โปรดขอเจ้า จงอย่าได้ก้าวล่วงเข้าไปในประตูนั้น อย่างเด็ดขาด..
ขอจงระลึกถึงคำเตือนของข้าให้จำมั่นนะ พาริส”
เทพอชิรา กล่าวตอบ พร้อมกับค่อยๆบรรจงสวมกำไลทอง สองเส้นซ้อนกัน ใส่เข้าในข้อมือคุณหนูพา..
กำไลทองนั้นสว่างวาบขึ้น พร้อมกับถ้อยคำสลักที่ว่า ..
“อชิราพาริส ร่วมร้อย
จันทร์วิจิตร”
..
..
“ข้าขอคืนกำไลนี้ ให้เจ้า
..นะ พาริส..
และหากเมื่อถึงเวลานั้น.. ในสถานที่อันเร้นลับ แห่งประตูนคราบาดาล.. ขอจงอ่านถ้อยคำสลัก ..จารึกหัวใจของข้า.. บนกำไลนี้..อีกครั้ง.
แม้ต้องฝ่า หุบเขาเงามัจจุราช ข้าก็จะไปปรากฏอยู่เคียงข้าง ร่วมสู้ และปกป้องเจ้า .. เมขลาพาริส”
..
..
..
บัดนี้ วงแหวนแห่งอัคคีมรกตก็เคลื่อนผ่านมาจนถึงคุณหนูพา..
ร่างของคุณหนูค่อยๆ เลือนหายไป จากอีกด้านหนึ่ง สู่อีกด้านหนึ่งช้าๆ..
แต่เทพอชิรากลับยิ่งจับข้อมือของคุณหนูพาอีกด้านนั้นไว้แน่น
จนอัคคีมรกตค่อยๆเลื่อนผ่านถึงข้อมือนั้น จนเลือนหายไปช้าๆ ..
คงเหลือไว้แต่มือที่กุมความว่างเปล่าของเทพอชิรา..
“ขอบคุณนะเจ้าคะ..”
เสียงของคุณหนูพา ลอยแว่ว ออกมาจากวงแหวนอัคคีมรกต ก่อนที่อัคคีมรกตจะค่อยๆมอดดับลง
พร้อมหยาดน้ำตา หยดหนึ่งค่อยๆไหลออกมาจากดวงตางามคู่นั้นของเทพอชิรา
..
..
จบบทที่ 5 ตอนที่ 1
#เกร็ดเพิ่มเติม
#ขุนวิจิตรวรสาสน์
ในปีพ.ศ. 2429 เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เริ่มเติบโตในงานราชการ เป็น..
ขุนวิจิตรวรสาสน์
#ศาลเจ้าเล่งจูเกียง
ศาลเจ้าเล่งจูเกียงก่อตั้งขึ้นโดยชาวจีนในเมืองปัตตานีเมื่อปี พ.ศ. 2117 ยุคจักรพรรดิว่านลี่แห่งราชวงศ์หมิงตรงกับรัชกาลสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่าศาลเจ้าซูก๋ง เพราะมีโจ๊วซูก๋งหรือพระหมอเป็นเทพหลักของศาล ต่อมาได้รับการบูรณะและจัดงานสมโภชโดยหลวงสำเร็จกิจการจางวาง (ตันจงซิ่น) เมื่อปี พ.ศ. 2407 หลังจากนั้นพระจีนคณานุรักษ์ (ตันจูล่าย) ได้อัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวจากบ้านกรือเซะมาประดิษฐานในศาล และตั้งชื่อศาลใหม่ว่า "ศาลเจ้าเล่งจูเกียง"
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
29/11/2020

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา