24 ธ.ค. 2020 เวลา 10:38 • ความคิดเห็น
นานมาแล้วมีเศรษฐีคน หนึ่ง ร่ำรวยมาก รวนจนไม่รู้จะเอาเงินไปไว้ที่ไหน
2
วันหนึ่งเขาเลยอยากจะลองทดสอบอะไรบางอย่าง จึงให้ ลูกน้องของเขา ไปเกณฑ์ คนมาจำนวน 10 คน โดยให้เกณฑ์คนที่มีอาชีพหลากหลาย แตกต่างกัน
หลังจากที่ได้ 10 คนมาแล้ว เศรษฐีได้ทำการแจกเงินให้กับทุกคน คนละ 2 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขเพียงว่า หากคนของเศรษฐี ไปถามพวกเขาเมื่อไหร่ ต้องตอบตามความจริงว่า เงินที่ให้ไปแล้วเหลือเท่าไหร่
ผล ปรากฎว่า....
มีคนจำนวนหนึ่ง นำเงินที่ได้ ไปใช้จ่ายทันที ซื้อรถ ซื้อเสื้อผ้า ของใช้ฟุ่มเฟือย จัดงานปาร์ตี้ จนเงินหมดภายในไม่กี่วัน
มีคนจำนวนหนึ่ง เก็บเงินไว้ ไม่นำมาใช้จ่าย
มีคนจำนวนหนึ่ง นำเงินที่ได้ไปเปิดร้านค้า และต่อยอดตัวเองกลายเป็นพ่อค้า
มีคนอีกจำนวนหนึ่ง นำเงินที่ได้ ไปลงทุน​ ซื้อทองคำ​ สิ่งมีค่า​ และลงทุนกับพ่อค้า​ นักธุรกิจ
เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี เศรษฐีได้ให้คนไปลองถาม ทั้ง 10 คนดูว่า ใครเหลือเงินเท่าไหร่แล้วบ้าง
ผลปรากฎว่า....
คนที่นำเงินไปใช้จ่ายตั้งแต่แรก ไม่เหลือเงินเลยสักบาท แถมปัจจุบันก็กลับมาจนเหมือนเดิม ที่แย่ก็คือ บางคน ถึงขั้นเป็นหนี้เป็นสิน เพราะตอนที่มีใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย พอเงินหมด ก็ยังคงหน้าใหญ่ ใช้จ่ายดังเดิม
1
ส่วนคนที่ เก็บเงินเอาไว้ นั้นก็ยังคงมีเงินเท่าเดิม แต่เพิ่มเติมคือ สุขภาพจิต ที่เสียไปอย่างมาก เขากลายเป็นคนขี้ระแวง หวงนักหวงหนาว่า ใครจะมาขโมยเงินของเขาไป เอาแต่เฝ้าอยู่ที่บ้านไม่ยอมไปไหน
ส่วนคนที่พอจะมีเงินเพิ่มขึ้นมาจากเดิม ก็คือคนที่ ไปเปิดร้านค้า พ่อค้าบางคนขายดี จนเงินเพิ่มจากเดิมเป็นเท่าตัว บางคนขาดทุนก็มี แต่ด้วยเงินที่มีพอสมควรก็ยังพอตั้งตัว ฟื้นกลับมาได้อาจจะไม่ได้เงินเยอะเท่าคนอื่น แต่ก็ยังพอทำเงินได้บ้าง
ส่วนคนที่ นำเงินไปลงทุนนั้น เป็นคนที่มีเงินเพิ่มขึ้นมาเยอะที่สุด แถมยังไม่ต้องเหนื่อยอีกด้วย เพราะทุกครั้งที่ลงทุนกับธุรกิจใหม่ ๆ หรือ ธุรกิจเดิม ๆ มักจะได้เงินปันผลมาให้ใช้อยู่เสมอ ๆ ยิ่งนานวันเข้า ก็ยิ่งทำกำไรให้กับตัวเองมากขึ้น ๆ
1
เราได้อะไรจากนิทานเรื่องนี้บ้าง??
มีคนจำนวนมากบนโลกใบนี้ ที่ไม่ได้โชคดีแบบ คน 10 คนที่เศรษฐีได้เลือกเอาไว้ แต่เรามีบทเรียนดี ๆ ที่เกิดจาก การเลือกเส้นทางที่แตกต่างไปของคนแต่ละคนให้ได้เห็นกัน
ถึงแม้การลงทุนต่าง ๆ นั้นจะมีความเสี่ยง แต่ ก็นำมาซึ่งผลกำไรที่มากเช่นกัน "High risk High return" เป็นคำที่ยังใช้ได้ในปัจจุบัน สำหรับการลงทุน
1
แต่การลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยงเลยนั้นก็มีอยู่ นั่นคือการลงทุนในตัวเอง
เพราะยิ่งเรา รู้มากเท่าไหร่ ก็จะพร้อมมากขึ้นเท่านั้น
โอกาส มักจะมาโดยไม่รู้ตัวเสมอ และโอกาส จะเป็นของคนที่พร้อมเสมอ
เหมือนดัง "คนจำนวนหนึ่ง" ใน 10 คนที่เศรษฐีได้เลือกมานั่นแหละ
คนที่ "รู้" ก็ย่อม ทำเงินได้มากกว่าคนที่ "ไม่รู้" เสมอ
มีเรื่องไหนที่อยากให้ "ฉุดคิด" มาแชร์ให้ฟัง ทิ้งคอมเม้นท์ไว้ได้นะครับ
หรือ อยากติชม ก็สามารถทำได้เช่นกัน
แล้วพบกันบทความหน้าครับ
โฆษณา